บันเทิง

กะรัตรัก Diamond Lover Ep. 10

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘เซี่ยวเลี่ยง’ สามารถเพิ่มยอดขายให้บริษัทได้ 20 เปอร์เซ็นต์ สร้างความไม่พอใจให้ ‘จื่อเหลียง’

ทุกวันจันทร์พุธ เวลา 08.00 น. 23.00 น. ทางช่อง NOW26

    จื่อเหลียงคุยกับซือหยวน
    “เรื่องเมื่อกี้คุณเห็นแล้วใช่มั้ย เดือนก่อนเขายังเป็นผู้ช่วยของคุณ แต่ตอนนี้พลิกผันตัวเอง กลายเป็นคนดังที่สุดในบริษัทซะแล้ว แล้วคุณล่ะ จากนักออกแบบแถวหน้า กลายเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่น ความรู้สึกแบบนี้ไม่ดีหรอก ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จล่ะก็ ต้องคว้าใครคนหนึ่งเอาไว้ หรือไม่ก็ต้องเหยียบหัวของทุกคน สำหรับจะคว้าเอาไว้หรือเหยียบให้จมดิน ผมคิดว่าคุณคงรู้ดีแก่ใจ”
    “ความหมายของคุณคือ..”
    “มี่โตะคือคนที่ผมเลือกเข้ามา แต่เธอเลือกคุณเซี่ยวเป็นที่พึ่งพาของเธอ คนที่เนรคุณอย่างนี้ มีอะไรบ้างที่ทำไม่ได้ เขาอยากเป็นนักออกแบบไม่ใช่เหรอ ผมว่าเขาสามารถไล่ตามคุณได้ ในอีกไม่ช้าอย่างแน่นอน” ซือหยวนอึ้งไป
    เหม่ยลี่แต่งชุดแต่งหน้าออกมาให้อี้หมิงดูแบบไม่มั่นใจ อี้หมิงว่าเขาวางคอสตูมให้เข้ากันดีเลย แต่เหม่ยลี่รู้สึกแปลกๆ
    “แปลกตรงไหนกันล่ะ ยัยอ้วนเธอต้องเชื่อฉันนะ ถ้าเธอแต่งตัวแบบนี้ไปเดินห้างรับรองใครเห็นต้องคิดว่านางฟ้าแน่ๆ”
    อี้หมิงพูดให้เหม่ยลี่ไปเติมอายแชโดว์อีกนิด เธอรีบเข้าไปเติม พอดีเกาเหวินส่งข้อความมาบอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับเธอ เหม่ยลี่รีบไปหา
    เกาเหวินเห็นการแต่งตัวของเหม่ยลี่ก็ชะงักแปลกใจมาก ถามว่าจะไปไหนเหรอ เหม่ยลี่อึกอัก เกาเหวินตัดบทบ่นว่าเมื่อคืนเธอติดต่อไปทำไมไม่ตอบ
    “เมื่อคืน.. เอ่อ เมื่อคืนเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นกับฉันน่ะ” 
    “เรื่องอะไร ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
    “เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ”
    “เอ๊ะ ทำไมบังเอิญจังล่ะ”
    “บังเอิญอะไร”
    “เมื่อวานเซี่ยวเลี่ยงก็เกิดอุบัติเหตุเหมือนกัน นัดกับฉันไว้ยังไปสายเลย”
    “จริง จริงเหรอ แล้ว.. พวกเธอไม่เป็นไรใช่มั้ย เอ่อ.. ที่จริงแล้วเมื่อคืน”
    “จริงสิ ฉันเรียกเธอออกมาเพราะมีเรื่องนิดหน่อย เธอช่วยฉันเช่าอพาร์ทเมนท์ห้องหนึ่งได้มั้ย อื่ม.. ช่วงนี้นักข่าวสะกดรอยตามฉันตลอด ฉันเลยไม่สะดวกไปจองด้วยตัวเอง”
