บันเทิง

น้ำใจ 'คนบันเทิง' ยังเต็มเปี่ยม ร่วมจิตอาสาที่ท้องสนามหลวง  

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“บอส” โตนนท์ วงศ์บุญ “เกี่ยวก้อย” ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์ “บอส” ชนกันต์ พูนศิริวงศ์ ได้มาร่วมจิตอาสา แจกโบว์ พัด และร่ม เก็บขยะที่ท้องสนามหลวง 

         เหล่านักแสดงยังคงมาร่วมเป็นจิตอาสาอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ (25 ต.ค.) นักแสดงช่อง 7 นำโดย “บอส” โตนนท์ วงศ์บุญ “เกี่ยวก้อย” ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์ “บอส” ชนกันต์ พูนศิริวงศ์ ได้มาร่วมจิตอาสา แจกโบว์ พัด และร่ม เก็บขยะที่ท้องสนามหลวง 

น้ำใจ \'คนบันเทิง\' ยังเต็มเปี่ยม ร่วมจิตอาสาที่ท้องสนามหลวง  

         “บอส” โตนนท์ กล่าวถึงกิจกรรมที่มาทำในวันนี้ว่า “วันนี้ผมเพิ่งมาเป็นวันแรก ที่ผ่านมาติดถ่ายละคร ทำให้ไม่ได้มา วันนี้คนเยอะ ทุกคนที่มาทำกิจกรรมก็มาด้วยใจ หลังจากวันนี้ ผมตั้งใจจะทำเสื้อมาแจก อาจต้องดูวันอีกที และคงไม่ได้แจกที่สนามหลวงอย่างเดียว อาจจะไปที่หัวลำโพงด้วย ก็แบ่งๆ ไปที่อื่นบ้าง ผมว่าน่าจะมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่อาจจะไม่ได้เตรียมตัวมา เสื้อที่ผมจะทำแจกนั้น ทำร่วมกับรุ่นพี่ที่รู้จัก ซึ่งรุ่นพี่ทำเสื้อแจก 999 ตัว ส่วนแบบเสื้อก็ออกแบบกันเอง ส่วนความรู้สึกในวันนี้ พอได้มาเห็นบรรยากาศ ผมรู้สึกว่าคนไทยเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ต่างคนต่างช่วยเหลือกัน แม้จะมีคนเอาเปรียบอยู่ แต่อย่างน้อยในวันนี้เราก็ได้มาช่วยคนบางคนที่มาด้วยใจจริงๆ อย่างน้อยๆ วันนี้เราก็ได้ทำเพื่อพ่อ” โตนนท์กล่าว 

น้ำใจ \'คนบันเทิง\' ยังเต็มเปี่ยม ร่วมจิตอาสาที่ท้องสนามหลวง  

        เมื่อถามถึงความรู้สึกที่มีต่อในหลวง นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า

         “เราเคยได้ยินเรื่องพระองค์ท่านมาตั้งแต่เด็ก ผมรู้สึกว่าคำสอนของในหลวงสามารถนำมาปฏิบัติได้จริงในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการเกษตรเพราะประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรม การทำเกษตรกรรมนั้น ไม่มีอดอยู่แล้ว ผมก็คิดจะไปศึกษาเรื่องการเกษตรเพิ่ม เพราะบ้านที่เชียงใหม่ มีคุณลุงเลี้ยงวัวอยู่ถ้าเราจะไปอยู่ เราก็ต้องศึกษาเพิ่ม ส่วนคำสอนของพ่อ ที่ผมนำมาปรับใช้นั้นคืออยู่อย่างพอเพียง ใช้ชีวิตอย่างที่เราไหว ไม่ต้องหวังสูงกว่าที่เรามี แค่เราทำตรงนี้ได้ เราก็ไม่ต้องไปหาอะไรเพิ่ม เราก็จะอยู่ได้ (ให้กำลังใจคนที่โศกเศร้าตอนนี้) ผมว่าทุกคนโศกเศร้าเท่ากันหมด เพราะสิ่งที่ยึดเหนี่ยวใจของเราหายไป แต่ทุกคนยังต้องทำหน้าที่ของตัวเอง และต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี เราต้องก้าวต่อไปเพื่อไม่ให้บ้านเมืองเราหยุด อย่างผมก็ต้องทำงาน ทำหน้าที่เป็นนักแสดง แม้ใจเราจะอยู่ที่นี่แต่เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดี” โตนนท์กล่าว

น้ำใจ \'คนบันเทิง\' ยังเต็มเปี่ยม ร่วมจิตอาสาที่ท้องสนามหลวง  

         ด้าน “ตี๋ เอเอฟ” หรือ วิวิศน์ บวรกีรติขจร ได้กล่าวถึงการมาแจกอาหารที่บูธของกองทัพอากาศ รวมถึงการไปขับมอเตอร์ไซค์รับส่งประชาชนที่มาแสดงความอาลัยบริเวณท้องสนามหลวงว่า

