เปิดตัว ‘หนุ่มโสดไฮโซ' ที่ ‘ผู้หญิง’ ต้องแย่ง!!

        "The bachelor“ มาจากรายการเรียลลิตี้ ระดับท็อป 10 ของอเมริกา เผยแพร่ทางช่อง ABC (Free Network) มาถึง 20 ปี ก่อนถูกนำไปผลิตอีกกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ก่อนจะมาถึง ”The bachelor Thailand ศึกรัก...สละโสด" ครั้งแรกในเอเชีย กับเรียลิตี้ตามหารักแท้ ของหนุ่มหล่อ โปรไฟล์ดีกับ “ปั้น” ชิตณรงค์ วิเศษสมภาคย์ วิศวกรมาดเข้ม มีเสน่ห์ ที่จะต้องมาให้ผู้หญิงกว่า 22 คน ต่อสู้แย่งชิง เพื่อกุมหัวใจหนุ่มโสดคนนี้ ที่แน่ๆ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีอะไรน่าสนใจ ถึงทำให้ผู้หญิงต้องเปิดศึก!! วันนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” จะมาล้วงลึก เบื้องหลังการฟาดฟันกันในรายการ พร้อมเปิดเผยตัวตนของหนุ่มโสดชื่อ “ปั้น”  

ปั้น - ชิตณรงค์

        เข้ามาเป็นหนุ่มโสดคนแรกของรายการได้อย่างไร

        ด้วยความโชคดีหลายๆ อย่าง ก่อนหน้านี้ผมเคยประกวด คลีโอ ปี 2015 ซึ่งเราเป็นตัวเล็กๆ อยู่ในนั้น ไม่มีใครรู้จัก เพราะเราเข้าไปในโหมดของวิศวกร ไม่ได้เข้าไปในโหมดของ ดารา หรือ พิธีกร นายแบบ เหมือนคนอื่น ทำให้ไม่มีใครรู้จัก แต่พอมาปีนี้ พี่ต้นซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ เขากำลังหาหนุ่มโสด แต่บังเอิญเขาไปรู้จักกับพี่เอ๋ (สุพิชา สอนดำริห์) ซึ่งเป็นบก.นิตยสารคลีโอ เขาแนะนำเราเข้ามา ความจริงมีการแนะนำหลายคน เลยทำให้ผมได้เข้ามาคุยกับพี่ต้น และเขารู้สึกชอบ และโอเคกับผม ทำให้ผมได้ไปคุยกับทางแกรมมี่ต่อ ตอนนั้นตัวผมไม่ได้มีความมั่นใจเลยนะ ก่อนที่ผมจะได้เข้ามาคุยกับพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรววรณ) จนสุดท้ายถึงสรุปว่ากลายเป็นเรา

        เคยคิดว่า “เรียลิตี้” ต้อง “เซ็ต”  

        ผมเคยดูรายการนี้ของเมืองนอก เมื่อก่อนช่อง “ทรู” เอาเข้ามา แต่ผมดูผ่านๆ เราไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชาย เราเลยไม่ได้ดูจริงจัง และผมไม่คิดว่าจะได้เป็นผู้ชายคนนั้น ผมเคยคิดว่ามันต้องเซ็ตทุกอย่างแหละ รายการแบบนี้น่าจะเซ็ต เคยดู “เดอะเฟซ ไทยแลนด์” ก็คิดว่ารายการแบบนี้ น่าจะเซ็ต แต่พอเราได้เข้ามาอยู่ตรงนี้จริงๆ โอ้โห! มันจริง มันเครียดทุกอย่าง เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้นจริงๆ

ผู้หญิงทั้ง 22 คน ที่จะมาเปิดศึกกัน

        ตกหลุมรักผู้หญิง 22 คน พร้อมกันจริงหรือไม่   

        อ๋อ ไม่ (หัวเราะ) คือเหมือนคนคิดว่ารายการ “ศึกรัก...สละโสด” จะให้ผู้หญิงต้องมาตีกัน ด้วยเรื่องผู้ชายเหรอ แต่เปล่าเลย เหมือนเป็นรายการที่ผมเข้าไปแล้ว เดทกับผู้หญิงทั้ง 22 คน พร้อมกันมากกว่า แต่ผมต้องเปิดใจ ไปคุยกับทุกคนว่าเราคลิก หรือโอเคกับคนไหน เราก็พัฒนากับคนนั้นต่อ

        เตรียมตัวโดยใช้ความเป็นตัวเอง

        ผมเครียดมาก ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายเพอร์เฟกท์ ที่จะสามารถเข้ามาอยู่ โดยให้ผู้หญิงทั้ง 22 คนเลือกเราเลยเหรอ ผมบอกพี่ต้น (โปรดิวเซอร์) เลยว่า พี่ถ้าผมยื่นดอกกุหลาบไป แล้วเขาไม่เอา ผมตายเลยนะ ซึ่งการเตรียมตัวของผม คือการไม่ได้เตรียมตัวเลย ผมเป็นตัวของตัวเอง รายการนี้ตอนที่เข้ามา ผมไม่ได้บอกใครเลย ค่อนข้างจะเป็นความลับ มีบอกครอบครัว 1 เดือน ก่อนที่จะมาถ่าย ครอบครัวผมก็ตื่นเต้น แซวว่าจะมีลูกสะใภ้แล้วเหรอ (หัวเราะ)