    “แล้วทำไมไม่อยู่บ้านเธอล่ะ”
    “เฮ่อ ฉันจะออกเดท อยู่บ้านไม่สะดวกหรอก”
    “แต่อพาร์ทเมนท์ต้องอยู่ยาวนะ”
    เหม่ยลี่ว่าจะรีบสอบถามให้ แต่เกาเหวินบอกให้จองคืนนี้เลย 
    เซี่ยวเลี่ยงไปถึงร้านอาหารซึ่งจองไว้ทั้งร้าน เขานั่งรอเหม่ยลี่อยู่นาน พอเหม่ยลี่มาถึงก็ไม่เจอเขาแล้วเธอเศร้าจะเดินกลับ เซี่ยวเลี่ยงก็เข้ามาถามว่าทำไมมาสาย
    “ฉันไม่รู้ว่าคุณจะรออยู่ที่นี่”
    “ทั้งที่คุณเป็นคนชวนผมทานข้าวเอง ทำไมต้องมาสาย ทำไมต้องผิดนัดด้วย ไม่อยากมาก็ไม่ต้องนัดสิ”
    “เพราะว่าฉันอยากเจอคุณ เพราะฉันอยากเจอคุณมากก็เลยไปแต่งหน้าอย่างนี้ แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนี้ ฉันอยากให้คุณเห็นฉันที่แตกต่างไปจากทุกๆ วันในบริษัท และฉัน ขอบคุณคุณมาก ที่วันนี้คุณมาทานข้าวกับฉันและก่อนหน้านี้ที่คุณช่วยฉัน ฉันรอคอยวันนี้มานานมาก นานกว่าที่คุณรอฉันอยู่ที่นี่อย่างมากๆๆๆๆๆ เลยล่ะค่ะ”
    พอดีอี้หมิงโทรมา พอเหม่ยลี่รับก็โวย “ให้ฉันสะกดรอยตามเกาเหวินแต่เธอกลับไม่มา ฮัลโหล ยัยอ้วนฉันถึงแล้ว”
    “ฮัลโหลพี่หมิงหมิง โทรหาฉันมีธุระเหรอ”
    “พี่หมิงหมิงเหรอ” อี้หมิงทำเสียงผู้หญิง “ยัยอ้วนตอนนี้พี่มาถึงแล้ว พี่อยู่สถานที่ที่เธอบอกแล้วจะให้ทำยังไงต่อล่ะ”
    “อ้อ อย่างงั้นเหรอ งั้นไม่เป็นไร พี่จัดการเองไปก่อนเถอะ ฉันกินข้าวอยู่กับเพื่อนงั้นแค่นี้ก่อนนะบ๊ายบาย”
    อี้หมิงเหวอไปทีเดียว
    เซี่ยวเลี่ยงชวนคุยถามเหม่ยลี่ว่ามีโปรแกรมอื่นอีกมั้ยเธอตอบว่าไม่มี
    “คุณแต่งตัวอะไรของคุณมาเนี่ย”
    “ไม่สวยเหรอคะ ฉันตั้งใจมากเลยนะ สวยมั้ย ฮิๆๆ สวยมากเลยน้า ฮิๆๆๆไ
    “สวยแบบมุมสามร้อยหกสิบองศาตายเรียบ”
    อี้หมิงโทรเข้ามาอีก แต่เซี่ยวเลี่ยงไม่ให้รับสาย เขายึดโทรศัพท์ไว้เลย เหม่ยลี่จะถามเรื่องเกาเหวิน เซี่ยวเลี่ยงว่ากินข้าวกับเธอไม่อยากได้ยินชื่อคนอื่น

กะรัตรัก Diamond Lover Ep. 10

    เกาเหวินเดินคุยกับหานปิงออกมาจากห้องหนึ่ง เกาเหวินเห็นอี้หมิงแม้จะแต่งตัวเยอะแต่เธอก็จำได้ จึงทักว่ามาอยู่ที่นี่ได้ไง อี้หมิงรีบเคาะห้องตรงหน้าเหมือนกำลังง้อผู้หญิงอยู่ หานปิงจำได้ว่าคือคนที่ชกหน้าเขา เกาเหวินว่าอี้หมิงคือคนที่มาตรวจตอนเขาไม่สบาย ต้องขอบคุณ เกาเหวินชวนอี้หมิงไปกินข้าวด้วย
