บันเทิง

'ท่านมุ้ย' ปีติทุกคนร่วมร้องเพลง“สรรเสริญพระบารมี”ด้วยใจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ท่านมุ้ย" ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เผยการร้องเพลง"สรรเสริญพระบารมีวันนี้(22 ต.ค.) ทุกคนมาด้วยใจจงรักภักดี ไร้พรรคการเมือง ไม่มีสังกัด ทุกช่อง ทุกคนถือว่าเป็นประชาชน

         เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม มีการรวมตัวของประชาชน ศิลปิน ดารา คนจากเบื้องหน้าและเบื้องหลังของทุกวงการเนืองแน่น ณ ท้องสนามหลวง บริเวณสนามฝั่งตรงข้าม ประตูมณีนพรัตน์ เพื่อการงานรวมพลังกันร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมถวายความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ร่วมกับวงออเคสตร้า จากวงดุริยางค์สยามฟิลฮาโมนิคออเคสตร้า (The Siam Philharmonic Orchestra) นำโดยวาทยกร อ.สมเถา สุจริตกุล บันทึกเสียงสดพร้อมถ่ายทำเป็นภาพยนตร์เพลง โดยทีมของ “ท่านมุ้ย” ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เพื่อนำไปฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ และสถานีโทรทัศน์ต่างๆ โดยมีเหล่าดารานักแสดงที่มาร่วมงาน อาทิ แอน ทองประสม "มิ้นท์“ ชาลิตา วิจิตรวงศ์ทอง "โดม“ จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ”แก้ม"  วิชญาณี เปียกลิ่น ”แกงส้ม“ ธนทัต ชัยอรรถ ”อ้น“ กรกฎ ตุ่นแก้ว ”กั้ง" วรกร ศิริสรณ์ “นิว”  วงศกร ปรมัตถากร “เกรซ” กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า “เอส” กันตพงศ์ บำรุงรักษ์  มิกค์ ทองระย้า “อ๊อฟ” ชนะพล สัตยา “แบงค์” อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ "จิณณ์" จิณณะ นวรัตน์ "เปรี้ยว" ทัศนียา การสมนุช "แม็ค" วีรคณิศร์ วัฒนกานต์กุล "แม็คกี้“ อาภา ภาวิไล  "เชน" ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์

         โดยเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. “ท่านมุ้ย” ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ในฐานะผู้ทำการบันทึกเสียสดและถ่ายทำเป็นภาพยนตร์เพลง ได้เปิดเผยว่า ตอนแรกมีความคิดว่าเป็นไปได้ไหม ที่จะให้ประชาชนร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 

         "ทีแรกเราตั้งใจว่าจะมีดนตรีสัก 2-3 ชิ้น และมีคนมาร่วมร้องสัก 1000 คน ไม่เคยคิดว่าจะมีดนตรี 200 ชิ้น และคนร้องเพลงอีก 300 กว่าคน ผมไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน และไม่เคยคิดว่าจะมีประชาชนตอบรับมากขนาดนี้ ต้องขอบอกก่อนนะ ว่าคนที่มากัน เขามากันด้วยใจจริงๆ ไม่มีการเกณฑ์คนมา หรือบังคับให้มากัน มายืนตากแดดมาตั้งแต่ 10 โมงเช้า จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครบ่น เดี๋ยวจะมีการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการบันทึกสถิติโลก ว่าเป็นการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่มากที่สุดในโลก เรื่องนี้ไม่มีพรรคการเมือง ไม่มีค่ายหรือสังกัดดารา ดาราที่มาร่วมกันทุกคนมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ อย่างอาจารย์สมเถา วาทยากร ก็ทำให้ด้วยใจจริงๆ ทุกคนทำกิจกรรมนี้ ไม่มีใครคิดเงินแม้แต่บาทเดียว รวมทั้งผู้สร้างหนังเกิือบพันคน ได้มาร่วมกันแบ่งหน้าที่กันทำ และไม่ได้บอกผมว่ามีใครมาช่วยบ้าง เราวัดจากการใช้โดรนถ่ายภาพ จริงๆ ผมไม่ทราบว่ามีสักกี่คน แต่เกิน 20 คนแน่นอน ส่วนอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ กล้องน่าจะมี 25 ตัว คิดว่านะ ผมไม่แน่ใจ เพราะมีคนมาช่วยเหลือกัน โดยที่ไม่ได้คิดมูลค่า และไม่ได้บอกว่าจะมีใครมาช่วยบ้าง มีการแบ่งมุมกันถ่าย" ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าว

         ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีการกำหนดวันที่ในการออกอากาศแล้วหรือไม่ ม.จ.ชาตรีเฉลิม กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการกำหนดออกอากาศ 

         “น่าจะประมาณอาทิตย์หน้า ถ้าผมไม่ล้มป่วยเสียก่อนนะ (หัวเราะ) เพราะแค่นี้ก็แทบจะล้มอยู่แล้ว เพราะอากาศร้อนมาก แต่วันนี้ยังไม่ได้กำหนดเลย มาถึงวันนี้เห็นประชาชนมาร่วมงาน ผมไม่เชื่อเลยว่าจะมีประชาชนตอบรับได้มากมายขนาดนี้ เพราะวันนี้ (22 ต.ค.) เราจะถ่ายภาพไปจนถึงตอนเย็นเลย ช่วงเย็นเราจะให้คนจุดเทียน เหมือนเป็นดวงดาวเป็นล้านดวงอยู่ในท้องสนามหลวง ทั้งหมดคือประชาชนล้วนๆ ถามว่าความยากของงาน กว่าจะมาเป็นวันนี้ได้คืออะไร จริงๆ ไม่ยากเลย ง่ายที่สุดเลย และไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนมาช่วยกันได้มากขนาดนี้ ทีวีทุกช่อง ทุกค่าย ช่วยเหลือกัน โดยไม่มีการแบ่งแยก การเริ่มต้นแนวคิดในการทำเรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่พระองค์ท่านสวรรคต แนวความคิด คือผมต้องการให้ประชาชนทั้งหมด ช่วยกันร้องเพลงสรรเสริญพระบามี มีบางเสียงบอกว่าเราล้างสมองเกณฑ์คนมาเยอะแยะ จริงๆ เราไม่ได้เกณฑ์คนมาแม้แต่สักคนเดียว คนพร้อมใจกันมาตากแดดตั้งแต่เช้า” ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าว

          ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าวต่อว่า นักร้อง และ นักดนตรีที่มารวมตัวกัน ไม่เคยมาซ้อมร้อง หรือซ้อมเล่นด้วยกันมาก่อน มีเวลาเตรียมตัวแค่ไม่นาน แต่ทุกคนมีหัวใจดวงเดียวกัน 

         "ทั้งนักดนตรี และนักร้อง ที่มาร่วมงาน เข้ามาร่วมงานและเพิ่งจะเริ่มซ้อมกันไปในวันนี้ (22 ต.ค.) ในเรื่องของการถ่ายทำต้องใช้โดรนเข้ามาช่วย เพราะไม่มีทางสามารถถ่ายคนทั้งหมดได้โดยไม่มีการใช้โดรน เราต้องไปขออนุญาตที่จะใช้โดรน หลังจากนักร้องและนักดนตรีซ้อมเสร็จ ก็จะเริ่มทำการถ่ายทำจริงทันที ในส่วนของประชาชนแค่ร่วมใจกันร้องเพลงอย่างเดียวเลย อย่างเรื่องร่มที่พกมาเราขอร้องขณะที่กำลังถ่ายทำว่า อย่าเพิ่งกลางร่มจะดีกว่า พอร้องถึงคำสุดท้ายว่า “ชโย” ค่อยยกร่มขึ้นมากางได้ เพลง สรรเสริญพระบารมี เวอร์ชั่นนี้มีการ ออเรนจ์ใหม่ แต่การร้อง ทำนอง เหมือนเดิม ผมคิดว่าเพราะดี" ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าว

         ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีบุคคลสำคัญแจ้งความจำนงมาขอร่วมร้องเพลงด้วย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะมีใครมาร่วมร้องเพลงด้วย  

         "ผมไม่ทราบว่าจะมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนไหนจะมาร่วมร้องด้วยบ้าง ผมไม่ทราบว่า นายก (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) จะมาร่วมร้องไหม แต่ถ้านายกมาร้อง ก็จะมาร่วมร้องในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ใช่นายก เพราะนายกก็เป็นประชาชน ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจหรือใครก็ตาม ส่วนบรรยากาศในช่วงตอนจุดเทียนจะเป็นอย่างไร ผมไม่ทราบ (หัวเราะ) เพราะทุกอย่างกะทันหันไปหมด" ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าว