ภาพจากรายการ ”The bachelor Thailand ศึกรัก...สละโสด"

        เดทกับผู้หญิง 22 คน แล้วรู้สึกว่าเป็นยังไง

        ก็ดีนะ มันทำให้เราได้รู้จักกับผู้หญิงหลายแบบมากขึ้น แต่ละคนมีความหลายหลากไม่เหมือนกันเลย ซึ่งตอนแรกผมเครียดมากว่า เราจะคุยกับคนนี้แบบไหน กับคนนั้นยังไง เครียดมาก แต่พอได้ไปเดท ทำให้เราได้รู้อะไรหลายอย่าง ผู้หญิงบางคนดูแข็งกระด้าง ปิดกั้นตัวเอง ดูแมน ห้าวๆ แต่คือบางครั้งเรามองเขาจากภายนอก ดูเขาเป็นผู้หญิงแรง แต่พอเราได้คุย ได้รู้จัก ได้ทำอะไรร่วมกับเขาขึ้นมาจริงๆ ทุกอย่างมันคนละแบบเลย รายการนี้สอนให้ผมรู้ว่า บางครั้งเราไม่ควรตัดสินใครก่อน โดยที่เราดูแค่ภายนอก แล้วไม่ได้ไปทำความรู้จักกับเขาจริงๆ 

        ตั้งรับโซเชียล นี่หรือ “ผู้ชาย” ที่ “ผู้หญิง” ต้องแย่ง!!

        (หัวเราะ) ผมไม่ได้รู้สึกว่า ผมเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟกท์ขนาดนั้นอยู่แล้ว ผมคงทำตัวปกติทั่วไปแบบนี้แหละ เวลาเราอยู่ข้างนอกผมก็เป็นแบบนี้ แค่อยากให้เขารู้จักเรามากขึ้น พร้อมรับคำตัดสิน และคำติชมทุกอย่าง แล้วเดี๋ยวนี้โซเชียลแรง และเร็วมาก แต่ผมก็โอเคนะ เพราะนี่เป็นรายการแรก ผมได้มาอยู่ตรงนี้ครั้งแรก ค่อนข้างจะเปิดใจ และรับฟังความคิดเห็นทุกอย่าง และถ้าอะไรที่คิดว่าไม่ดีจริงๆ เราคงจะพัฒนาในส่วนตรงนั้น

 

        รายการเซ็ตแค่ "เสื้อสูท" นอกนั้นคือ "ตัวตน"

        ในรายการด้วยลุค เป็น bachelor ต้องใส่สูทผูกไทด์ มีแค่ตรงนี้แหละ แต่ส่วนที่เป็นวันกิจกรรม คือตัวของผมเองทั้งหมด มีแค่สูท และเสื้อผ้าที่รายการเซ็ตให้เรา ทุกอย่างในรายการเป็นเรื่องจริง ก่อนหน้านี้ ที่เราฟัง เราได้ดู เดอะเฟซ ไทยแลนด์ หรือรายการเรียลิตี้ต่างๆ มามากมาย เราคิดนะว่า มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอ มันต้องเซ็ตแหละ แต่พอเราได้มาอยู่ มันมีเหตุการณ์มาเซอร์ไพรส์เราตลอดเวลา เป็นความรู้สึีกที่พาเราไป อยู่ดีๆ มันก็เกิดขึ้นเอง ไม่ได้เป็นความตั้งใจหรือเซ็ตขึ้นมา

        ผู้หญิงไทย” ต้องแรงเบอร์นี้

        ถ้าเราดูจากของเมืองนอก เราต้องคิดว่า bachelor แรงแน่นอน พอเข้ามาตอนแรกผมคิดว่าจะแรง แต่พอได้ทำจริงๆ ไม่ได้แรงขนาดนั้น อยู่ในเกณฑ์ดูน่ารักกุ๊กกิ๊ก ถามว่าทุกอย่างถ่ายจบไปหมดหรือยัง ยังนะ เหลืออีก 3 ตอน ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายที่ผมต้องเลือก

        รู้สึกยังไงที่ “ผู้หญิง” ต้องเดินเข้ามาให้ “ปั้น” เลือก

        ไม่เชิงว่าเราเลือกเขาอย่างเดียวนะ เราเป็นคนเข้าไปหาเขามากกว่าด้วยซ้ำ ถามว่าแต่สุดท้ายเราต้องเลือกเขา ก็ใช่ เราเลยต้องเข้าไปเปิดใจให้เขาก่อนไง เพื่อให้รู้จักกับเขามากขึ้น