    อี้หมิงไปกินข้าวกับเกาเหวินและหานปิง ทั้งอี้หมิงและหานปิงต่างคุยข่มกัน เกาเหวินตัดบทชวนกินข้าว อี้หมิงขอไปโทรศัพท์ก่อน
    หานปิงบ่นว่าอี้หมิง เพราะรู้สึกว่าเกาเหวินดูมีความสุขที่ได้เจออี้หมิง แล้วเขาก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ พอถึงห้องน้ำก็รีบโทรถามเพื่อนว่าถ่ายรูปเขากับเกาเหวินได้มั้ย อี้หมิงได้ยินก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล
    อี้หมิงกลับมาหาเกาเหวินที่โต๊ะ ถามเรื่องเธอกับหานปิง เกาเหวินว่าคืนนี้กันแล้ว อี้หมิงถามถึงเซี่ยวเลี่ยง เธอว่าไว้จะเล่าให้ฟัง
    “แล้วพวกคุณออกมาอย่างนี้ ไม่กลัวจะถูกคนอื่นถ่ายรูปเหรอ”
    “ถ้าถูกถ่ายรูป” เกาเหวินยังพูดไม่ทันจบ
    หานปิงเข้ามากระแอม “พวกคุณคุยอะไรกันอยู่ ถูกคนอื่นถ่ายอะไรกัน หมาย หมายความว่าไง”
    “ไม่มีอะไร ทำไมคุณไปนานล่ะคะ”
    “อ้อ ผมกลัวจะมีปาปารัสซี่เลยออกไปดูลาดเลาหน่อย”
    “ไม่มีหรอกฉันให้คนจัดการแล้ว เราไม่มีทางโดนถ่ายรูปหรอก” เกาเหวินว่า
    อี้หมิงแทรกว่า “อ้อ งั้นก็ดี ผมกลัวว่า จะถูกคนที่ไร้จิตสำนึกหลอกใช้ สร้างข่าวลือขึ้นเพื่อจะทำร้ายคุณ”
    หานปิงทำเห็นด้วย “ก็ถูกนะ ไม่มีใครรู้จิตใจคนอื่นหรอก โดยเฉพาะพวกที่ ต้องการจะใกล้ชิดกับคุณ จริงมั้ย”
    “เดี๋ยวนะ พวกคุณอีกคนคือเพื่อนของฉัน อีกคนคือแฟนของฉัน ถ้าแม้แต่พวกคุณฉันยังไว้ใจไม่ได้ฉันคงไม่ต้องเชื่อใครแล้วล่ะ”
    “เอางี้เดี๋ยวตอนกลับผมจะไปส่งคุณเอง จะได้ประหยัดเวลา”
    “คุณหมอเหลยยุ่งมากไปแล้ว เราสองคน ไม่รบกวนคุณดีกว่า”
    “ฉัน.. ไม่รบกวนคุณสองคนแล้วล่ะ ฉันโทรเรียกผู้ช่วยมารับดีกว่า”
    เหม่ยลี่นั่งรถมากับเซี่ยวเลี่ยง จนเซี่ยวเลี่ยงถามว่าเธอเป็นอะไร เหม่ยลี่บอกว่าขอถามอย่างหนึ่งได้มั้ย เซี่ยวเลี่ยงว่าไม่ได้ แต่เหม่ยลี่ถามเลย
    “คุณรักเกาเหวินจริงๆ เหรอ”
    “ทำไมถึงถามแบบนี้”
    “เอ่อ เปล่าค่ะ เกาเหวินเป็นเพื่อนของฉัน ตอนนี้ฉันออกมากินข้าวกับคุณลับหลังเธอแบบนี้ ฉันรู้สึกไม่สบายใจน่ะค่ะ”
    “ในเมื่อคุณคิดแบบนี้ ทำไมยังถามผมอีกล่ะ คุณแค่อวยพร ให้เราไม่ดีกว่าเหรอ”
    “ที่จริง ก่อนฉันจะเป็นเพื่อนกับเกาเหวิน ฉันก็ชอบคุณอยู่ก่อนแล้ว มีคนบอกฉันว่า การรักใครคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องน่าอาย ฉันจึงอยากพูดว่า ฉันรักคุณ แต่ฉันไม่เคยหวังเลยว่าจะต้องได้คบกับคุณ ถ้าคุณคบเกาเหวินแล้วมีความสุขจริงๆ ฉันจะอวยพรให้พวกคุณอย่างจริงใจค่ะ” เซี่ยวเลี่ยงจูบเหม่ยลี่ทันที
