บันเทิง

คอลัมน์ Eat Play Life อาทิตย์ 28 ส.ค

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

Lidodvd ยังร้อนแรง เดินหน้าจัดหนังมอบเงินให้เด็ก

โดย นันทขว้าง สิรสุนทร

 

            อย่างไม่ได้จัดสร้าง และโดยไม่ได้เจตนา

            ปี 1998 เมื่อ “ครูใหญ่” ของนักวิจารณ์คือ อ.กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน คุยกับผมที่ศาลาเฉลิมกรุงว่า ต้องการบริจาค DVD หนังให้กับเด็กๆเพื่อการเรียนรู้ในสถานศึกษา เราสองคนก็เลือกซื้อ After Life ของ ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ หลายๆแผ่น

            ตกถึงปี 2004 พอเนชั่นในปีนั้น จะจัดหนังการกุศลให้คนตาบอดกับ “สหมงคลฟิล์ม” เราก็เลือก Nobody Know จัดฉายที่ CTW และเมื่อสองปีที่แล้ว ผมอยากหาเงินสัก 50,000 บาท มอบให้สมาคมคนพิการทางสายตา โดยร่วมกับคณะวิศวะ จุฬาฯ พอทราบข่าว ผู้กำกับนังญี่ปุ่นท่านนี้ ก็น่ารัก อบอุ่น ด้วยการส่งสิ่งของที่เกี่ยวกับ Like Father, Like Son (ผ่านมาทางสหฯ) พร้อมลายเซ็น มาให้ผมจัดประมูลในเฟสบุ๊ค ร่วมกับ DVD หนังหายาก ซึ่งทำให้เราได้เงินถึง 150,000 บาท และมอบทุกบาททุกสตางค์ให้สมาคมฯ ในวันงานไปเรียบร้อย

            มาถึงห้วงยามนี้ เมื่อคนข่าวเนชั่นอยากหาเงินมอบรายได้ให้กับกลุ่ม “เด็กดาวน์ซินโดรม” ในโรงเรียนนายาย จังหวัดจันทบุรี ผมจึงไม่ลังเลที่จะเป็นตัวแทนเสนอหนังเรื่องใหม่ที่ยังไม่ฉายในไทย (แต่ไปประกวดที่เทสกาลหนังเมืองคานส์ล่าสุด) อย่าง After The Storm ของ โคเรเอดะ อีกคราหนึ่ง

          งานหนังการกุศลครั้งนี้ จัดโดย Lidodvd ร่วมกับมูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ และ The Little Big Film Project รวมทั้งคนข่าว “เนชั่นทีวี” (กนก รัตน์วงศ์สกุล, ธีระ ธัญญะไพบูลย์, นันทขว้าง สิรสุนทร) ซึ่งจะขึ้นเวทีเสวนาก่อนหนังฉาย (รายละเอียดต่างๆ อ่านได้ท้ายบทความ) จุดเด่นซึ่งเป็น “จุดร่วม” มาตลอดในหนังทุกเรื่องของ โคเรเอดะ ก็คือ เขามักถ่ายทอดเรื่องราวและ “น้ำเสียง” ของหนังออกมาอย่างราบรื่นและสะเทือนใจ โดยมักทิ้ง “คำถามสำคัญ” ผ่านความสัมพันธ์ของตัวละคร

          โคเรเอดะ ไม่ได้ชอบความหมายของ “น้ำ” แบบ ไฉ่ หมิง เหลียง ของไต้หวัน, ไม่ได้บ้าถ่าย “ขา” ตัวละครอย่าง เควนติน ตารันติโน ...เขาชอบบอกเล่าคนดู ด้วย sound ของหนัง บรรยากาศ อารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งมาจากเสียงของชุมชน เสียงของเมือง เสียงในบ้าน ที่สะท้อนแง่มุมเรื่องราวของหนัง จนผมรู้สึกว่า เวลาดูหนังของเขา เหมือนตัวเองเดินเล่นอยู่ในสวน ไม่เหมือนหนังของหลายคนที่เหมือนจอแจอยู่ในห้าง

            หลายครั้งในหนังหลายเรื่องของเขา มีการแทรกวางอย่างนุ่มนวล ถึงสิ่งที่กระทบต่อกัน ส่งผลต่อกันเป็นฉากหลัง เช่นเมืองกับชนบท, ท้องทะเลกับชายฝั่ง, รถไฟกับชุมชน ฯลฯ พ้นจากนี้ ถ้าดูหนังของเขามาหลายๆเรื่อง จะเห็นว่าเขาพยายาม “หลีกเลี่ยง” ที่จะไม่นำพางานไปอยู่ในอารมณ์บีบเค้น ฟูมฟาย ร้องห่มร้องไห้ ทั้งที่โดยพล็อตและเรื่องเอื้อเต็มที่ ให้ทำแบบนั้น ...

            แม้จะยังไม่ได้ดู After The Storm งานเรื่องล่าสุดของ โคเรเอดะ แต่ถ้า “ประเมิน” เอาจากหนัง 7 เรื่องของเขาที่ผมได้ดู ความสัมพันธ์ของตัวละครยังคงน่าจะเป็น “พระเอก” และอารมณ์อบอุ่น ซาบซึ้ง คงอบอวล (มิใช่โชยกลิ่น) ในหนัง

            ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อเรื่อง After The Storm ก็แทนค่าทุกเรื่องราวชองหนังหลายเรื่องอยู่แล้ว ที่มักอยู่ในโทน... หลังมรสุม “ผ่านพ้น”

            ในฐานะผู้ร่วมจัดงานหนังครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณผู้บริหารหลายองค์กร ที่นอกจากจะซื้อบัตรแล้ว ยังช่วยบริจาคเงินให้โรงเรียนนายาย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารช้าง, เคแบงค์, แบงค์ชาติ, 99 FM. ค่ายหนังต่างๆ และทางมูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ รวมทั้งคุณถิรชัย วุฒิธรรม ประธานสมาคมกลุ่มช่วยเหลือนักกีฬาไทย (ซึ่งก่อนหนังฉาย เราจะมอบเงินทุกบาทให้กับทางโรงเรียน “โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่าย”)

            งานครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่เล็กมาก เมื่อเทียบกับงานอื่นๆในสังคม แต่จากการที่หลายคนมีน้ำใจเข้ามา ทำให้ผมคิดถึงประโยคหนึ่งในหนังของเขา

            “ท่ามกลาง ความอิดโรยของเมือง ...เรี่ยวแรงของชุมชน คือการกอบกู้บางอย่าง ไม่ให้ล้มลง...”

            ถ้อยคำนี้ ไม่ว่าใครกล่าว (“พี่สาวคนโต” ใน Our Little Sister หรือ “คุณพ่อ” ใน Like Father, Like Son) ความหมายช่างแข็งแรง และแสดงตัว

            เพราะ After The Storm ทีไร.. “ครอบครัว” ก็ยังคงอยู่ เสมอมา.

 

หมายเหตุ : ผู้สนใจซื้อตั๋ว สามารถซื้อตั๋วได้ที่ร้าน Lidodvd ใต้โรงหนังลิโด้หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 095-541-7156 (ไลน์ : Lidodvd) ทุกที่นั่งราคา 300 บาท หนังฉายรอบ 10.30 น. ที่เมเจอร์ พารากอน งานเสวนาของคนข่าวเนชั่นทีวีเริ่ม 10.00 น.

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