ทำละครเรื่องแรกปัญหาเยอะ“อั้ม”ยันยังไม่ถอดใจ

         นับว่าเป็นอีก 1 มหากาพย์ สำหรับปัญหาที่คาราคาซัง ผลพวงจากซีรีส์ เรื่อง “เจ้าเวหา” ตอน "ฝั่งน้ำจรดฝั่งฟ้า"ของ “อั้ม”อธิชาติ และ "นัท"มีเรีย  หลังจากล่าสุด เหล่านักแสดงประกอบในเรื่อง ได้แก่ อาชานันท์ เชยสุวรรณ ปราชญ์ บัวภา ปาฏิหาริย์ เพ็งสุข และฉัตรวัต รัตนวงศ์ และพร้อมด้วยโปรดิวเซอร์ จะเข้าแจ้งความที่ สน.บางกอกน้อย โดยจะแจ้งความร้องต่อ วินัย เยี่ยมประเสริฐ บ.บลูริบบอน หรือ ปอล ดัชชี่ เกี่ยวกับกรณียังไม่ได้รับค่าตัวในการแสดง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้พบกับ“อั้ม” อธิชาติ จึงต้องถามไถ่ถึงว่าได้ทราบเรื่องที่เหล่านักแสดงแจ้งความแล้วหรือยัง 

"อั้ม"อธิชาติ          

         “น้องๆ ทุกคนเป็นน้องที่ทำงานด้วยกัน และสนิทกันอยู่แล้ว เขามาขอคำปรึกษา เราก็ให้ดูหลักฐานจริงๆที่เกิดขึ้น แล้วขั้นตอนจริงๆ มันคืออะไรบ้าง ก็ช่วยเหลือน้องๆ ทุกทางเท่าที่เราทำได้ ก่อนเข้าไปแจ้งความ ก็ไม่ได้บอกเราก่อน ผมไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรมาก เพราะเขามีส่วนที่ต้องทำในหน้าที่ของเขา ส่วนของผม ก็มีส่วนที่จะต้องทำในหน้าที่ของผมเหมือนกัน (ได้คุยกับบริษัทบลูริบบอนบ้างไหม) ไม่ได้คุยเลย อย่างที่ผมได้แถลงข่าวไปแล้วว่า เราได้ทำตามขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ใครจะทำตามขั้นตอนหรือไม่นั้น ผมว่าเราต้องไปหาข้อมูลกัน ในส่วนของบริษัทต่อบริษัทมีสิ่งที่ต้องดูแลจัดการก็ต้องจัดการกันไป ว่ากันไปตามหลักฐานและเอกสารต่างๆ ทางเราได้มอบหมายกับทางทนายความดูแลทุกอย่างทั้งเรื่องของเอกสารและรายละเอียดทั้งหมด (ส่วนตัวอยากไปแจ้งความด้วยไหม) อย่างที่บอกว่าขึ้นอยู่กับทางทนายความ จะดำเนินการขั้นตอนต่อไปอย่างไร ตอนนี้ผมไม่สามารถพูดอะไรได้เยอะมากนัก มันไม่ใช่สิ่งที่จะมาพูดกันลอยๆ ทุกอย่างต้องมีขั้นตอนของมัน ว่ากันไปตามเอกสารดีกว่า พูดกันไปกันมา ผมว่าก็ไม่ดีต่อใครทั้งนั้น ฉะนั้นให้เป็นไปตามขั้นตอน ที่ควรจะเป็นดีกว่า”อั้มบอก                    4  นักแสดงประกอบที่เข้าแจ้งความ 

         ถามว่าอย่างเรื่องเงินที่หลายคนมองว่ายังไม่ลงตัวสักที ในฐานะของการผู้จัดละคร หากมองถึงเรื่องเครดิตในการทำงาน ทำไมถึงไม่สำรองจ่ายไปก่อน 

             “ผมพูดจริงๆ ว่าบริษัทได้มีการสำรองจ่ายไปเยอะมากแล้ว เอาง่ายๆ บริษัทผมไม่ได้อยู่ในฐานะกำไร และเรามีภาวะที่เราทำทุกอย่าง ที่เราทำได้จริงๆ อะไรที่เราทำไม่ได้ เราก็ทำไม่ได้จริงๆ บางสิ่งบางอย่าง หน้าที่ใครก็ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง (นักแสดงที่ไปแจ้งความ เข้าไปคุยกับอีกฝ่ายก็บอกว่าทางอั้ม ยังไม่ได้จ่ายเงินเขา) นักแสดงมีต้นสังกัด เมื่อภาระหน้าที่ของบริษัทที่ต้องจ่ายค่าตัวนักแสดง เราต้องจ่ายกับบริษัทอยู่แล้ว บริษัทที่มีหน้าที่ในการจัดหานักแสดง ก็ต้องมีหน้าที่ในการสื่อสารกับนักแสดง ส่วนที่เราทำได้ก็ช่วยเหลือน้องๆ ในทุกทาง แต่ไม่ได้ช่วยเหลือในฐานะบริษัท เราช่วยเหลือในฐานะที่ทำงานด้วยกันมา ขอให้ทำความเข้าใจนิดหนึ่ง ว่าเราไม่ได้อยู่นิ่งเลย การสำรองจ่ายไม่ใช่ว่าไม่ทำ ทำเยอะมากให้กับนักแสดง อะไรที่เกิดปัญหา แล้วเรารับผิดชอบได้เราทำทุกอย่างจริงๆ ผมมองว่าคำถามนี้ อย่าถามผมเลย ตอนนี้เหมือนผมพูดอยู่ฝ่ายเดียว (ถ้าน้องๆ ต้องการให้อั้มเป็นพยานพร้อมให้ความช่วยเหลือไหม) อย่างที่บอกอะไรที่เราช่วยกันได้ผมก็ยินดี”อั้มกล่าว 

         นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากจะให้อีกฝ่ายทำอะไรไหม เพื่อเรื่องจะได้จบลง “ตอนนี้เป็นเรื่องของขั้นตอนแล้ว ผมเองก็มีบริษัทที่ต้องรับผิดชอบ ตอนนี้มีฝ่ายกฏหมายมาดูแล เราไม่อยากให้ใครเสียหาย หรือแม้แต่เราเองจะต้องมีเรื่องราวเสียหายจากใครเหมือนกัน ถามว่าเรื่องของการพูดคุย มันจำเป็นไหมผมว่า ณ ตอนนี้ ผมยังตอบไม่ได้(เครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากน้อยขนาดไหน)ค่อนข้างไม่สบายใจ เราคนทำงาน เราทำงานอยู่หน้าเซท ทุกคนก็รู้ว่ามันเหนื่อยยากมากขนาดไหน ผมเชื่อว่าผมทำงานทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด งานเซท การเตรียมงานทั้งหมด แล้วทีมงานล่ะ เขาต้องเหนื่อยกว่าแค่ไหน เราไม่อยากให้ใครเกิดผลกระทบอยู่แล้ว”อั้มตอบ 

         ถามว่า สรุป "อั้ม" จ่ายเงินทีมงานหมดแล้วหรือยัง "ทีมงานทุกคนไม่ได้มีอะไรติดค้าง ในข่าวที่เขียนว่า ทีมงานหรือนักแสดงคนอื่นๆที่ไม่มีสังกัดยังไม่ได้เงินนี่ก็ไม่จริงเลย การทำงานเราจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เราก็คุยกับทีมงานทุกคนถึงเรื่องนี้อยู่ ทุกคนก็ไม่มีปัญหาอะไร"

         ถามว่าแค่ตอนแรกผลกระทบก็เกิดขึ้นขนาดนี้แล้วอีก2ซีซั่นจะไปต่อ ด้านผู้จัดเผยว่า “ในการทำเรื่องต่อๆไป ตัวเราเองพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดอยู่แล้ว เรื่องที่เหลือ เรามีการส่งเรื่อง ส่งบทไป มีการปรับแก้กันอยู่ตลอด เพื่อให้ได้เรื่องไปตามเป้าหมายที่ทางช่องต้องการ แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว ผมเชื่อว่าทุกๆอย่างมันก็ส่งผลกระทบได้ทั้งนั้น ตอนนี้ผมเลยไม่สามารถจะตอบอะไรได้ ก็แล้วแต่ทางช่องพิจารณาผมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ถามว่าผมวางแผนต่อไปอย่างไร จะเป็นผู้จัดต่อไหม ผมเองทำงานอยู่หลายอย่าง ผมมีธุรกิจส่วนตัวหลายอย่างในด้านอื่นๆ แต่เรื่องของการทำงานละคร  ส่วนงานละครผมจะหยุดไหม มันก็เป็นงานที่ผมรัก ผมเองก็มีไอเดียอื่นๆอีกที่เพิ่ม ผมก็อยากจะทำความฝันของผมต่อไปเรื่อยๆ ถามมาเสียความรู้สึกไหม กับสิ่งที่ตั้งใจทำแล้วเกิดปัญหา ผมไม่ได้เฟล ผมคิดว่าทุกอย่างมันย่อมมีอุปสรรค มีปัญหาของมันแค่นั้นเอง เพียงแต่ว่าใครจะเจอปัญหาหนักเบามากน้อยแค่ไหน แต่เราคิดว่าปัญหามันก็ให้ประสบการณ์ที่ทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น สิ่งที่เราได้มามันคือการเรียนรู้ คือประสบการณ์ ผมได้อะไรเพิ่มเติมมากขึ้น (ยืนยันจะเป็นผู้จัดต่อไปเรื่อยๆ) จริงๆแล้วมันก็คืองานบันเทิง ผมเองอาจจะไปทำอะไรที่มันเกี่ยวกับบันเทิงก็ได้ ไม่เฉพาะในประเทศก็ได้”อั้มกล่าวสรุป