บันเทิง

“pen pineapple apple pen” ‘3 คำ’ สะท้านโลก ‘ไวรัล’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เพียงแค่คำไม่กี่คำอย่าง “ปากกา สับปะรด แอปเปิ้ล ปากกา” จะทำให้เพลง “pen pineapple apple pen” ฮิตไปทั่วโลกชนิดยอดวิวกระฉูดถล่มทลาย

 

       ไม่น่าเชื่อว่าแค่คำไม่กี่คำอย่าง “ปากกา สับปะรด แอปเปิ้ล ปากกา” จะทำให้เพลง “pen pineapple apple pen” จากยูทูบแชนแนล ของศิลปินชาวญี่ปุ่นที่ใช้ฉายาว่า “จอมมารแห่งโลกดนตรี” จะฮอตฮิตทั่วโลกโซเชียลอยู่ในขณะนี้ 

         เว็บไซต์แห่งหนึ่งให้ข้อมูลว่า เพลง “pen pineapple apple pen” เป็นผลงานของ “ปิโกะ ทาโร” นักแต่งเพลงและนักร้องจากจังหวัดชิบะ หากแต่ความจริงแล้วผู้ที่สร้างสรรค์ศิลปินเจ้าของท่าเต้นยียวนนี้ คือ นักแสดงตลกชาวญี่ปุ่น ที่ชื่อว่า “โคสะกะ ไดมาโอ” ซึ่งตามภาษาญี่ปุ่นแล้วแปลว่า “จอมมาร”

         “ปิโกะ ทาโร” เป็นตัวละครสมมุติที่ “โคสะกะ ไดมาโอ” สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้ร่วมแสดงกับเขาในการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนตามเมืองต่างๆ ในญี่ปุ่น เขาได้เผยแพร่ผลงานเพลงของ “ปิโกะ ทาโร” ผ่านโลกออนไลน์เมื่อต้นเดือนสิงหาคม และได้รับความนิยมอย่างน่าแปลกใจจนเจ้าตัวยังแทบไม่เชื่อ

        “โคสะกะ ไดมาโอ” เป็นนามแฝงของ คาซุฮิโก โคสะกะ ชายหนุ่มวัย 43 ปี จากจังหวัดอะโอโมริ ซึ่งเป็นดีเจและนักแสดงตลก เขาเริ่มต้นเส้นทางโลกบันเทิงโดยร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนตั้งกลุ่มนักแสดงตลกชื่อว่า “โซโคเมะ แอร์ไลน์” ในปี 1992 และเป็นที่รู้จักพอสมควร แต่สุดท้ายกลุ่มนี้ก็ต้องยุบไปในปี 2005

 “pen pineapple apple pen”  ‘3 คำ’ สะท้านโลก ‘ไวรัล’

          หลังจากนั้น “โคสะกะ ไดมาโอ” ตัดสินใจบินเดี่ยวด้วยการสร้างสรรค์ผลงานเพลงตลก ที่มีเอกลักษณ์คือ เป็นเพลงสั้นๆ ความยาวแค่ 1-2 นาที ส่วนเนื้อร้องของเพลงนั้น แม้แต่ชาวญี่ปุ่นก็ยัง “จับต้นชนปลาย” ไม่ถูกว่าหมายความว่าอะไร? แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุด คือ ทำนองดนตรีที่สร้างขึ้นด้วยประสบการณ์เป็นดีเจอันโชกโชนของเขา

        “โคสะกะ ไดมาโอ” สร้าง “ปิโกะ ทาโร” ขึ้นมาด้วยแนวคิดสร้างตัวการ์ตูนที่มีชีวิตจริงๆ แต่งตัวด้วยชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนเรื่อง “วันพีซ” และมีท่าเต้นยียวนกวนประสาท

       จอมมารแห่งโลกดนตรีผู้นี้ยังได้รับการสนับสนุนจากค่ายเพลงต้นสังกัด คือ AVEX Entertainment ซึ่งมีศิลปินดังๆ ในสังกัดมากมายทั้งในญี่ปุ่นและไต้หวัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ “ปิโกะ ทาโร” จะโด่งดังขึ้นจากญี่ปุ่น และถูกจุดกระแสต่อโดยสื่อไต้หวันและลุกลามเป็นกระแสทั่วโลก

 “pen pineapple apple pen”  ‘3 คำ’ สะท้านโลก ‘ไวรัล’

       นอกจากนี้กระแสในโซเชียลมีเดียยังมีการคัฟเวอร์เพลงนี้ลงในยูทูบมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ศิลปินสุดฮอตของไทยอย่าง สิงโต นำโชค ที่โพสต์คลิปลิปซิงเพลงดังขณะอุ้มลูกชายฝาแฝด “คาเน” และ “คาเลโอ” ร้องเพลงนี้ไปด้วย น่ารักฝุดๆ ไปเลย

       ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กดังอย่าง “หมอแล็บแพนด้า” ก็ได้ทำคลิปแปลงเนื้อเพลงดังกล่าว จนมีผู้เข้ามากดไลค์และแชร์กันเป็นจำนวนมาก

       จากกระแสความโด่งดังของเพลงฮิตดังกล่าว “บันเทิง คม ชัด ลึก” ได้ติดต่อไปยัง “หนึ่ง” ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์ นักแต่งเพลงชื่อดัง ถึงกระแสของเพลงฮิต “pen pineapple apple pen” ที่มีความยาวแค่ 1 นาทีกว่าๆ มีคำเพียงไม่กี่คำ ทำไมถึงได้ฮอตไปทั่วโลกออนไลน์ขนาดนี้ 