    อี้หมิงกลับมาบ้านก็ต่อว่าตุ๊กตาที่เป็นตัวแทนเหม่ยลี่ แต่ทันใดนั้นเหม่ยลี่ก็เข้ามา เขารีบนั่งทับตุ๊กตาแล้วถามเหม่ยลี่ที่ปิดโทรศัพท์หนี
    เหม่ยลี่เขินๆ “ดูเหมือนฉันจะอินเลิฟน่ะ”
    “ห๋า! อิน อินเลิฟเหรอ เป็นไปไม่ได้”
    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวละลายไปหมดเลย ความรู้สึกฉันยืนอยู่บนก้อนเมฆ จากนั้นหัวใจของฉันก็.. กระตุบๆ หน้าร้อนผ่าวมากเลยล่ะ”
    “ฉันว่าเธอเป็นไข้มากกว่านะ ฝันกลางวันหรือไง ฉันดูสิ”
    “รีบรายงานสถานการณ์มาสิว่าเป็นไงบ้าง” เหม่ยลี่ว่าให้รีบเล่ามา อี้หมิงว่าเกาเหวินคืนดีกับหานปิงแล้ว เหม่ยลี่ตกใจ
    “นายพูดจริงเหรอ ก็หมายความว่าเธอไม่รักเซี่ยวเลี่ยงพวกเขาเลิกกันแล้วเหรอ”
    “ไม่หรอก แต่ฉันคิดว่า มันไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบนั้น”
    “เฮ้อ มิน่าล่ะ วันนี้ตอนฉันพูดถึงเกาเหวินเขาบอกว่าอย่าพูดถึงผู้หญิงคนอื่น ฉันรู้สึกว่าระหว่างเขากับเกาเหวินดูไม่เหมือนแฟนกันเลย”
    “ฉันก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน แต่แฟนเก่าของเกาเหวินนี่สิ ฉันรู้สึกว่าเขามีปัญหา เขาคงไม่ทำร้ายเกาเหวินหรอกนะ ฉันไม่แน่ใจเลย”
    “แต่ฉันแน่ใจว่า เซี่ยวเลี่ยงต้องไม่ชอบเกาเหวินแน่ๆ ไม่งั้นเขาจะจูบฉันได้ยังไงล่ะ”
    “คงต้องบอกเกาเหวินแล้วล่ะ เพราะเธอไม่ควรคบกับผู้ชายคนนั้น” อี้หมิงถอนใจ “อะไรนะเมื่อกี้เธอบอกว่าจูบกับใครนะ!”
    “เอ๊ะ แล้วทำไมนายต้องเกลี้ยกล่อมเกาเหวินด้วย แล้ว ฉันกับเซี่ยวเลี่ยงจะทำยังไง”
    “เธอชอบเซี่ยวเลี่ยงจริงๆ เหรอ เธอจะคบกับเขาจริงๆ เหรอ”
    “ไม่สำเร็จ ฉันไม่มีทางตัดใจ นายต้องช่วยฉันด้วยนะ”
    “ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันจะทำไงได้”
    “ฉันนึกแล้วว่านายน่ารักที่สุด ฮิๆๆ ยืนอีกทีสิ”
    “ห๋ะ มีอะไร”
    “นายทำอะไรหมีน้อยของฉัน! เสี่ยวเลี่ยงเลี่ยง มาจูบกัน” เหม่ยลี่ยิ้มสุขใจ

กะรัตรัก Diamond Lover Ep. 10

    เซี่ยวเลี่ยงสามารถเพิ่มยอดขายให้บริษัทได้ 20 เปอร์เซ็นต์ตามที่ได้ประกาศไว้ สร้างความไม่พอใจให้กับจื่อเหลียงน้องชายต่างมารดาของเขา ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาโดยตลอดเป็นอย่างมาก เจิ้นตงก็ชื่นชมเขาออกหน้ามาก
    เจิ้นตงคุยกับจื่อเหลียง
