ร้อยรักถักทอผ่าน‘โบว์-มะลิ’ทุกวินาทีแม่คือผู้เสียสละ(ชมคลิป)

    วันแม่ปีนี้ หากไม่พูดถึงคู่แม่ลูกสุดฮอตอย่าง “โบว์” แวนดา สหวงษ์ และ “น้องมะลิ” พาขวัญ ลูกสาววัย 2 ขวบ 8 เดือน ของ “ปอ” ทฤษฎี คงไม่ได้เสียแล้ว เพราะความรักระหว่าง “โบว์-มะลิ” ทำให้หลายคนเห็นว่าแม่ลูกคู่นี้ช่างน่ารักเสียเหลือเกิน วันนี้ บันเทิง “คม ชัด ลึก” ขอคว้าตัวคุณแม่คนสวยมานั่งพูดคุยถึงการเลี้ยงดูน้องมะลิ ที่ตอนนี้กลายเป็นขวัญใจของมหาชนไปเรียบร้อยแล้ว รวมถึงขอล้วงลึกถึงชีวิตของโบว์กับวันนี้ที่กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว พร้อมกับมีหัวใจที่แข็งแกร่ง ว่าแล้วไปสัมผัสตัวตนของเธอกันเลย...

 

    *** กับคำว่า “แม่”
    ความหมายของคำว่า “แม่” ของโบว์ คืออะไร
    ความเสียสละ คำเดียวเลย ความเสียสละในทุกเรื่อง ก่อนที่เราจะเป็นแม่ เวลาเราเห็นอะไรเราก็จะนึกถึงตัวเราก่อนเราอยากได้โน่นได้นี่ เราก็จะนึกถึงตัวเราก่อน แต่พอวันหนึ่งเรามีลูก ความรู้สึกตรงนั้นจะไม่มีแล้ว เพราะเรานึกถึงลูกก่อน จะซื้ออะไรก็คิดแหละ เอ...จำเป็นมั้ย ถ้าไม่จำเป็นก็เก็บไว้ก่อนให้ลูกก่อน

    การเป็น “แม่โบว์” แม่ของ “น้องมะลิ” ยากไหม
    ไม่ยาก โบว์อยู่ยังไงก็ได้ ให้เรามีความสุข ไม่จำกัดว่าชีวิตเราต้องทำอย่างนี้นะ ถึงจะมีความสุขใช้ความรู้สึกข้างในออกมาในการเลี้ยงลูก แล้วก็ต้องดูลูกด้วยว่า ลูกเราชอบแบบไหน สิ่งหนึ่งที่จะสานความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกได้คือกิจกรรมในทุกๆ อย่างที่ลูกทำ อย่ามองว่าเป็นเรื่องไร้สาระหรือว่ารำคาญ อะไรที่ลูกอยากจะทำ จะวาดรูปหรือเอาปากกามาวาดตามตัวเราก็ให้เขาวาด เพราะเป็นการเรียนรู้ด้วย แต่ก็เป็นความสุขที่เราให้โดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เลอะเดี๋ยวก็ลบได้ ไม่เป็นไร

  

    การเลี้ยง “มะลิ” ในแบบฉบับของ “แม่โบว์”
    เลี้ยงครบรสเลย ทุกรสเลย ตีคือตีนะ แต่ไม่ตีพร่ำเพรื่อ เรื่องดุเราดุอยู่แล้ว อะไรที่ทำไม่ดีก็จะดุ อะไรที่ทำแล้วเป็นความก้าวร้าวก็จะดุเลย อย่างดุแล้ว เอาจริงแล้วก็ยังทำอีก ไปตีผู้ใหญ่หรือว่าเล่นหัวผู้ใหญ่ โอเคเด็กอาจจะไม่รู้เรื่องหรอก แต่เมื่อเราบอกว่าไม่ได้ แล้วเขาก็ยังทำอีก เราก็จะเอามือนั่นแหละมาตี แล้วโบว์ตีหนัก ทีเดียวจบ เขาจะรู้แล้วว่าเขาทำผิด โบว์ก็จะไม่ง้อ สักพักโบว์จะทำหน้านิ่งๆ เขาก็เรียกแม่โบว์ๆ เราก็จะนิ่งจนกว่าเขาจะเข้ามาขอโทษ หลังจากนั้นก็ไม่ทำอีก เรียกว่าโบว์ไม่ตามใจเลย เป็นนโยบายของพี่ปอด้วย
    วันนี้ไม่มี “ปอ” ทำให้การเลี้ยง “มะลิ” ยากหรือหนักหนาสาหัสไหมสำหรับโบว์
    ไม่หนัก ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ในส่วนที่ต้องเพิ่มเข้ามาอยู่ในเรื่องของการทำหน้าที่แทนพี่ปอ อันไหนที่พี่ปอเคยทำก็ต้องเรียนรู้และทำให้ได้ เมื่อก่อนพี่ปอทำโน่นทำนี่ให้ในฐานะหน้าที่ผู้ชาย เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำมัน เพื่อจะทำแทนพี่ปอด้วย จะทำทุกอย่างให้มะลิรู้สึกว่าไม่ได้ขาดพี่ปอ พี่ปอก็ยังอยู่กับเขาตลอดเวลา แค่ตอนนี้เราไม่เห็นพี่ปอเป็นรูปธรรม แต่อยากให้ลูกรู้สึกว่ามะลิได้อยู่กับพ่อเขา