         “วันนี้ (25 ต.ค.) เป็นตัวแทนจากทรูแฟนเทเชีย มาร่วมกับกองทัพอากาศ มาแจกข้าวให้ประชาชน และแจกยาดมด้วย แต่เมื่อประมาณ 3-4 วันก่อน ผมมากับพี่ชาย และมากับเพื่อนๆ ด้วย ในเพจเฟซบุ๊ก “ปลดแอกชาวสองล้อ” มาร่วมกันขี่มอเตอร์ไซค์มารับส่งผู้โดยสารฟรี บรรยากาศดีมาก คือคนที่เป็นอาสาสมัครเยอะมาก และพี่น้องประชาชนที่มาใช้บริการจากเราก็เยอะมาก แต่เป็นบรรยากาศที่ดีมากๆ จุดที่ผมไปขี่รถรับส่ง ผมจำชื่อเรียกไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้ มาจากสิ่งที่เรามี ตอนแรก ผมก็นั่งคิดแหละว่า เราอยากทำเพื่อพ่อ แต่เราจะทำอะไรดี เพื่อสังคม เพราะคนที่เขาเอาข้าวปลาอาหารมา ค่อนข้างมีเยอะเหมือนกัน ตอนแรกผมจะมาเก็บขยะ คือเตรียมถุงมาแล้ว แต่ไม่มีขยะให้เก็บ เพราะมีพี่น้องที่มาเป็นอาสาสมัครเยอะ ผมเลยคิดว่า ทำจากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วกัน และเป็นสิ่งที่เราชอบด้วย คือการขี่มอเตอร์ไซค์ เราอยากจะทำแบบนี้มานานแล้ว และถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราได้ร่วมทำ” ตี๋กล่าว

น้ำใจ \'คนบันเทิง\' ยังเต็มเปี่ยม ร่วมจิตอาสาที่ท้องสนามหลวง  

         ส่วนความรู้สึกที่ได้ตอนขี่มอเตอร์ไซค์รับส่งผู้โดยสาร คือมีความสุข

         “มีความสุขนะ คือระยะทางที่เราไปส่งไม่ได้ไกลมากหรอก สำหรับผู้โดยสารแต่ละท่าน เพราะว่าเราไปส่งในจุดที่เขาไปต่อได้ แต่ระหว่างทาง เราจะมีพูดคุยกัน ว่าเป็นยังไง มาจากที่ไหน หรือว่ามากี่ครั้งแล้ว ทำอาชีพอะไร ประมาณนี้ เป็นความสุขที่เราอธิบายไม่ถูกเลย และก็มีอยู่รายหนึ่ง เป็นคุณลุงที่มาซ้อนผม เขาก็ขอบคุณผมมากๆ เลย ลุงบอกว่า ดีมากๆ เลยนะ ในสิ่งที่ผมทำ ลุงอวยพรขอให้ลูกโชคดี และมีความสุขมากๆ เพราะเราทำดีเพื่อพ่อ ถามว่าลุงจำผมได้มั้ยว่าเป็น “ตี๋ เอเอฟ” คือคนจำไม่ได้เยอะเหมือนกัน เพราะว่าผมปิดจมูก มีเปิดหน้าบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะปิด เลยมีทั้งคนที่จำได้และไม่ได้ วันนั้นผมมาตั้งแต่ 5-6 โมงเย็น มาเริ่มเก็บขยะก่อน แต่ไม่มีขยะให้เก็บ เลยไปที่จุดขับรถรับส่งคน ตอนนั้นประมาณ 2-3 ทุ่ม ผมรับส่ง จนถึงเกือบเที่ยงคืน จนผู้โดยสารเริ่มซาแล้ว ถามว่าจะมาอีกมั้ย ถ้าว่าง ผมก็จะมา ต้องนัดกันมาอีกแน่นอน” ตี๋กล่าว

น้ำใจ \'คนบันเทิง\' ยังเต็มเปี่ยม ร่วมจิตอาสาที่ท้องสนามหลวง  

         ด้าน “เอม เอเอฟ” หรือ สาธิดา ปิ่นสินชัย กล่าวว่า ความจริงไม่ได้มาเป็นวันแรก

         “จริงๆ พวกเราไม่ได้มาเป็นวันแรกนะ อย่างพี่ตี๋ (วิวิศน์ บวรกีรติขจร) ก็มาช่วยแล้ว มาขับมอเตอร์ไซค์ และแน่นอนว่า ตอนนี้ทุกคนเศร้า แต่ว่าในความเศร้านี้ เรายังได้เห็นภาพคนไทยมารวมตัวกัน ก็เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมาก บอกไม่ถูก ถ้าพระองค์ท่านกำลังมองเราอยู่ ท่านคงดีใจ ที่ได้เห็นภาพแบบนี้ เพราะท่านอยากให้คนไทยรักกัน อย่างวันนี้ท่านคงมองเราอยู่จากสวรรค์ และดีใจที่เห็นคนไทยร่วมกัน ช่วยเหลือกัน มาแจกข้าว แจกของ ถามว่าอยากให้กำลังใจคนไทยอย่างไร ที่ผ่านมาหลายๆ คนที่เราเห็นบางคนถึงขนาดอยู่ในช่วงซึมเศร้าเลย แต่ไม่อยากให้เศร้าเพียงอย่างเดียว อยากให้ทุกคนลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ของเราต่อไป เพื่อพระองค์ท่านดีกว่า” เอมกล่าว