    “คิดไม่ถึงเลยว่า เซี่ยวเลี่ยงจะทำลายสถิติยอดขายของบริษัทได้ จื่อเหลียง ด้านนี้แกต้องเรียนรู้จากเขาให้มากๆ”
    “ครับ”
    “แน่นอนว่า ความมุ่งมั่นของแกย่อมอยู่ในสายตาของพ่อ เซี่ยวเลี่ยง แย่งซีนในการประชุมโปรเจคใหม่ของแก แกคงรู้สึกไม่พอใจสินะ”
    “พ่อพูดแบบนี้หมายความว่าไงครับ เขาสร้างยอดขายได้ดีขนาดนี้ แค่ผมยินดีกับเขายังน้อยไปด้วยซ้ำ”
    “อื้ม ได้ยินแกพูดอย่างนี้ พ่อก็สบายใจแล้วล่ะ ตั้งแต่เล็กจนโต แกฉลาดและเป็นผู้ใหญ่กว่าเขา ต่อไป ไม่ว่าอะไรต้องให้ความร่วมมือเขามากๆ ล่ะ”
    “พ่อวางใจได้ครับ เขาเป็นพี่ชายผม ผมต้องพยายามเดินตามเขาอยู่แล้ว”
    “อื้ม งั้นก็ดี อ้อ จริงสิ พ่อคิดว่าคืนนี้ จะจัดงานฉลองชัยชนะให้เขา เรื่องรายละเอียด ฝากแกจัดการด้วยนะ อย่าลืมว่า ต้องถามความเห็นของเซี่ยวเลี่ยงก่อน”
    จื่อเหลียงรับคำนิ่งๆ “ครับ”
    เหม่ยลี่เข้ามาหาเซี่ยวเลี่ยงที่ห้องทำงาน เขาถามว่าเข้ามาได้ไง
    เหม่ยลี่ว่า “เลขาบอกว่าไปกินข้าวนี่คะ นี่คือของอร่อยที่ฉันเอามาให้คุณค่ะ”
    “ออกไป ลืมมันเถอะ ผมหวังว่าคุณจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คุณมีคำถามมั้ย ผมรู้ว่าคุณอยากถามอะไร ผมจะตอบคุณตอนนี้เลย การปรากฏตัวของคุณก่อความวุ่นวายกับชีวิตผมมาก ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป คุณจะทำลายแผนการทั้งหมดของผม”
    “คุณเซี่ยวเมื่อวานยังดีอยู่เลยทำไมวันนี้เปลี่ยนไปขนาดนี้ล่ะคะ”
    “อ้อ จริงเหรอ คุณยังรู้เหรอว่าผมคือประธานเซี่ยว คุณกลับไปเป็นพนักงานธรรมดา ที่อยู่ในขอบเขตเถอะ แต่ไม่ใช่อยู่ข้างๆ ผม ออกไปได้”
    เซี่ยวเลี่ยงสั่งให้ฉีหยูไปแจ้งแผนกออกแบบให้เปลี่ยนผู้ช่วยคนอื่นมาแทนเหม่ยลี่
    พอซือหยวนรู้ก็บอกเหม่ยลี่ให้คนอื่นนำเอกสารไปให้แทน แล้วเข้าไปรายงานจื่อเหลียง
    “มีบางอย่างเกิดขึ้นค่ะ ฉันอยากรายงานคุณพอดี แต่ตอนนี้ต้องขอพูดนอกเรื่องหน่อย ช่วงนี้คุณสบายดีมั้ยคะ”
    “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง”
    “ในที่ประชุมครั้งก่อน คุณรายงานการทำงาน แต่กลับถูกเซี่ยวเลี่ยงแย่งซีน คุณคงไม่สบายใจใช่มั้ยคะ”
    “ผมเรียกคุณมาเพื่อให้มาสงสารผมหรือไง”
    “ฉันไม่ได้หมายความอย่างนี้ ฉันแค่.. มีความรู้สึกเดียวกัน เพราะไม่ว่าฉันพยายามยังไง คนที่ถูกให้ความสนใจมักจะเป็นคนอื่น ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันหวังว่าจะมีสักคนปลอบโยน แม้เพียงครึ่งคำก็ยังดีค่ะ”
