ฮือฮา!!“มะเดี่ยว”-“เกล้า”โผล่งานเดียวกัน (ชมคลิป)

    กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลเลยทีเดียว หลังจากผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง “มะเดี่ยว” ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ฉะแหลกถึงผู้จัดการดาราชื่อดัง ถึงเรื่องการทำงานที่ไม่มีน้ำจิตน้ำใจให้ใคร หลังจากที่นางเอกในความดูแลมาแคสติ้งซีรีส์ที่ตัวเองกำกับ กระทั่งมะเดี่ยวได้โพสต์ต่ออีกว่ากำลังหานางเอกใหม่มาร่วมงาน งานนี้ชาวเน็ตต่างคาดเดาว่า ผู้จัดการคนดังกล่าวนั้นคือ “เกล้า น้ำพราว” ผู้จัดการคนดังของ “ใหม่” ดาวิกา และ “ใบเฟิร์น” พิมพ์ชนก นั่นเอง
    ขณะที่ “เกล้า น้ำพราว ก็ออกมาโพสต์โต้กลับในไอจีส่วนตัว โดยเนื้อหาประมาณว่า ในเรื่องของการทำงาน ไม่มีใครที่จะทำอะไรแล้วถูกใจทุกคนไปหมด 100 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังชี้แจงด้วยว่า “มาตรงเวลา” และ “กลับตรงเวลา” ตามที่ตกลงไว้ทั้ง 2 ฝ่ายแล้วก็ “ผิด” เพราะไม่ได้ตามผลประโยชน์หรือความต้องการของเขา ใจเขาใจเราคิดกลับกันบ้าง
ล่าสุดวันนี้(21 พ.ย.) ในรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” ที่ สยามพารากอน ซึ่งนางเอกสาว “ใหม่” ดาวิกา โฮร์เน่ ที่แสดงในเรื่องนี้ มีผู้จัดการส่วนตัวอย่าง “เกล้า น้ำพราว” มาดูแลนั้น ได้เดินทางมาด้วย แถมยังมี “มะเดี่ยว” ชูเกียรติ ผู้กำกับ ที่จู่ๆ มาในงานนี้ โดยมะเดี่ยวได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า
    “วันนี้ตั้งใจมาดูหนัง เป็นแขกของน้องเจเจ  (กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม) และ CJ major เขาชวนมาหลายวันแล้วและเราก็อยากมาให้กำลังใจน้อง”มะเดี่ยวกล่าว

 

