'ในหลวง' ในความทรงจำ 'ดาวใจ' กับรางวัลแผ่นเสียงทองคำ(ชมคลิป)

         ศิลปินอาวุโส ดาวใจ ไพจิตร วัย 61 ปี เคยได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในเพลง “น้ำตาดารา”

         และปัจจุบัน ประกอบธุรกิจส่วนตัวและช่วยเหลืองานด้านสังคม ซึ่งดาวใจได้เดินทางมาเป็นจิตอาสา ณ บริเวณด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง ดาวใจเผย

         "พูดถึงเรื่องรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ดาวใจ ไพจิตร ก็เป็นคนหนึ่งที่เคยได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับพระราชทานจากพระหัตถ์ของในหลวง ความภูมิใจ ความดีใจ ความปลาบปลื้ม สารพัดที่จะบรรยายได้ เพราะว่ารางวัลแผ่นเสียงพระราชทานจะเป็นรางวัลของคน ที่อยู่ในวงการศิลปินทั้งหลาย ทั้งนักร้อง นักแต่ง นักเรียบเรียงเสียงประสาน นักแต่งเพลงทำทำนอง เพลงจะมีเนื้อมีทำนอง มีเรียบเรียงเสียงประสาน มีคนร้อง เป็นต้น ก็เป็นความฝันอันสูงสุดของเหล่าอาชีพของเรา ถ้าหากเราได้ถึงจุดๆนี้ ถือว่าเป็นอะไรที่ไม่มีอะไรบรรยายได้แล้ว เราเป็นนักร้องคนหนึ่ง เพิ่งเริ่มต้นมาก็แบบยังไม่รู้ทิศทาง แล้ววันหนึ่ง เราก็เดินมาถึงจนจุดๆนี้ ได้รับรางวัล เมื่อปี พ.ศ.2522 ปลื้มใจ บทเพลงที่ได้รับคือเพลง “น้ำตาดารา” ช่วงนั้นก็ถือว่าโชคดี ได้รับรางวัลทั้งอดีตสามีที่ล่วงลับไปแล้ว คือ ท่านปรีดี สุจริตกุล ท่านเป็นคนแต่งเพลงนี้ให้ และคนเรียบเรียงเสียงประสาน คือ คุณเสกสรร สอนอิ่มสาตร์ ก็ได้รับรางวัลจากเพลงนี้ด้วย เพลงนี้ได้รับถึง 3 รางวัลนะ น้ำตาดารา เป็นความปลาบปลื้มใจ ประกาศชื่อไป เดินไป เหมือนตัวแทบจะลอย เป็นเหมือนความฝันที่มีค่าสูงค่ามาก นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างล้นพ้น  เป็นรางวัลที่สูงส่ง สูงสุดในชีวิต ชาตินี้ ชาติไหน ชาติหน้าอะไร ไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสนี้อีกหรือเปล่า นับเป็นความภูมิใจอย่างที่สุด เป็นบุญล้นพ้น เหนือเกล้า เหนือหัวของเรา คงไม่มีอะไรเทียบอีกแล้ว ชีวิตหนึ่งชีวิตนี้ ไม่ว่าเราจะได้มั่งไม่ได้มั่ง ผิดหวังมั่ง สมหวังมั่ง แต่เมื่อเรานึกถึงแผ่นเสียงทองคำขึ้นมาแล้ว ไอ้ที่เราไม่สมหวังมั่ง ผิดหวังมั่ง หายหมดเลยเราหายเหนื่อยเลย

         ซึ่งทุกวันนี้พูดขึ้นมาแล้ว แล้ววันที่ทราบข่าว (ร้องไห้) ว่าพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต รับไม่ได้เลย เข่าอ่อนเลย เพราะพวกเราเหล่าศิลปินทุกคน มีความจงรักภักดีในพระองค์ท่านมากๆ เพราะว่าพระองค์ท่าน ก็คือ อัครศิลปิน พระองค์ท่านทรงให้กำลังใจพวกเราทุกคนเสมอมา ตลอดทั้งรัชกาลเลยก็ว่าได้ เราก็เป็นเพียงนักร้องคนหนึ่ง ที่มีโอกาสได้รับรางวัล แต่ในหมู่ของพวกเราชาวศิลปินแล้ว ถือว่าเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของพวกเรา ในฐานะที่เป็นศิลปินอาวุโสคนหนึ่ง ก็ขอกล่าวแทนศิลปินหลายๆคนว่า พวกเราเศร้าใจมาก และก็ตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระองค์ท่านได้พักพระวรกาย ท่านเป็นบุคคลที่มีคนรักมากที่สุด ดิฉันขอใช้คำธรรมดานะ ไม่มีใครที่ถูกรักได้มากเท่าพระองค์ท่าน ท่านสร้างประโยชน์เหมือนกับทุกอณูของลมหายใจของพระองค์ท่าน ท่านจะเสด็จไปทุกหนทุกแห่งที่ไปได้ เราเห็นภาพย้อนหลังทุกวันนี้ ยิ่งอาลัยอาวรณ์พระองค์ท่านมากขึ้นทุกที ท่านเป็นกษัตริย์ของกษัตริย์จากใจของดิฉันศิลปินเล็กๆคนหนึ่ง พวกเราเหล่าศิลปินเศร้าใจมาก เพราะว่าพระองค์ท่านเรียกว่าทรงพระเมตตาต่อพวกเราเสมอมา แล้วก็เมื่อสิ้นท่านแล้วย เราทุกคนก็พยายามจะสร้างสรรค์ความดี ตามคำสอนที่พระองค์ท่านทรงให้ไว้ในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ในเรื่องอื่นๆ รู้จักแบ่งปันเกื้อกูล ซึ่งพวกเราก็มีกันอยู่แล้ว คงไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ท่านทำให้ขนาดนี้แล้ว 70 ปีแล้ว พวกเราก็ควรจะช่วยกันเอง ท่านทำตัวอย่างให้แล้ว พระองค์ท่านทรงทำตัวอย่างที่ดี เป็นตัวอย่างของกษัตริย์อีกหลายประเทศ ที่อยากจะได้แบบเรา ดาวใจก็อาลัยมาก เสียใจมาก เรียกว่าพูดไม่ออกเลย เรียกว่าเข่าอ่อนไปเลย แต่พระองค์ท่านจะอยู่ในใจของพวกเราทุกคนตลอดไป

