'น้ำใจ' คนบันเทิงยังเหนียวแน่น เป็นปึกแผ่นเรื่อง 'สามัคคี'

         ชั่วโมงนี้ หันไปทางไหนก็มีแต่น้ำใจที่ส่งต่อมอบให้กัน โดยเฉพาะที่บริเวณท้องสนามหลวง ที่มีพสกนิกรเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพเป็นจำนวนมาก และเป็นเช่นเคยที่มีีเหล่าคนบันเทิงมาร่วมเป็นจิตอาสา ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ 

 

          อ้น - สราวุธ

         “อ้น” สราวุธ มาตรทอง เปิดเผยว่า วันนี้มากับเพื่อนๆ นักแสดง มาช่วยแจกอาหารแจกขนม พอหมดแล้วก็เลยมาช่วยบูธต่อ เดินแจกน้ำแจกผ้าเย็นไหนๆ เรามาแล้วไม่ได้แปลว่าเราทำสิ่งหนึ่งจบแล้วกลับ อะไรที่เราทำได้ เราก็ทำ แจกน้ำเสร็จผมก็รับขยะกลับ มันเป็นวันที่เราได้ช่วยเหลือกันจริงๆ วันนี้ก็จะทำทุกอย่างที่จะทำไหว”

         ถามต่อว่า เห็นคนไทยมาช่วยกันแบบนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง “มันเป็นภาพที่ประทับใจมาก อยากเห็นภาพนี้บ่อยๆ ผมไม่ได้มาแบบนี้บ่อย เป็นวันที่เงินจะไม่มีมาเกี่ยวข้องใดๆ แต่เป็นวันที่ใจของเรามีค่ามากที่สุด เราหยิบยื่นน้ำใจให้กันแบบนี้เพื่อพ่อของเรา ไม่อยากให้มีแค่ครั้งนี้แล้วผ่านไป อาชีพผมนักแสดง หรืออาชีพไหนก็แล้วแต่ ความจริงทุกคนเป็นลูกของพ่อหมด ทุกอาชีพมีหน้าที่ของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบเราต้องทำให้ดีที่สุด เวลาแบบนี้ที่ทุกคนกำลังเศร้า แต่วันนี้ความรู้สึกของคนไทยทุกคนเราใกล้กันกว่าเดิม เพราะเรารู้ว่าเรารักพ่อเราเหมือนกัน นานแล้วที่เราไม่ได้รู้สึกร่วมกันแบบนี้ แม้เราจะทำงานในทีวี แต่ในเวลานี้ เราก็มารวมใจกัน ผมก็เป็นเหมือนคนทั่วไปเป็นประชาชนคนหนึ่ง เราทุกคนเท่ากันหมด ที่มีอะไรก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ในหลวงท่านทรงสอนเราแบบนี้ ในเรื่องของความเมตตาและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ท่านทรงสอนเสมอตลอด 70 ปีที่ท่านทรงครองราชย์ เกิดมาผมเห็นพระองค์ทำเพื่อเรามาตลอด ฉะนั้นการที่ใครสักคนจะยอมเหนื่อยมากทั้งชีวิต ไม่มีวันหยุดเพื่อพวกเรา ผมว่าการที่เราจะมาแบ่งปันกันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก” อ้นกล่าว

         เคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านไหม “ผมแอบอิจฉาคนเฒ่าคนแก่ คนต่างจังหวัดที่พระองค์เสด็จฯ ไปหาและได้ใกล้ชิด เขาได้รับเสด็จ มีครั้งหนึ่งในวันที่ 9 มิถุนายน วันนั้นผมอยูที่พระที่นั่งอนันตสมาคมเพื่อรอรับเสด็จพระองค์ท่าน แต่ในช่วงที่ทุกคนตั้งแถวรอพระองค์ ทุกคนรวมถึงผมก็อยากเห็นท่านให้เป็นบุญตา แต่เวลานั้นมีคนป่วยผมเลยไปช่วยคนป่วยให้เขาได้เข้าไปอยู่ในเต็นท์พยาบาล ผมเลยไม่ได้ไปรับเสด็จ ในขณะที่ผมไปช่วยคนป่วย ผมไม่ได้เห็นท่านแล้ว ผมกลับคิดในใจว่า พ่อคงดีใจมากกว่าถ้ารู้ว่าเราทำดีเพื่อพ่อมากกว่าที่เราเห็นคนเจ็บและลำบากมาแล้วละเลยเขา เพื่อที่จะมาเห็นพ่อ สมมุติว่า ถ้าผมเกิดมีโอกาสได้ใกล้พระองค์ท่านจริง แล้วท่านถามว่าทำไมไม่ไปช่วยคนเจ็บ ผมคงจะตอบพระองค์ไม่ถูก ผมคิดว่าวันนั้นผมได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ผมเอาความดีกราบเท้าพ่อทุกวันอยู่แล้ว"

 

พีท ทองเจือ 

 

         ในส่วนของ พีท ทองเจือ นักแสดงรุ่นใหญ่ ได้มาร่วมแจกอาหารให้แก่ประชาชนที่มารอลงนามแสดงความอาลัยบริเวณท้องสนามหลวง พร้อมกับครอบครัว โดยพีทกล่าวว่า

         “ก่อนหน้านี้มาไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง เพื่อแจกของให้พี่น้องชาวไทยที่มาแสดงความอาลัย เห็นแล้วก็รู้สึกดีใจที่ทุกคนมารวมกันเป็นอันหนึ่งใจเดียวกัน ครั้งนี้ก็ตั้งใจมาทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมไทยร่วมกับเต็นท์ของหน่วยงานอาสาสมัคร เอาน้ำดื่มอาหารมาแบ่งปันให้พ่อแม่พี่น้อง ซึ่งถ้ามีโอกาสจะพยายามมาให้บ่อยที่สุด” พีทกล่าว