“มะเดี่ยว”ชูเกียรติ 

    ถามต่อว่า วันนี้ “เกล้า”น้ำพราว มาร่วมงานด้วย จะเกิดปัญหาในงานหรือเปล่า ผู้กำกับชื่อดัง กล่าวว่า “ไม่ใช่ๆ ไม่มีๆ แหม...พวกเธอก็ดูละครกันเยอะไป เราก็มาปกติ เราก็เป็นของเราอย่างนี้อยู่แล้ว เวลาทำงานเราก็มีมาตรฐานในการทำงานประมาณหนึ่ง ตอนนั้นอาจจะอารมณ์ไม่ดีด้วยอะไรด้วย เป็นคนพูดไม่ค่อยสุภาพบนโลกออนไลน์ แต่จริงๆ เราเป็นคนสุภาพมากเลยนะ ตรงนี้มันมีปัญหาและได้ยินมาเยอะ ตอนแรกที่รู้ว่าน้องเขาจะมาเล่นและมีผู้จัดการคนนี้ ทุกคนก็แบบ อู้หู...ไหวเหรอ เราก็เออน่าจะได้นะ พอเจอกันวันแรก ก็เลยจะต้องคอนเฟิร์มกับทุกคนว่าเราไหว คือเป็นปกติของวันฟิตติ้งแหละ เพราะเวลาเราเอาคนมาแสดง เขาก็จะแสดงความสามารถอื่นๆ พูดคุยด้วย มีการเต้น การต่อสู้ อย่างตอนเช้า จะเป็นมาร์ช จุฑาวุฒิ ในบทของนักมวยปล้ำ ซึ่งก็ต้องมาเข้าท่าอะไรกัน นักแสดงมีหลายคน ทุกคนเข้ามาก็ต้องใช้เวลาในการฝึก วันฟิตติ้งมันไม่มีใครเป๊ะกันได้ทุกคนหรอก น้องเขาเข้ามา ก็ยังต้องฝึกการเต้นอยู่ โอเคว่าเราส่งการบ้านไปให้แล้ว พอมาถึงหน้างานมันไม่ได้ ก็ไม่มีใครถือสา ไม่มีใครว่าอะไร ก็เป็นไปตามนั้น ซ้อมๆ กันไป ทีนี้พอจะเสร็จจากงาน เราก็รีบถ่ายให้ เพราะเราก็รู้อยู่แล้วมีคนมากระซิบบอกว่าเดี๋ยวเขาจะไปนะ แต่พอมันใกล้จบ มีคนบอกว่ามันเหลืออีกชุดหนึ่ง ตอนนั้นยังไม่ได้แก้ผม เราก็โอเคเดี๋ยวก็คงถ่าย เรานั่งอยู่ เพราะเราเป็นโปรดิวเซอร์ สักพักเขามาสวัสดีค่ะ แล้วกลับไป เราก็สวัสดีจ้า มีคนวิ่งมาบอกว่าพี่คะ ยังไม่ได้ถ่ายอีกชุด เราก็หา...ยังไม่ได้ถ่ายอีกชุดเหรอ แล้วทำไมกลับเลยล่ะ ขอแค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ”มะเดี่ยวกล่าว
    ถามว่าได้คุยกับผู้จัดการ ที่เป็นคู่กรณีหรือไม่ มะเดี่ยวตอบว่า เขาไม่ได้คุยกับผู้จัดการอยู่แล้ว คือในโปรเจกท์สแลมแดนซ์ทุ่งฝันสนั่นฟลอร์ ทางช่องวัน เราเป็นเจ้าของโปรเจกท์ ลิขสิทธิ์บทประพันธ์ ทางจีเอ็มเอ็มทีวี เป็นผู้จัด ช่องวันของคุณบอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เป็นช่องในการผลิต ทั้ง 3 ฝ่าย มีการพูดคุยกันเรื่อยๆ ว่าจะเอาใครมาเล่น 
    "ดังนั้นหน้าที่ของการติดต่อดาราจะเป็นอีกงานของคนที่เป็นคนคุย เวลาทำงานเราก็ไปในฐานะโปรดิวซ์ ไปดูงานให้เรียบร้อย หลังเกิดเรื่อง เราไม่ได้คุยกับเขาอยู่แล้ว ไม่ใช่หน้าที่เราต้องคุย คือบางสิ่งบางอย่าง เราต้องรู้จักการจัดการกับปัญหา คือคนบางประเภทมันไม่สามารถพูดตรงนั้นได้ บอกตรงนั้นได้ ไม่งั้นก็จะเกิดดราม่าแล้วก็จะไม่จบ หลังจากนั้น คือการทำงานอีกหลายๆ เดือน เราไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เขาฟัง แต่เราต้องการจะพูดให้สาธารณะฟัง พูดให้วงการฟังว่า เราเจอสิ่งเหล่านี้อยู่ เราเปิดสาธารณะนั่นแปลว่าเราไม่ได้พูดลับหลัง เราพูดให้คนได้ยิน ว่ามันคือเรื่องแบบนี้"มะเดี่ยวกล่าว

 

