ความรัก‘ในหลวง-พระราชินี'เจี๊ยบ’ตื้นตันชมเอ็มวี'เหมือนเคย'

         ก่อนหน้านี้มีการเผยแพร่ภาพมิวสิกวิดีโอเพลง “เหมือนเคย” ของ “บอย โกสิยพงษ์” ที่ร้องโดย “เศรษฐา ศิระฉายา” ที่นำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาทำเป็นมิวสิกวิดีโอ เปิดในงานเลี้ยงฉลองวันครบรอบวันราชาภิเษกสมรส วันที่ 28 เมษายน 2548 โดยนักแสดงที่ได้มีโอกาสร่วมอยู่ในงานวันนั้นด้วยคือ  “เจี๊ยบ” โสภิตนภา  

 

         “มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตอนนั้นเจี๊ยบไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะเป็นวันครบรอบแต่งงานของพระองค์ท่าน วันนั้นเจี๊ยบ-อ้อม-กัปตัน ได้มีโอกาสแสดงละครสั้นๆ ถวายหน้าที่นั่ง วันนั้นก็จะมีท่านผู้หญิง และนางสนองพระโอษฐ์หลายๆ ท่านมาร่วมแสดงด้วย จำได้ว่าแต่งเป็นชุดในสมัยรัชกาลที่ 7 มองไปไม่ไกลเลย พระองค์ท่านประทับอยู่ทั้งสองพระองค์ ตอนนั้นเราเล่นละคร แล้วหันไปเห็นพระองค์ท่านหัวเราะทั้งสองพระองค์ จำได้เลยว่าเคยคุยกับคุณอ้อมว่าจะไม่หันไปมองพระองค์ท่าน เพราะเราจะตื่นเต้น แล้วพอหันไปมอง จำได้เลยว่าคุณอ้อมปากสั่นขึ้นมา เจี๊ยบเองก็มือไม้สั่น หลังจากจบการแสดงทุกอย่างแล้ว ก็มีเพลงเพลงหนึ่งขึ้นมา ถ้าจำไม่ผิด คือเป็นสิ่งที่คุณหญิงต้น (ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี) ทำขึ้นมา เป็นมิวสิกวิดีโอที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้งสองพระองค์ตั้งแต่เริ่มรักกัน เป็นเพลงของคุณต้อย (เศรษฐา ศิระฉายา) ชื่อเพลงเหมือนเคย วันนั้นเราก็อยู่ตรงนั้นด้วย ตอนนั้นเรายืนอยู่หลังเวทีกัน จำได้เลยว่าเป็นเหมือนผ้าใบ เราอยู่ข้างหลังไม่ได้ยืนอยู่ข้างหน้า ซึ่งพระองค์ท่านประทับอยู่ด้านหน้า ตอนนั้นดูมิวสิกวิดีโอนี้ เราร้องตามไปด้วย แล้วก็ร้องไห้กันด้วยความปลื้มปีติมาก จำได้ว่าหลังจากนั้นพระองค์ท่านเสด็จฯ กลับด้วยกัน เจี๊ยบได้ฟังการสัมภาษณ์ของคุณหญิงต้นว่า พระองค์ท่านทั้งสองพระองค์ทรงคุยกัน เจี๊ยบขอใช้คำสามัญนะ เพราะใช้คำราชาศัพท์ไม่เป็น พระองค์ท่านคุยกันว่ารูปนั้นรูปนี้ที่อยู่ในมิวสิกวิดีโอ ท่านไปถ่ายที่ไหนกันมา เราอยู่ข้างหลังไม่ได้เห็นภาพเหล่านี้ แต่ก็ดีใจมาก ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตของเด็กตัวน้อยๆ ได้ไปอยู่ตรงนั้น หลังจากนั้นเราเดินออกไป ก้มลงกราบลาพระองค์ท่าน แล้วเห็นภาพทั้งสองพระองค์จับมือกันออกไป เป็นภาพที่น่ารักมาก แต่วันนี้เราคิดถึงภาพนี้ จุกอยู่ข้างใน จะเป็นภาพที่จะจำไว้ จะไม่มีวันลืมไปจนตาย” นักแสดงสาวเผย พร้อมเล่าต่อว่า ในช่วงที่ถวายงาน “ในหลวง-พระราชินี” ครั้งหนึ่งพระราชินีเคยมีรับสั่งชมด้วย

 

