บันเทิง

Eat play life อาทิตย์ที่ 23 ต.ค.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รูป รอย เรื่อง รัก 'เพลงสรรเสริญในโรงหนัง'

บายไลน์ : นันทขว้าง สิรสุนทร

    ระหว่างรอเข้าโรงหนังย่านโซโหในปี 1997 เพื่อดูเรื่อง Kolya ฝรั่งคนหนึ่งมาถามผมว่า ได้ข่าวว่าโรงภาพยนตร์ระบบมัลติเพล็กซ์กำลังบูมในประเทศไทย คงจำกันได้นะครับว่า multiplex เริ่มต้นเป็นทางการคือ กลางปี 1994 ซึ่งเปิดตัวตรงกับวันคิกออฟบอบโลก 1994 ที่อเมริกา ในย่านบางแค (ผมจำได้ว่า ใช้หนังเรื่อง True lie เป็นตัวเปิด)
    โรงหนังที่ผมไปดู Kolya ปีนั้น (เป็นวันว่างหลังจากได้ทุนของบริติชฯ ไปดูงานละครที่โรง Globe theatre ที่แสดงแต่บทละครของวิลเลียม เชกสเปียร์) เป็นโรงแบบ free seat ไม่ใช่ fix seat แบบบ้านเรา และช่วง 22 ปีที่ผ่านมาของโรงระบบมัลติเพล็กซ์ สิ่งที่ยุคสมัยของระบบนี้ มีส่วนอย่างมากในการสร้างขึ้นก็คือ เรื่องราวความรัก การทุ่มเท แง่มุมต่างๆ ที่น่ามหัศจรรย์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงทุ่มพระวรกาย เพื่อพสกนิกรของพระองค์
    ต้องเท้าความทวนความคิดย้อนหลังเล็กน้อยว่า ตั้งแต่พวกเราเกิดมา สิ่งที่คุ้นชินกันมาก็คือ การทำความเคารพเพลงสรรเสริญในโรงหนัง ด้วยการขึ้นภาพพระมหากษัตริย์ที่คนไทยรักมากที่สุด และทรงครองราช์ยยาวนานสุดถึง 70 ปี แต่ขนบธรรมเนียมตลอดมาคือ เป็นภาพนิ่งๆ ตลอดเพลงต้นจนจบ ซึ่งก็ทรงพลังเมื่อบวกกับทำนองของดนตรี
    แต่-พอโรงหนังเข้าสู่ระบบมัลติเพล็กซ์ได้พักใหญ่หรือหลายปีพอสมควร ด้วยแนวคิดที่อยากทำให้ภาพประกอบหรือแง่มุมต่างๆ ถูกนำมาเล่าเรื่องอย่างร้อยเรียงที่งดงาม จึงมีการสร้างภาพที่หลากหลายขึ้นทั้งการฟังและการมอง
    การเปลี่ยนแปลงส่วนนี้ เกิดจากการที่ระบบธุรกิจโรงหนัง แตกตัวออกไปสู่คาแรกเตอร์ต่างๆ และมีหลายเครือ เช่น เมเจอร์ฯ, เอเพกซ์, เมเจอร์ฮอลลีวู้ด และ เอสเอฟ ซีนีม่า
    แค่ 4 เครือนี้ ยังไม่นับตัวงานเทศกาลหนังที่บางแห่งมีการใช้ภาพที่สวยงามแตกต่างจากโรงหนังในเวลาปกติเข้าไปอีก ผลก็คือ คนดูได้สัมผัสภาพและเพลง ที่เดินทางแตกต่างกันด้วยแนวเพลง ดนตรี และภาพที่เราได้เห็นถึงการทุ่มเทของพระองค์ ที่มีให้ประชาชนชาวไทย
    บางเวอร์ชั่นเป็นภาพวาด ใช้เพลงที่มีการร้องแบบคลาสสิก, บางเวอร์ชั่นเป็นแนวยิ่งใหญ่ สง่างาม และบางเวอร์ชั่นเป็นเรื่องราวความรักและการทรงงาน ไปในที่ต่างๆ
    เชื่อไหมว่า บางทีโรงหนังของบ้านเราอาจมีการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งแบบนี้ อยู่ประเทศเดียว ที่ก่อนดูหนังจะมีการแสดงความรักต่อพระมหากษัตริย์ เพราะโรงหนังทั่วโลกที่เคยไปดูมา เข้าไปนั่งกันได้ตามใจชอบ เพราะเป็น free seat แล้ว พอถึงเวลาก็ฉายหนังเลย แบบไม่มีโฆษณาก่อนด้วย คล้ายๆโรง House บ้านเรา
    แต่ขณะที่โรง House ก็มีเพลงสรรเสริญที่บางเวอร์ชั่นเป็นในแบบ House เองด้วย
    ผมเคยนั่งคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเรานำเอาเพลงสรรเสริญฯ ในโรงภาพยนตร์ทุกเวอร์ชั่นมาเรียงๆ กัน น่าจะเป็นเหมือนหนังสั้นขนาดยาวเรื่องหนึ่งที่มีรูป รอย เรื่อง รัก ในเรื่องราวที่ตระการตาและน่าดูมาก เพราะเป็นการเดินทางร่วมกันของแนวเพลงและแนวภาพ
    ที่คงมีลักษณะการเล่าเรื่องที่น่าที่งมาก
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