ภาพจากรายการ ”The bachelor Thailand ศึกรัก...สละโสด"

        ใช้ทีมงาน 200 คน ในการถ่าย

        ตอนเข้ามา ผมถามว่า ใช้ทีมงานกี่คน พอเขาบอกว่า 200 คน ผมตกใจมากเลย เพราะผมเป็นตัวเมนคนเดียว ที่ต้องรับผิดชอบทีมงานกว่า 200 คน ผมกดดัน และเครียดมาก แรกๆ ผมไม่ชิินมาก ที่เวลาเราทำอะไรแล้วมีทีมงานมาตามตลอดเวลา เวลาผมถ่ายอยู่ก็มีกล้องวิ่งตาม 5 ตัว แต่ใน 1 จุด กล้องจะจับหลายคนเหมือนกัน

        เป็น "ผู้ชาย ที่ "ผู้ชาย" อิจฉา

        ผมค่อนข้างจะมั่นใจ ว่าผู้ชายที่ดูต้องอิจฉาผม แต่พอได้เข้ามาอยู่จริงๆ มันเครียดมากเลย เพราะเราต้องทำความรู้จักกับผู้หญิง 22 คน พร้อมกัน และต้องจำรายละเอียดว่า เราคุยกับเขาไปถึงไหนแล้ว เรารู้จักเขาไปแค่ไหนแล้ว เราต้องจูนหาเขาด้วย ผมไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลเลย ผมต้องพยายามทำตัวให้เข้ากับเขาด้วย เหมือนเราต้องเรียนรู้ และเปิดใจคุยกับคนๆ หนึ่ง ว่าเราจะเข้ากับเขาได้มั้ย     

ปั้น - ชิตณงค์ 

        ความรู้สึกจริง หรือแค่แสดง

        ตอนแรกๆ ผมรู้สึกนะว่า ผู้หญิงแต่ละคน บางคนเป็นนักแสดง บางคนเป็นพิธีกร แล้วผมเป็นแค่วิศวกร ที่ต้องมารับมือกับผู้หญิงแบบนี้ ช่วงแรกๆ ผมรู้สึกนะว่า ทำไมเขาต้องแสดงเบอร์นั้น ทำไมต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้ แต่คือหลังๆ พอเราได้ทำอะไรด้วยกัน ได้ผูกพันกันจริงๆ ผมค่อนข้างจะเชื่อกับความรู้สึกตรงนั้นนะ ถามว่าผมทันกับมารยาผู้หญิงมั้ย ผมคิดว่าตัวเองทันนะ (ยิ้ม) แต่จะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด ผมจะสังเกตุและเก็บอารมณ์ ตามดูเขาไปเรื่อยๆ มากกว่า

        เรื่องจริงหรือแค่เกม

        ความจริงมันเป็นเรียลิตี้นะ ผมค่อนข้างจะเปิดใจ ถ้าได้แฟนในนี้จริงๆ ก็ดี แต่ผมไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ถามว่าตอนที่รายการติดต่อเข้ามา ผมคิดจะมาหาแฟนเลยนะ (ยิ้ม) เพราะผมทำงานเป็นวิศวกร ผมไม่ค่อยได้เจอใคร แล้วพอผมได้เข้ามาทำงานจริงๆ ทำให้เรามีโอกาสรู้จักกับผู้หญิง 22 คน พร้อมกัน เราลองเปิดใจ ถ้าเราเจอก็ดี แต่ถ้าไม่เจอก็ถือว่าเป็นโอกาสหนึ่งที่เราได้เข้ามาตรงนี้

        คิดว่าได้เจอ “ตัวจริง” ในรายการไหม 

        ตอนนี้โอเคในระดับหนึ่ง มีคนที่รู้สึกสปาร์ก แต่ทุกอย่างมันต้องพัฒนาต่อ ถ้าจบรายการอาจจะพัฒนาหรือไม่พัฒนา แต่มีสิทธิ์ที่จะพัฒนาต่อทุกคน ตัวผมเองบางทียังคิดว่าเราเลือกพลาดหรือเปล่า เพราะเรายังไม่ได้รู้จักอย่างเต็มที่

        ตัวจริง “ขี้อาย” ไม่ได้ “เจ้าชู้”

        ตัวผมเองจริงๆ เป็นผู้ชายขี้อายนะ เพราะเรียนโรงเรียนชายล้วนมาก่อน จะไม่ค่อยกล้าคุยกับผู้หญิง ไม่ได้เจ้าชู้เลย ผมคบใคร ผมคบทีละคุย ตั้งแต่เริ่มคุย ผมก็คุยทีละคนแล้ว

        “หนุ่มโสด” ขี้อาย แต่มีเสน่ห์ คนนี้ โดนใจบ้างมั้ยล่ะ  

 

ครอบครัว "วิเศษสมภาคย์"

 

 

ครอบครัว "วิเศษสมภาคย์"