บันเทิง

“ผ่องศรี”ดีใจเคยได้รับรางวัลจากพระหัตถ์เผยตายไม่เสียดายชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผ่องศรี วรนุช เผยความรู้สึกเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช   ดีใจและตื้นตันใจ  ตายก็ไม่เสียดายชีวิต

    ร่องรอยแห่งคราบน้ำตายังไม่จางหายไปไหนจากใจของคนไทย ทุกคนยังคงโศกเศร้ากับการการสวรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พ่อหลวงของคนไทย ล่าสุดอาจารย์ ชลธี ธารทอง ศิิลปินแห่งชาติ ได้รวบรวมเหล่าศิลปินลูกทุ่งทั่วฟ้าเมืองไทย ถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลง “ฟ้าร้องไห้” ที่เวิร์คพอยท์  และหนึ่งในศิลปินที่มาในครั้งนี้  ผ่องศรี วรนุช  ศิลปินลูกทุ่งที่มีความผูกพันกับ บาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพราะเคยได้รับพระราชทานรางวัลจากพระหัตถ์  โดยราชีนลูกทุ่งได้บอกเล่าถึงเหตุการรณ์ในอดีตให้ฟัง
    "ตั้งแต่ 7 ขวบแล้ว ได้เห็นพระองค์ท่านขึ้นเครื่องบินผ่านด้านนอกนั้น มีคนตะโกนพระเจ้าแผ่นดินเสด็จแล้ว เราก็วิ่งออกมาจากแพ นอนหงายแล้วยกมือไหว้เครื่องบิน (ร้องไห้หนัก)  กระทั่งเราเข้ามาอยู่ได้กรุงเทพ 9 ปี เราไม่รู้จักสวนอัมพร เมื่อก่อนไม่มีลูกทุ่งลูกกรุง มีแต่ประเภท ก. ประเภท ข. ประเภท ก. ก็พี่สุเทพ วงศ์คำแหง พี่สุรินทร์ ผกาพันธ์ ประเภท ข. ได้แก่ผ่องศรี วรนุช สมยศ ทัศนพรรณ ปีนั้นเราได้รับพระราชทางรางวัลแผ่นเสียงทองคำ พระองค์ท่านถือแผ่นเสียงทองคำพระราชทานปี 2508 มองซ้ายมองขวาไม่มีเรา เพราะเราไม่ได้ไป เราไม่รู้จักสวนอัมพร เรามีตังค์เก็บเล็กผสมน้อย ซื้อทีวีขาวดำเครื่องหนึ่ง เพราะต้องการจะดูภาพในหลวงให้ใกล้ตา ตอนนั้นมีการถ่ายทอดพิธีมอบรางวัล ซึ่งเราไม่ได้ไป เราอาบน้ำอยู่ลูกน้องเรียกแม่ ในหลวงให้มารับแผ่นเสียง เราก็ออกมากราบ เสียใจตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จนบัดนี้ 

 

“ผ่องศรี”ดีใจเคยได้รับรางวัลจากพระหัตถ์เผยตายไม่เสียดายชีวิต

 

    หลังจากนั้นก็ได้อ่านหนังสือพระราดำริ พระราชดำรัสในหลวงตลอดมา ไม่คิดว่าจะได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานแผ่นเสียงทองคำ ในปี 2522 ตอนเข้าเฝ้า ไม่คิดว่าจะมีบุญวาสนาได้เข้าเฝ้า ไปรับรางวัลจากพระหัตถ์พระองค์ท่าน เราตายก็ไม่เสียดายชีวิต ไม่คิดว่าจะได้มีบุญญา เราเข้าไปวันนั้นจะเป็นลม ไม่มีใครรู้ว่าแม่เข่าอ่อน แขนไม่ถึงมือพระองค์ท่าน ก็มีคนดุเราว่า แม่ศรีเข้ามาใกล้ๆหน่อย ท่านยื่นพระหัตถ์ไปไม่ถึงหรอก เราค่อยๆ กระเถิบเข้าไปแล้วรับจากพระองค์ท่าน ดีใจและตื้นตันใจ"ผ่องศรีกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ 
    นอกจากนี้ “ผ่องศรี” ยังกล่าวว่าได้มีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวงอีกครั้ง "เราไปในงานพระบรมชูปถัมภ์นักเรียนไทยในอเมริกา ไปกับนายห้างประจวบ  จำปาทอง และมีคนไปอีก  9 คน ไปแสดงเก็บรายได้ และได้นำถวาย คนแรกที่ได้ไปกราบฝ่าพระบาทพระองค์ท่าน คือนายห้างประจวบ จำปาทอง คนที่สอง ประยงค์ มุกดา แล้วก็เรา ท่านถามเราว่าไปเจอคนไทยเยอะมั้ย เจอเยอะค่ะ ถ้าไปอีกทีหนึ่ง อย่าลืมบอกให้เขากลับมาอยู่เมืองไทยนะ เมืองไทยอุดมสมบรณ์ทุกอย่าง แม่ก็ตอบแค่ค่ะ แค่นั้นก็ชื่นใจแล้ว" ผ่องศรีกล่าวทั้งน้ำตา จนพูดไม่ออก 

 

“ผ่องศรี”ดีใจเคยได้รับรางวัลจากพระหัตถ์เผยตายไม่เสียดายชีวิต


    ทั้งนี้ “ผ่องศรี” ยังได้กล่าวเสริมว่า ได้เดินตามรอยเท้าของ “ในหลวง” ตั้งแต่อายุ 14 จนย่างเข้า 79 ปีมาโดยตลอด  แต่กลัับมีเรื่องที่อยากทำแต่กลับไม่ได้ทำ  
    "ตั้งใจจะถวายบุญตอนเราอายุ 80 แต่ไม่มีโอกาสได้ถวาย ท่านสวรรคต   แต่เราตั้งใจทำต่อไป เมื่อมีสัจจะแล้วต้องทำ ต้องถวายให้ได้ คือเงินเดือนที่ได้จากการเป็นศิลปินแห่งชาติจะนำไปถวาย เพื่อตอบแทนแผ่นดินที่แม่เกิดมาเป็นลูกของพ่อ รัชกาลที่ ๙ ขอฝากศิลปินทุกคนให้สานต่อนะ ท่านจะได้ดีใจ ท่านไปอยู่สวรรคาลัยแล้ว ท่านจะได้ปลื้มใจว่าลูกๆ รักษาตรงนี้ต่อได้ ทำต่ออย่าทิ้งนะ (ร้องไห้) ขอให้ทำต่อไปเถอะ ความเจริญ พอกิน พอใช้ พอเพียง จะอยู่ติดตัวเราไปจนตาย"ผ่องศรีกล่าว

 

“ผ่องศรี”ดีใจเคยได้รับรางวัลจากพระหัตถ์เผยตายไม่เสียดายชีวิต

ผ่องศรี วรนุช

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