“เกล้า”น้ำพราว

    คนมองว่าทาง“มะเดี่ยว”ไม่ควบคุมอารมณ์
    “อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้นะ ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วย เราได้คุยกับผู้ใหญ่แล้ว (ยิ้ม)จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้โพสต์เขานับถือในสิทธิ์ของเราว่าจะโพสต์หรือไม่โพสต์ ในการทำงานระหว่างเรากับผู้ใหญ่ ถือว่าเราให้เกียรติกัน ไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่จะไม่เคยโดน เพียงแต่ว่าเขาไม่พูดหรือใครไม่พูด แต่เราควรจะพูด ถ้าพูดถึงมาตรฐานการทำงานในวงการนี้นะ เราออกมาพูดเพราะเราอยู่ในช่วงเวลาที่แบบ ไม่ว่าจะวงการอีเว้นท์ โฆษณา ละคร หนัง ทำไมผู้จัดการดาราถึงมีอิทธิพลต่อทุกคนมากขนาดนี้ แม้กระทั่งวงการสื่อมวลชนในการเชิญมาทำอะไรต่อมิอะไรก็ตาม ทำไมทุกคนถึงกลัว เธอกลัวอะไรกันเหรอ เราทำงานนี่เราให้เกียรติกัน เราควรมาทำงานด้วยการให้เกียรติกัน ไม่ใช่ว่ากลัวใครสักคนจะลุกขึ้นวีน แล้วออกไปจากกองหรือไปด่ากราดทีมงาน มันไม่ควรเป็นอย่างนั้น หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีการพูดคุยกันระหว่างตัวเราและตัวช่องและตัวของผู้จัด ทางฝั่งโน้น ก็มีการโทรคุยกับโปรดิวซ์ว่าอะไรยังไง บวกลบคูณหารกันเอง เราเองก็คิดว่าเราควรให้โอกาสน้อง เพราะจริงๆ มันคงไม่ใช่ความผิดน้องหรอกมั้ง น้องอาจจะไม่รับรู้อะไร ถ้าเกิดเราตัดสินใจปลดด้วยสิ่งที่ผู้จัดการทำหรือคนอื่นทำ
    สำหรับตัวเราเอง เราก็มองว่าเราไม่แฟร์กับน้อง และคิดว่าเราต้องให้โอกาสน้องในการทำงาน ยอมรับว่าผมเองก็อารมณ์ร้อน อารมณ์ร้าย ถ้าตกลงกันได้ มาถึงจุดหนึ่ง ถ้าเราทำงานข้ามเส้นกันไป เราก็มาตกลงกัน ตัวเรา เรามองงานเป็นศูนย์กลางเป็นหลักนะ โอเคถ้าทำแล้วสบายใจและช่องเอง ก็ไม่อยากไปหาคนใหม่ หรือว่าขายลูกค้าไปแล้ว ถ้าหากเปลี่ยนแล้วเกิดความวุ่นวายการทำงานไม่มีความสุข ดังนั้นทำงานกันต่อ แต่ตอนนี้แล้วแต่ผู้จัดการ และตัวน้องว่าจะพิจารณาอย่างไร ว่าทางน้องจะให้โอกาสเราไหม”

 

    ถามว่าจะมีความลำบากไหมหากต้องกลับมาร่วมงานกันในครั้งนี้
    “ร่วมงานกันได้ก็เราทำละคร ทำงานให้มันเสร็จ เรามาทำละคร เราไม่ได้มาเป็นผัวเมียกัน เราทำงาน เมื่อมันได้ละครทุกคนแฮปปี้ เราก็มีความสุข (หากต้องติดต่อกับเกล้าสามารถคุยได้) ให้ทีมงานคุย เอาจริงๆเราว่ามันต้องมีการเคลียร์นะ หลังจากนี้ เพราะอย่างไรก็ตาม ผมก็ต้องคุยกับทางผู้จัด เนื่องจากเราเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และเราเป็นโปรดิวเซอร์ว่าจะมีหลักประกันอะไรไหมที่ทีมงานจะทำงานกัน โดยแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้มันใช้ทักษะ ใช้การซ้อมและใช้เวลาในการทำงานค่อนข้างเยอะ เราพูดเลยว่าเราเอางานเป็นหลัก” มะเดี่ยวบอก
    ถามว่าทางมะเดี่ยวเป็นคนเลือก “ใบเฟิร์น” เองหรือไม่ ในการมาแสดงซีรีสเรื่องนี้ ผู้กำกับดังบอกว่า “ไม่ได้เลือก ส่วนเรื่องที่บอกว่าส่งคลิปไปให้ซ้อมเต้น เราส่งไปให้ประมาณ2วัน เราเข้าใจ ว่าก็คงจะเต้นไม่ได้หรอกนะ เต้นไม่ได้ไม่มีใครว่า แต่ถ้าเกิดว่าเราจำเป็นต้องทำให้เต้นได้ เราก็ต้องขอนิดหนึ่ง (อีกฝ่ายยืนยันว่าเลทมากกว่าที่ตกลงจริงๆ) ก็เลยมา 10นาที 15 นาที แต่ว่าในการทำงานของดารามาตรงเวลากลับตรงเวลา มันไม่พอ คุณก็ต้องดูในบริบทด้วยว่า ได้ใช้เวลาไปกับกิจกรรมอื่นๆอะไรไปเท่าไหร่กว่าจะมาถ่ายได้ ในรายละเอียด เราคงไม่พูด เพราะพูดไปเดี๋ยวจะหาว่าร้าย มันมีรายละเอียดอื่นๆอีกนะ ที่ต้องช่วยกัน เพราะคนที่จะได้รับผลดีจริงๆก็คือตัวน้อง”

 

“มะเดี่ยว”ชูเกียรติ