    “ผมไม่ใช่คุณหนิ ผมไม่หดหู่เพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้หรอก”
    “ขอโทษค่ะท่านรองหลิน ฉันคิดมากไปเอง”
    “ช่างเถอะ เข้าเรื่องได้แล้ว ระหว่างประธานเซี่ยวกับมี่โตะมีปัญหาใช่มั้ย”
    “คุณรู้ได้ยังไงคะ ช่วงนี้คุณเซี่ยวทำตัวแปลกกับเธอมาก ไม่เพียงแค่เย็นชาใส่เท่านั้น แม้แต่งานส่งเอกสารก็ยังไม่ให้เธอทำ ระหว่างพวกเขาเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ”
    “วันนี้ผมดูไม่ผิดเลยจริงๆ ดูเหมือนพวกเขาจะทนไม่ไหวแล้ว งานฉลองชัยชนะครั้งนี้ ผมจะสอบสวนมี่โตะอย่างละเอียด”
    “ท่านรองหลิน คุณสนใจเขาอย่างนี้ มีอะไรพิเศษหรือเปล่าคะ”
    “แน่นอน แม้ตอนนี้ความสัมพันธ์ของประธานเซี่ยวกับมี่โตะจะดีมาก แต่ว่าคนเย็นชาอย่างประธานเซี่ยว สามารถทิ้งมี่โตะได้ตลอดเวลา เมื่อถึงเวลานั้น ไพ่ใบนี้จะเป็นของใครก็ยังพูดยาก”
    “ความหมายของคุณคือ จะพยายาม ดึงมี่โตะเข้ามาเหรอคะ”
    “ไม่เพียงแค่มี่โตะ ผมสนใจทั้งหมดที่เป็นของประธานเซี่ยว ผมต้องการแย่งพวกมันมา หรือทำลายมันให้สิ้นซาก ปฏิกิริยาของประธานเซี่ยว คงน่าดูมากแน่ๆ”
    เจสันโวยวายเข้ามาหาเกาเหวินบอกว่าต้องเปลี่ยนคอสตูมใหม่ เกาเหวินถามว่าเกิดอะไรขึ้น
    “เธอยังไม่รู้อีกเหรอ บริษัทของเซี่ยวเลี่ยงบอกว่าสถิติยอดขายจิวเวอร์ลี่เพิ่มขึ้น ในฐานะที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเขาความดีก็ต้องตกที่เธอสิ นี่ ตอนนี้คนทั้งวงการต่างพูดว่าพวกเธอเป็นคู่มหัศจรรย์แล้วนะ”
    “งั้นเธอก็ไปเลือกของขวัญให้เขาแทนฉันสิฉันไม่ว่างไปหรอก”
    “พูดบ้าๆ อะไรของเธอ ห๋ะ เรื่องใหญ่อย่างนี้เธอควรไปร่วมงานด้วยตัวเองนะ เอาไป งานฉลองของเทซีโร่คืนนี้ พวกเขาเชิญเธอออกงานในฐานะนายหญิงนะ นี่ ฉันจะบอกให้ เธอต้องแต่งตัวให้สวยที่สุดถึงจะไปได้”
    “แต่วันนี้ฉันไปไม่ได้แล้ว ฉันมีธุระต้องทำ”
    “เดี๋ยว มีธุระอะไรล่ะ มีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่าเซี่ยวเลี่ยง ฉันจะบอกให้นะ งานเลี้ยงในคืนนี้ใหญ่มาก มีคนดังมากมายไปร่วมงานทั้งนั้น”
    หญิงคนหนึ่งนำของมาให้เจสันบอกว่ามีแฟนคลับส่งมาให้ เขาเปิดดูแล้วรีบปิดก่อนบอกเกาเหวินว่าไม่มีอะไร แล้วก็รีบเลี่ยงไปเลือกเสื้อให้ สิ่งที่แฟนคลับส่งมาให้คือรูปของเกาเหวินกับหานปิง
    เกาเหวินเดินมาดูเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ อี้หมิงก็ผิวปากเข้ามา