         ถามว่าในฐานะที่เป็นคนบันเทิงเคยปฏิบัติงานอะไรถวายบ้าง พีทกล่าวว่า ปกติจะปฏิบัติงานถวายเวลามีแขกบ้านแขกเมืองมาประเทศไทย

         “ปกติผมจะถวายงานภายใน เช่น เวลาท่านมีแขกจากประเทศต่างๆ หลายคนอาจจะไม่เคยทราบว่าในสำนักพระราชวังจะจัดงานภายใน เพื่อโชว์ให้แขกบ้านแขกเมืองได้รับชม ตัวผมเองมีโอกาสได้ถวายงานแสดงในหลายๆ ครั้ง ซึ่งมันแตกต่างจากงานที่เราแสดง เพราะผู้ชมคือพระมหากษัติรย์และพระราชินี ส่วนความรู้สึก ณ ตอนนั้นยอมรับว่าค่อนข้างเกร็ง บางครั้งก็จำบทไม่ได้ เท่าที่เคยแสดง จะมีการแสดงพื้นฐานเก่าๆ ของไทยบ้าง รู้สึกเป็นบุญของตัวเอง มีครั้งหนึ่งผมไปร่วมงานไม่ทัน เพราะไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัด แต่ต้องมาถวายงานแสดงที่กรุงเทพฯ ขณะเดินทางเกิดอุบัติเหตุขับรถชนเสาไฟฟ้าหักทับรถจนขาดครึ่ง แต่รู้สึกว่าทางสำนักพระราชวังรอเราอยู่ ก็เลยโบกรถชาวบ้านให้ไปส่งที่พระราชวังบางปะอินเพื่อไปแสดงจนจบ หลังจากนั้นประมาณอาทิตย์หนึ่งคนในวังก็เรียกเข้าไปเฝ้าสมเด็จพระราชินี ท่านพระราชทานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่และรับสั่งว่า ถ้าจะขับรถก็ให้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้คุ้มครอง” พีทกล่าว

         นักแสดงหนุ่มชื่อดังกล่าวต่อว่า ได้น้อมนำพระราชดำรัสมาใช้ในชีวิตเรื่องของ “ความพอเพียง”

         “คงเป็นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ความพอเพียงไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่รวมถึงความพอเพียงในการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ ถ้าเราปฏิบัติตัวเข้าใกล้ทางสายกลางทุกด้าน ชีวิตก็จะไม่มีภาระ ผมว่าเราโชคดีที่สุดแล้วที่ได้เกิดเป็นคนไทย ประเทศของเราดีอย่างหนึ่งตรงที่ว่า คนที่เคยปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม ถ้าเราตั้งหลักได้ หันมาคิดดีทำดี สิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้นกับเรา ถามว่าต่อจากนี้จะมีโครงการทำดีอะไรเพื่อพ่อบ้างไหม จริงๆ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำคนเดียว ต้องช่วยกันพัฒนาเรื่องเศรษฐกิจให้ดี หน่วยงานต่างๆ หรือสินค้าไทยที่กำลังเริ่มต้น ควรจะต่อสู้เพื่อให้สินค้าเราออกไปสู่ตลาดเออีซี สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ให้เขารู้ว่าสินค้าไทยเป็นที่หนึ่งในการครองตลาดเออีซี ฉะนั้นทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน บางคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยนะ แม้แต่สินค้าในหมู่บ้านก็ทำได้ มาร่วมกันสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยดีกว่า" พีทกล่าว

 

         พีช พชร - และครอบครัว 

         “พีช” พชร จิราธิวัฒน์ และครอบครัว ร่วมลงนามแสดงความอาลัย พร้อมจะสานต่อพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่องความสามัคคี

         เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ตุลาคม “พีช” พชร จิราธิวัฒน์ นักแสดง พร้อมครอบครัว เดินทางมายังศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมลงนามในสมุดหลวงเพื่อแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยพีชกล่าวว่า 

         “มีโอกาสเข้ามาแสดงความอาลัยที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เป็นครั้งแรก พวกเราคนไทยต่างรู้สึกเสียใจ เจ็บปวดเหมือนกัน แต่ในฐานะคนไทย จะสานต่อพระราชปณิธานของพระองค์เรื่องความสามัคคี ที่เราต้องเรียนรู้ที่จะเสียสละส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม หากเราได้มากก็ช่วยเหลือผู้อื่นให้มาก โดยไม่เพียงแค่กำลังทรัพย์ แต่พละกำลังและพลังความคิด ก็นำมาช่วยเหลือสังคมได้ด้วย โดยส่วนตัวในฐานะนักแสดง พระองค์ท่านเคยมีพระราชดำรัสถึงอาชีพของพวกเราว่า “เราเป็นนักแสดง สิ่งที่เราต้องทำคือต้องสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ของทุกคน” เช่น ทำหน้าที่โปรโมทวัฒนธรรมไทย สืบสานประเพณีไทยต่อไป อีกทั้งตอนนี้ได้ทำงานร่วมกับองค์การยูนิเซฟ ช่วยเหลือเด็กวัยรุ่นที่ยากจน แต่พลังการกระทำเพียงคนเดียวคงไม่พอ พวกเราทุกคนต้องช่วยและผลักดันกันต่อไป” พีกล่าว