น้ำใจ \'คนบันเทิง\' ยังเต็มเปี่ยม ร่วมจิตอาสาที่ท้องสนามหลวง  

         ทางด้าน “มัดหมี่” ร้อยตรีหญิงพิมดาว พานิชสมัย และ “สัว” ศุภชัย กาญจนศักดิ์ชัย ที่ได้เดินทางมาถวายสักการะพระบรมโกศ ในพระบรมมหาราชวัง กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ พร้อมกับครอบครัว โดยมัดหมี่เผยว่า

         “มัดหมี่เพิ่งกลับมาจากทริปฮันนีมูน ต้องขอบอกว่าจริงๆ ทริปนี้เราจองมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเราเลื่อนไม่ได้ พอเจอเหตุการณ์นี้หลังจากลงจากเครื่องทางคุณพ่อก็บอกว่าเราได้มากราบพระบรมศพ วันนี้เราจึงได้กราบบังคมลาพระบรมศพ บรรยากาศด้านในพระบรมมหาราชวังสวยมาก เรารู้สึกขนลุกเรื่อยๆ คือเราค่อนข้างผูกพันเพราะมัดหมี่เรียนที่จิตรลดามา 15 ปี และมีโอกาสได้เรียนที่จุฬาฯ ต่อ และเราได้เล่นละครเวทีสี่แผ่นดินด้วย ทำให้เรารู้สึกว่า พระองค์ท่านเป็นพระมหากษตริย์ที่ยิ่งใหญ่และเป็นพระมหากษัตริย์ที่เสียสละที่สุดในโลก วันที่มัดหมี่ทราบว่าพระองค์สวรรคตนั้นมัดหมี่อยู่ที่กรุงเทพ ซึ่งอีกวันเราต้องเดินทางแล้ว ช่วงเวลานั้น เรารู้สึกเสียใจมาก และเชื่อว่าคนไทยทุกคนรู้สึกเหมือนเรา เพราะเราได้สูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และทำเพื่อปวงชนชาวไทยมากมาย แต่สุดท้ายแล้วชีวิตของเราก็ต้องดำเนินต่อไป คือเสียใจได้แต่เราก็ต้องรู้จักหน้าที่ คนไทยหลายคน อาจจะเสียใจอยู่นั้นเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องที่เรารับรู้ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือเราต้องรู้หน้าที่ มัดหมี่เชื่อว่าในหลวงอยากให้คนไทยทุกคนอยู่อย่างพอเพียง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคิดการกระทำ การที่เราพอเพียงและเพียงพอนั้น ทำให้เรามีความสุขได้ และทำให้เราได้เห็นว่า ตอนนี้คนไทยรักและสามัคคีกันมากขนาดไหน มัดหมี่เห็นเพื่อนๆ ไม่ว่าจากที่ไหนก็มาช่วยกันตลอด มาแจกน้ำอาหารทำให้เห็นความเสียสละ เป็นอะไรที่ซาบซึ้งมาก” มัดหมี่กล่าว

         เมื่อถามว่าได้น้อมนำพระราชดำรัสใดมาใช้บ้าง นักแสดงสาวกล่าวว่า

         “ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดและปฏิบัติดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง และคิดดี พูดดี ทำดี ถ้าดีกับใจเรา คนอื่นก็สามารถรับรู้ได้ และโลกก็จะสงบสุข หลังจากนี้อยากให้คนไทยสามัคคีกันเป็นเรื่องสำคัญมาก คนเราคิดต่างได้เป็นเรื่องปกติ แต่อย่าให้แตกแยกกัน ที่ผ่านมาอาจเกิดเหตุการณ์ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่หลังจากนี้ มัดหมี่เชื่อว่าคนไทยทุกคนน่าจะปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ถึงเวลาแล้วจริงๆ (ความรู้สึกต่อในหลวง) รักและเทิดทูนมากๆ เราเห็นพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิต ท่านเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทุกคน (เคยเล่นละครสี่แผ่นดิน เคยคิดไหมว่าเราจะมีความรู้สึกสูญเสียเหมือนวันนี้) เข้าใจความรู้สึกแม่พลอยเลย ตอนนั้นที่เล่น เราก็รู้สึกในระดับหนึ่งว่าการสูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักนั้นเป็นอย่างไร แต่พอมาเจอเหตุการณ์นี้จริง เป็นอะไรที่ค่อนข้างจุกมาก บีบหัวใจมาก มัดหมี่เสียใจมาก แม้จะผ่านมาแล้ว แต่เราก็ยังรู้สึกและต้องใช้เวลาทำใจอีกระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เรารู้ว่ารพระองค์ท่านทรงทำอะไรให้เราเยอะมาก” มัดหมี่กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