    กับคำว่า “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว”
    เราไม่เคยคิดว่ามันจะเป็น และไม่เคยคิดว่าจะเร็วขนาดนี้ แต่ก็จะทำหน้าที่แทนพี่ปอให้ดีที่สุด คือโบว์รักพี่ปอมาก และสิ่งหนึ่ง ณ วันนี้วันที่พี่ปอไม่อยู่ สิ่งที่จะทำได้ ก็คือทำหน้าที่แทนพี่ปอ เมื่อเราทำแล้วลูกรู้สึกว่าไม่ขาดอะไร ลูกก็รู้สึกว่าพี่ปอยังอยู่ หมายความว่าพี่ปอก็มีความสุขเช่นกัน

  

    เป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน
    ถามว่ายากมั้ย ไม่ยากหรอก แต่ความรู้สึกของโบว์กลัวมากกว่า กลัวว่าเราจะทำไม่ได้ เมื่อก่อนกลัวหมดทุกอย่าง กลัวว่าจะทำไม่ได้ กลัวจะอยู่ไม่ได้ กลัวว่าจะเลี้ยงลูกเองได้เหรอ กลัวว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้เราจะผ่านไปได้เหรอ ในวันที่ไม่มีพี่ปอ เพราะเมื่อก่อนมีพี่ปอก็จะชิล ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ปอก็ทำให้ แต่ ณ วันนี้ เราอยู่บ้านกันแค่สองคน ท้ายที่สุดแล้วพอเราต้องทำ พอเราทำได้ เราเลยรู้สึกว่า เฮ้ย... เราก็ทำได้นี่นา
    การเป็นคุณแม่ลูก 2 ที่ต้องดูแล “น้องออโต้” และ “น้องมะลิ” ต้องเข้มแข็งมากขึ้นไหม
    ถามว่าต้องเข้มแข็งมากขึ้นมั้ย ก็ต้องมีพลังมากขึ้น เข้มแข็งมากขึ้น แต่ก็ยังโชคดีที่น้องออโต้เป็นเด็กที่คุยรู้เรื่อง แล้วก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าลูกไม่เรียกร้องอะไร แล้วโบว์จะปล่อยนะ โบว์ใส่ใจในรายละเอียดของลูกหมด อย่างออโต้อยู่กับคุณตาคุณยาย เราจะถามว่ามาอยู่กับแม่ไหม เขาก็บอกว่าไม่ ขออยู่กับตายายจะดูแลตากะยาย คือเขาอยู่ตรงนั้นมานาน มาก่อนหน้านี้ ช่วงที่โบว์ทำงาน ทุกวันนี้ก็มีความรักกันมากขึ้นด้วย พี่ปอก็อยู่กับน้องออโต้ เราอยู่กันมีความสุขมากช่วงที่พี่ปอเขาอยู่
    ได้รางวัลคุณแม่ดีเด่นเยอะเลย
    ที่ได้รับรางวัลจริงๆ เป็นเพราะพี่ปอกับมะลิเลย คือพลังความรัก ที่เขาส่งมาให้พี่ปอ ตั้งแต่ผลงานพี่ปอออกมาไป จนถึงวันที่พี่ปอป่วย แล้วจนถึงวันที่พี่ปอหมดลมหายใจ หลังจากนั้นก็จะเป็นพลังความรัก ที่ส่งต่อไปยังมะลิคือลูกของพี่ปอ แล้วด้วยสองพลัง ทั้งพี่ปอและมะลิหลอมรวมกันจนส่งผลให้โบว์ได้รางวัลมากกว่า

 