         พร้อมกล่าวต่อว่า กิจกรรมในคั้งนี้ เป็นการแสดงความจงรักภัคดี จากหัวใจของคนไทยทุกคน และเป็นงานที่ไม่ได้ใช้เงินในการทำเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะทุกคนช่วยเหลือกัน

         "เป็นการแสดงความจงรักภักดีร่วมกัน ในการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ปกติจะใช้ดารานักร้องมาร้อง แต่ครั้งนี้เราใช้ประชาชนมาร่วมกันร้อง ในส่วนของการออกอากาศ จะออกอากาศที่โรงหนังทุกโรงในประเทศไทย เพลงนี้ผมไม่ทราบว่า ความรู้สึกที่คนไทยได้รับเมื่อรับชม จะมีความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมหรือเปล่า แล้วแต่ว่าคนจะคิดว่ามันแตกต่างหรือเปล่าเท่านั้นเอง สำหรับตัวผม รู้สึกว่า เรามีคนที่รักท่านมหาศาลมาตั้งแต่เช้า โดยที่ไม่มีใครบ่นเลย ถามว่าความยาวจะประมาณสักเท่าไหร่ ยาวเท่ากับ เพลงสรรเสริญพระบารมี 1 เพลง ถามว่าจะมีการบันทึกเสียงในสตูดิโออีกครั้งหรือไม่ ไม่มีเลย อย่างที่ทุกคนเห็นในวันนี้ (22 ต.ค.) เสียงจะสด เรามีไมโครโฟนทั้งหมด 25 ตัว ล้อมรอบ เพื่อเก็บเสียงร้องสด และจะมีมิกซ์เซอร์เหมือนกับคอนเสิร์ตเลย ทุกอย่างสดหมดเลย เราต้องการเห็นภาพของประชาชนให้เยอะมากที่สุด ไม่ใช่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และมีหน้าของนักร้อง นักดนตรี กล้องจะแบ่งกันจับบรรยากาศโดยรอบ

         ส่วนสาเหตุที่เลือกสนามหลวงเป็นสถานที่ถ่ายทำ ถามว่าต้องการจะสื่ออะไร ผมไม่ได้ต้องการจะสื่ออะไรเลย ผมแค่อยากจะให้มีเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันร้อง ไม่มีใครบังคับประชาชนให้มา ทุกคนมากันเองด้วยความสมัครใจ ความท้าทายและความยากในการทำงาน เท่าที่รู้คือมันยากมากๆ เลย ผมต้องวิ่งทั้งวัน ไปด้านโน้น ด้านนี้ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนมาก ต้องมียาดมติดตัวตลอด (หัวเราะ) ปีนี้ผมอายุครบ 75 ปี แล้วนะ แต่ผมต้องขอบคุณประชาชนที่มาร่วมงานในวันนี้มาก ร่วมแรง ร่วมใจกันมาร้องเพลง สรรเสริญพระบารมี หวังว่าพอออกอากาศในโรงหนังแล้ว จะไม่มีใครนั่ง ผมหวังให้ทุกคนยืนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพราะว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เราจะทำถวายให้แก่ รัชกาลที่ 9 ส่วนเรื่องงบประมาณ ตอนนี้ 0 บาท ไม่มีเสียเงินเลยสักบาทเดียว เขาเรียกว่าทุกคนร่วมใจ ไม่มีใครออกเงินเลย เราไม่ได้ขอเงินภาครัฐ หรือว่าใครเลยให้มาช่วยสนับสนุนเรา แต่ทุกคนตั้งใจช่วยกัน ทำให้ไม่ต้องเสียเงินเลย ไม่ได้มีการขอสปอนเซอร์ที่ไหน กิจกรรมนี้คืองานของประชาชนทุกคน ที่เราภูมิใจเพราะมีดาราจากแต่ละค่ายมาทำงานร่วมกัน ไม่มีแบ่งช่อง แบ่งสังกัด เขาทำกันด้วยใจ" ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าว 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