        “เราคิดว่าเพลงนี้ เป็นอะไรที่ไม่ต้องมีสาระหนักมากมาย เพราะเดี๋ยวนี้คนอาจจะเครียด พอได้ดูครั้งแรก เลยคิดว่า เอ๊ย! บ้าดีนะเพลงนี้ แบบนี้สามารถเป็นเพลงได้เหรอ ฟังแล้วอย่าไปคิดอะไรกับมันมาก สนุกดี ดูไปเราก็ยิ้มไป ส่วนสิ่งที่ทำให้ฮิต คิดว่าเป็นเพราะเวลาที่ทุกคนดูคลิปนี้ แล้วเกิดความรู้สึกเดียวกันว่า มันน่ารักดี ตลก อยากแชร์ เพลงเขาก็แต่งมาแบบง่ายๆ มีปากกา มีแอปเปิ้ล มีสับปะรด (หัวเราะ) ไม่ต้องมีหลักการ ไม่มีเหตุผล เพราะความสนุกของคนเราบางทีไม่ต้องมีเหตุผลหรอก โดยเฉพาะตัวนักร้องที่อยู่ในเอ็มวี เซอร์ไพรส์มากกว่า เป็นแค่ลุงแก่ๆ คนหนึ่งมาร้องเพลง และเต้นให้เราดู แค่นี้ก็สนุกได้แล้ว ไม่ต้องไปค้นหาว่าความหมายแปลว่าอะไร หรือมีเหตุผลมั้ย ดูแล้วแค่บันเทิงคือจบ” หนึ่งให้ความเห็น

 “pen pineapple apple pen”  ‘3 คำ’ สะท้านโลก ‘ไวรัล’

      ถามว่าในฐานะของคนเขียนเพลงแค่ 3 คำในเพลงนี้ ส่งผลต่อผู้ฟังยังไง ก็ได้มุมมองว่า มันบ้าดี คนชอบ เพราะดูแล้วไม่เครียด บันเทิง เพลงเพลงนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน ดูคลิปนี้แล้วต้องมีรอยยิ้ม ชอบไม่ชอบ ไม่รู้ แต่เอามันไว้ก่อน 

      "จริงๆ งงเหมือนกันนะ ที่เพลงนี้กลายเป็นปรากฏการณ์และถูกแชร์ไปเร็วมาก บางทีเหมือนเป็นเพลงสอนเด็กอนุบาลด้วยซ้ำไป อารมณ์คล้ายเพลงสอนคำศัพท์ ฟังครั้งแรก เราพยายามนั่งคิดว่า ความหมายที่แท้จริงของเพลงที่เขาต้องการจะสื่อสารคืออะไร แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปลงลึกขนาดนั้น สุดท้ายเราก็ฟังแค่สนุก ตลกดี”

 “pen pineapple apple pen”  ‘3 คำ’ สะท้านโลก ‘ไวรัล’

      หนึ่งบอกด้วยว่า เพลงนี้ประสบความสำเร็จมาก ในมุมมองที่เป็นเหมือน VIRAL ทุกวันนี้คือตื่นมาจะเห็นเพลงนี้เต็มฟีดหน้าเฟซบุ๊กไปหมด 

      "จริงๆ เพลงนี้เราได้เห็นจากคนอื่นที่แชร์มาเหมือนกัน และพอดูแล้ว เราก็แชร์ต่อ เหมือนเป็นมุกสนุกๆ ในชีวิต ถามว่า เพลงนี้จะดังไปได้ขนาดไหน เราคงต้องติดตามกันต่อไป ถ้าพูดถึงความเป็นเพลง "กังนัมสไตล์" มีความเป็นเพลงและจริงจังมากกว่า แต่เพลงนี้เนื้อหาสั้นๆ และมีลักษณะเป็นไวรัล ถึงบอกว่า เอาแค่สนุกอย่างเดียว ส่วนตัวเรามองว่าเพลงอาจจะไปไม่ถึงกังนัมสไตล์ แต่จะไปได้ไกลไม่น้อย อันนี้เป็นเรื่องของอนาคต เพราะเราไม่สามารถคาดเดากระแสได้” หนึ่งกล่าว

       สุดท้ายนักแต่งเพลงชื่อดังเสริมว่า ทุกวันนี้ คนชอบเสพอะไรที่แตกต่าง เทรนด์ของวงการเพลงในอนาคตอาจจะพูดยาก ไม่มีใครรู้ว่าการทำคลิปแบบนี้แล้วจะดัง คนที่แต่งเพลงนี้ คงไม่คาดคิดเหมือนกันว่า กระแสจะมาได้ไกลขนาดนี้ แต่ในโลกโซเชียล อะไรก็เกิดขึ้น และดังได้ชั่วข้ามคืน โดยไม่ต้องไปหาเหตุผล 

      ที่สำคัญนักแต่งเพลงผู้คร่ำหวอดในวงการคนนี้ย้ำว่า ไม่สามารถเอาบรรทัดฐานของเพลงนี้ ไปแต่งเพลงอื่นๆ ได้ เพราะไม่ได้การันตีว่า ทำเหมือนเขา แล้วจะดังเท่าเขา ขึ้นอยู่กับว่า เพลงที่ทำ โดนใจคนฟังแค่ไหน และลงตัวในแบบที่ควรจะเป็นหรือไม่ บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา เพราะโลกของเพลง ไม่มีกฎเกณฑ์ว่าอะไรถูก อะไรผิด หรือข้อกำหนดว่าทำแบบนี้แล้วต้องดังแน่นอน

                                                                         โต๊ะข่าวบันเทิง....รายงาน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