    “คุณมาได้ไงเนี่ย เมื่อวานเราเพิ่งเจอกันไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าคุณกลายเป็นแฟนคลับของฉันไปแล้ว”
    “โธ่ คุณไม่ต้องพูดแล้วน่า ผมแค่ผ่านมาแถวนี้เลยแวะมาดูว่าคุณทำอะไรอยู่”
    “โอเค ในเมื่อคุณว่างขนาดนี้ ก็มาช่วยเป็นคนขับรถไปส่งฉันที่เทซีโร่หน่อยสิ”
    “เอ๊ะ ไปที่นั่นทำไม”
    “พวกเขาจัดงานฉลองเลยเชิญฉันไปเป็นแจกันดอกไม้” (แจกันดอกไม้-แปลว่าไม่มีประโยชน์) 
    “ทำไมพูดว่าเชิญไปเป็นแจกันดอกไม้ล่ะ เซี่ยวเลี่ยงเป็นแฟนตัวจริงของคุณนะ ทำไมพูดว่าตัวเองแบบนั้นล่ะ นี่ นี่ๆ ผมถามหน่อย เรื่องของคุณกับเซี่ยวเลี่ยง หานปิงรู้มั้ย”
    “เขารู้ ฉันอธิบายกับเขาแล้ว”
    “เรื่องนี้ก็ยอมรับได้เหรอ มีความเป็นไปได้สองอย่าง ข้อแรก เขารักคุณอย่างแท้จริง ข้อสอง เป็นไปได้ว่า เขาไม่รักคุณ”
    “คุณถามมากทำไมเนี่ย วันหลังฉันค่อยอธิบายให้ฟัง ไปกันเถอะ”
    “เกาเหวิน คุณจะคืนดีกับหานปิงจริงๆ เหรอ”
    “เป็นความจริงแน่นอน นี่คือการตัดสินใจของฉันเอง อีกอย่างฉันก็คบกับเขามานาน ยังไงก็ตัดกันไม่ขาดหรอก ไปเถอะ”
    “ไปไหน”
    “คุณคิดว่าฉันใส่ชุดนี้ดูดีมั้ย” 
    ในงานเซี่ยวเลี่ยงเดินคู่กับเกาเหวินตลอดเวลา จื่อเหลียงเห็นเหม่ยลี่ยืนมองอยู่ก็เข้าไปหา
    “เป็นยังไง เหมาะสมกันดีนี่”
    “ท่านรองหลิน”
    “ทำไมไม่ไปทักทายเกาเหวินเพื่อนรักของคุณล่ะ”
    “ตอนนี้เธอกำลังยุ่ง ฉันไม่อยากไปรบกวนเธอค่ะ”
    “อื้ม คุณพูดมีเหตุผล นายหญิงในอนาคตของบริษัท คุณขึ้นไปจะพูดอะไรกับเขาล่ะ”
    เจิ้นตงเข้ามา เซี่ยวเลี่ยงแนะนำเกาเหวินให้รู้จัก เจิ้นตงทักทาย แล้วหันไปทักคุณหลิว ก่อนหันไปบอกให้เซี่ยวเลี่ยงเริ่มงานเลย

กะรัตรัก Diamond Lover Ep. 10

    เซี่ยวเลี่ยงขึ้นกล่าวบนเวที “ครับ เอ่อ โอเค สวัสดีท่านผู้มีเกียติทุกท่าน ก่อนจะเริ่มงานฉลอง ผมเป็นตัวแทนของเทซีโร่จิวเวอร์ลี่ มาขอบคุณทุกท่านอย่างเป็นทางการ ที่ผมมีผลงานอย่างวันนี้ได้ ต้องขอบคุณความมุ่งมั่นของพนักงานทุกคนในบริษัท ขอบคุณพวกคุณทุกคน”