         วันนี้พวกเราก็มาแสดงความกตัญญูต่อพระองค์ท่านด้วยการมาทำบุญในวันนี้ พวกเราก็เหน็ดเหนื่อยกันตามสมควร เพราะความรักในหลวง พวกเราถึงมาเจอกันที่นี่ อันนี้เราจะพูดเรื่องความในใจ อันนี้เป็นเรื่องความคิดส่วนตัวนะที่เล่าให้ฟัง ที่พูดให้ฟัง (พระองค์ท่านเคยมีรับสั่งอะไรถึงไหม) พระองค์ท่านรับสั่งโดยรวม เวลาก่อนจะขึ้นรับรางวัล พระองค์ท่านก็จะเล่าถึงวิธีการแต่งเพลง หรือเรื่องที่ทำให้พวกเราผ่อนคลายจากความเครียด ให้รู้สึกเหมือนกับมีความขำ หัวเราะอะไรต่างๆ พระองค์ท่านรู้ว่าศิลปินทุกๆคนในห้องนั้นที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ทุกคนจะตื่นเต้นไปหมด พระองค์ท่านก็จะทรงเล่าในเรื่องที่ผ่อนคลาย พระองค์ท่านเป็นอัจฉริยะ มีความคิดว่าลดความตื่นเต้นของพวกเรา นับว่าเป็นบุญที่ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ดาวใจ ไพรจิตร ได้มีโอกาสได้รับรางวัลนี้ เป็นรางวัลพระราชทาน เขาเรียกว่าเป็นบุญหัวแล้วกัน ดาวใจมีความปลาบปลื้มใจมาจนถึงทุกวันนี้ และจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านมากๆ ท่านเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยทุกคน ทุกอาชีพ ทุกวิชาชีพ ไม่รู้จะพูดพรรณนาอะไรได้เลย"ดาวใจกล่าว

         เมื่อถามว่ามีคำสอนของพระองค์ท่านด้านไหนมาใช้ในการดำเนินชีวิต หรือการทำงานไหม  ดาวใจเผยว่า

         “หลายเรื่อง เรื่องของภาษาไทย อย่าให้วิบัติในวิชาชีพของเรา และเรื่องความพอเพียง พอเพียงนะ ไม่ใช่ขี้เกียจนะ ไม่ใช่มีแค่ไหนอยู่แค่นั้น ขี้เกียจสันหลังยาว ไม่ใช่อย่างนั้น พอเพียงหมายถึงว่า เราควรจะรู้จักเพียงพอ อย่าไปมองแต่คนที่เขาเริดเลอกว่าเรา ถ้าเรามองแต่คนที่เขาสูงส่งกว่าเรา หรือรวยกว่าเรา พูดง่ายๆ เราก็คงจะเหนื่อยมาก คือท่านทำให้ทุกคนพออยู่ได้ท่านสอนให้ปลูกต้นไม้ ทำเกษตรทฤษฎี ซึ่งที่บ้านเราก็ทำ เราเป็นลูกหลานชาวสวนอยู่แล้วอีกหลายๆอย่าง การดำเนินชีวิต ท่านสอนให้พยายามดึงคนเลวให้เป็นคนดี ให้ให้โอกาสคน ทุกวลีของคำที่ท่านทรงตรัสออกมา พระดำรัสออกมา สร้างประโยชน์ทุกถ้อยทุกคำ ไม่มีที่สูญเปล่าเลย มีสาระหมดทุกตอน ทุกวลี ถือว่าสุดจะพรรณนา ทุกถ้อยทุกคำมีความหมายหมด เรื่องของภาษาในฐานะที่ดาวใจ ตอนนี้จบปริญญาเอกจากจุฬาลงกรณ์ฯ เรามีหน้าที่ดูแลเรื่องภาษาด้วย ดาวใจได้รับความไว้วางใจเรื่องนี้อยู่ว่า เราเป็นนักร้องที่ร้องเพลงได้ชัดเจนถูกต้อง ในส่วนนี้ก็เป็นอีกส่วนที่พระองค์ท่านทรงเป็นห่วงที่เรารับฟังมานะ ช่วยกันนิดหนึ่งว่า เรามีมรดกอันล้ำค่า คือภาษาไทยที่ไพเราะเพราะพริ้งกว่าอีกหลายๆชาติ แต่เรากลับจะไปเลียนแบบคนอื่นมากไป ซึ่งเราก็จะหลุดจากความเป็นตัวตน มรดกของเราก็จะสูญหายไปในที่สุด ดังนั้น เราก็ต้องฝากไว้ว่า อย่าให้ภาษาไทยวิบัติ เราเป็นคนที่รักมรดกของชาติ เรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่ในจิตวิญญาณของเราอยู่แล้ว ก็ขอฝากไว้ว่าขอให้เราเจริญรอย ทำความดี เป็นคนดี ”ดาวใจกล่าว