         "พระราชินีเคยเดินมา ท่านเคยชมเจี๊ยบว่าสวยนะจ๊ะ ซึ่งเราดีใจมาก ภาพจำของในหลวงในความรู้สึกของเจี๊ยบ เป็นภาพที่พระองค์ทรงจับมือพระราชินี ยิ่งตอนนี้เมื่อพระองค์ท่านสวรรคต และเราได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้งสองพระองค์ ทำให้เรารู้ว่า ความรักแท้นั้นมีอยู่จริง แต่ความรักของพระองค์ท่านไม่ได้แบ่งให้แค่สมเด็จพระราชินีเท่านั้น แต่ยังทรงทำมาถึงพวกเรา ที่เป็นประชาชนทั่วไปด้วย ท่านทรงเหน็ดเหนื่อย ทรงงานหนักเพื่อพวกเรา ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ความกตัญญูที่พระองค์ทรงมีต่อพระมารดา ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง หลับตาคิดถึงภาพในหลวง ภาพเข้ามาเต็มไปหมด” ดาราสาวบอก

         นอกจากนี้ นักแสดงสาวยังเล่าให้ฟังถึงความทรงจำในตอนนั้น ที่ได้ถวายงานและได้เห็นในหลวงว่า "ต้องบอกก่อนว่าตอนนั้นเจี๊ยบเด็กมาก เจี๊ยบเรียนอยู่จิตรลดา ต้องถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ได้เรียนอยู่โรงเรียนของพระองค์ท่านด้วย การที่เราได้เรียนที่โรงเรียนจิตรลดา เราได้เห็นโครงการต่างๆ ที่พระองค์ท่านทำ ทั้งการทำนา ปลูกข้าว การทำฟาร์มโคนมต่างๆ ในตอนนั้นเจี๊ยบได้แสดงเป็นตัวละครชื่อนางแก้ว นางแก้วเป็นนางในวรรณคดี ซึ่งสมเด็จพระบรมราชินีนาถโปรดนางในวรรณคดีนี้มาก จำได้ว่าใส่ชุดสีขาวเดินออกมา ครั้งแรกที่ได้เห็นพระพักตร์ของทั้งสองพระองค์ตื้นตันมาก จำได้ว่าพอลงจากเวทีก็สั่นไปหมดเลย แล้วก็ร้องไห้ด้วยปลื้มใจ

 

         มีอยู่ครั้งหนึ่งเจี๊ยบได้เดินแบบผ้าไทยที่ศูนย์ศิลปาชีพ วันนั้นทั้งสองพระองค์เสด็จฯ มาคู่กัน แล้วท่านก็ให้ประชาชนเข้ามาในงานด้วย โดยวันนั้นจะมีนิทรรศการเป็นผ้าไทยของประชาชน บางครั้งที่มีทูต หรือแขกจากต่างบ้านต่างเมืองมา พระองค์ก็จะตรัสเลยว่า ผ้าเหล่านี้ สิ่งของเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนของพระองค์ท่านเป็นคนทำทั้งนั้น ท่านเล่าด้วยความภาคภูมิใจ ก็จะมีการเฉลิมฉลองและก็มีแฟชั่นโชว์ ท่านก็จะให้ชาวบ้านเข้ามาดู ชาวบ้านได้เห็นว่าสิ่งที่เขาถักทออยู่บนตัวพวกเรา (นางแบบ-นายแบบ) เขาก็จะดีใจมาก ทำให้ชาวบ้านพี่ๆ ที่เขาอยู่ต่างจังหวัดภาคภูมิใจในตัวเองมาก และก็มีกำลังที่จะทำสิ่งเหล่านั้นสืบต่อไป ทำให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงใกล้ชิดประชาชนมาก และให้กำลังใจประชาชนมากๆ" ดาราสาวกล่าว

        ถามต่อว่าการได้เห็นพระราชจริยวัตรของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” หลายต่อหลายครั้ง ความรู้สึกเป็นยังไง นักแสดงสาวเผยว่า “ดีใจมาก ตอนนั้นถึงเราจะเด็กมาก แต่ถ้าหลับตาแล้วนึกย้อนกลับไป เราจะเห็นภาพของทั้งสองพระองค์ เคยได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ ที่พูดกัน เจี๊ยบไม่มั่นใจคำราชาศัพท์ ขอใช้คำสามัญ ทรงพูดคุยกันน่ารักมาก เป็นความประทับใจและดีใจที่ได้เห็น ได้ยินสิ่งเหล่านี้” เจี๊ยบกล่าวปิดท้าย