    ทุกคนปรบมือ เซี่ยวเลี่ยงกล่าวต่อ “เอ่อ สามเดือนก่อน ตอนที่ผมสัญญากับทุกคนว่าจะเพิ่มยอดขาย 20 เปอร์เซ็นต์ ก็รู้แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง เพราะผมเคยฟังนิทานเรื่องหนึ่ง สาเหตุที่สิงโตสามารถล่อเหยื่อได้ในฝูงกวางได้ไม่ใช่เพราะความเร็วและไม่ใช่เพราะว่าสิงโตดุร้าย แต่เป็นเพราะสิงโต จับจ้องเป้าหมายเดียวตลอดเวลา และไม่มีทางยอมแพ้เพราะเหตุผลอื่นอย่างเด็ดขาด ขอบคุณนิทานเรื่องนี้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผม แน่นอนว่า ผมยังต้องขอบคุณคนพิเศษคนหนึ่ง เธอเป็นคนบอกผมว่า ต้องพยายามลองลงมือทำ กล้าเผชิญกับเรื่องที่ตัวเองไม่ต้องการ เธอเป็นคนสอนให้ผมรู้ว่า แม้ช่วงเวลาที่ลำบากที่สุด จะถูกทุกคนปฏิเสธ ก็อย่ายอมแพ้ง่ายๆ  เธอมอบรอยยิ้มมากมายให้ผม และทิ้งน้ำตามากมายไว้ให้ผมเช่นกัน เราผ่านพ้นทุกอย่างในสามเดือนนี้มาด้วยกัน และเป็นเธอ ที่เปลี่ยนแปลงปมด้อยในชีวิตผม ตอนนี้ เธอคือของขวัญ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมก็ว่าได้ ขอบคุณที่เธอมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ผม ขอบคุณมาก เกาเหวิน” 
    ระหว่างที่เซี่ยวเลี่ยงกล่าว เขามองหน้าเหม่ยลี่เกือบตลอดเวลา จื่อเหลียงสังเกตเห็น
    เซี่ยวเลี่ยงพาเกาเหวินออกไปเต้นรำ จื่อเหลียงก็ไปบังคับเหม่ยลี่ออกไปเต้นกับเขา
    “คุณรู้มั้ย สายตาของคนๆ หนึ่ง สามารถทรยศความลับที่อยู่ในใจของเขา ถ้าต้องการรู้ความลับของเขา แค่เรามองตาเขาก็รู้แล้ว อย่าขยับ ผมกำลังหาของสิ่งหนึ่งอยู่”
    เซี่ยวเลี่ยงที่เต้นรำกับเกาเหวินมองคู่จื่อเหลียงกับเหม่ยลี่จนเหยียบเท้าเกาเหวิน เขารีบพาเธอไปพัก
    จื่อเหลียงบอกเหม่ยลี่ว่า “ผมมองหาจุดอ่อนเขาอยู่ตลอด ในที่สุดวันนี้ก็หาเจอ”
    “ขอโทษค่ะท่านรองหลิน ฉันเหนื่อยแล้ว”
    ในห้องน้ำเซี่ยวเลี่ยงล้างหน้าอยู่ จื่อเหลียงเข้ามา
    “ยินดีด้วยๆ  วันนี้คงมีความสุขมากสินะ พ่อก็มีความสุขกับพี่มากหนิ”
    “นี่คือสถานที่สาธารณะ กรุณาอย่าเรียกเขาว่าพ่อ ทุกอย่างที่เป็นของฉัน นายอย่าหวังว่าจะเอาไปได้”
    “แล้วมี่โตะล่ะ เธอไม่ใช่ของพี่ใช่มั้ย ผมเอาไปได้ใช่มั้ย”
    “แล้วแต่นาย เธอกับฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน แต่อย่าสร้างปัญหาในบริษัท”
    “พี่คงไม่สนใจเธอจริงๆ ด้วย งั้นไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ พี่ก็ไม่สนใจใช่มั้ย”
    เซี่ยวเลี่ยงถอนใจ
    เหม่ยลี่รู้สึกไม่ดี โทรให้อี้หมิงมารับ แต่ทันใดนั้นจื่อเหลียงก็เข้ามาหาเธอบอกให้ไปกับเขา
    “คุณจะทำอะไรคุณเซี่ยว”
    “ถ้าคุณไม่ต้องการให้เขาเป็นอะไรล่ะก็ ยอมมากับผมซะดีๆ”

จบตอนที่ 10


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