    *** ความฮอตของ “น้องมะลิ”
    “มะลิ” กลายเป็นขวัญใจของมหาชน ในฐานะคนเป็นแม่รู้สึกอย่างไรบ้าง
    ดีใจนะ ต้องขอบคุณทุกพลังใจเลย ณ วันนี้ในความรัก ที่มีต่อมะลิก็ต้องบอกตรงๆ ว่ามาจากพี่ปอหมด เป็นเพราะว่าสิ่งที่พี่ปอเคยทำ แล้วก็มีพลังใจส่งให้พี่ปอจนกลายมาวันหนึ่งมีมะลิ ทุกคนรู้ว่ามะลิคือลูกพี่ปอ ก็จะเป็นความรักที่ส่งต่อมาถึงมะลิ มีความเอ็นดูกับน้อง ขอบคุณจริงๆ ดีใจที่อยู่เคียงข้างกันจนถึงวันนี้ ตั้งแต่วันแรกที่ป่วยจนถึงวันนี้ก็ยังเหนียวแน่น พลังความรักมันเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
    คนรัก “มะลิ” และ “แม่โบว์” และเฝ้ารอดู ทำให้หลายคนคาดหวัง โบว์รู้สึกกดดันบ้างไหม
    ถามว่ากดดันไหม กดดันหลายเรื่อง เรื่องแรกในความกดดันส่วนตัว คือเรื่องนิสัยของมะลิ เวลาน้องเจอพี่จ๋าที่รักเขา เอาของเล่นให้และก็ตามใจ เราเลยมีความห่วง ไม่อยากให้ลูกเรามีความรู้สึกพิเศษกว่าคนอื่น ไม่อยากให้เขาคิดว่าเขามีสิทธิพิเศษคนอื่น เหนือกว่าคนอื่น สิ่งนี้โบว์ไม่อยากได้ พี่ปอก็ไม่อยากได้ แล้วก็ไม่อยากให้ลูกเอาแต่ใจตัวเอง ไม่อยากให้รู้สึกว่าของที่ได้มาง่ายๆ แล้วตัวเองก็มีเยอะ ก็จะเป็นคนทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่รักของ ทุกวันนี้ก็พยายามสอนเขา ให้เขาเล่นทีละอย่าง เล่นจนกว่าจะเบื่อ

 

    *** บททดสอบหลังจากเข้าสู่วงการ
    ที่ผ่านมาเจอประเด็นดราม่าแรงๆ อย่างที่บอกว่าเอามะลิออกงานเยอะเกินไปไหม ในฐานะคนเป็นแม่รู้สึกยังไง
รู้สึกนะ อย่างที่บอกว่า คนเราคิดได้หมด โบว์ห้ามความคิดใครไม่ได้ แต่ในส่วนความคิดของโบว์ วิธีในการรับงานของโบว์ก็มี ก็จะคุยกับเจ้าของงานว่ามะลิแบบนี้ๆ บังคับไม่ได้นะ ถ้าเขารับได้เราก็รับ ถ้าเขาบอกว่าต้องอยู่บริเวณนี้ไปไหนไม่ได้เราก็ไม่รับ เราเอาอิสระลูกไว้ก่อน โบว์อยากจะบอกไว้อย่างหนึ่งว่าโอกาสของคนเรามีได้ไม่มาก บางคนไขว่คว้าทั้งชีวิตก็ยังไม่ได้ ณ วันนี้มีโอกาสดีๆ ให้ลูกก็จะรับโอกาสที่ดี และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะว่าโอกาสวันนี้มันก็คืออนาคตของมะลิในวันข้างหน้า ทุกสิ่งทุกอย่าง งานที่มะลิทำ ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนหรืออะไรก็ตาม จะเก็บให้มะลิ ในส่วนของงานที่ลูกได้ทำ เราก็จะบอกเขาว่าเป็นสิ่งที่หนูได้ทำมานะ แล้วอนาคตเราก็ต้องเรียนรู้ให้เขาใช้ถูกวิธีและประหยัด
    มีช่วงท้อแอบร้องไห้คนเดียวบ้างไหม
    มีอยู่แล้ว วงการบันเทิงโบว์ไม่เคยได้สัมผัส แล้วอยู่ๆ วันหนึ่ง แค่ข้ามคืน แล้วกลายเป็นว่าสิ่งที่เราเคยเห็นพี่ปอ กลับกลายเป็นว่าวันนี้เราต้องเป็นพี่ปอแทนเอง ก็มีหลายด้านความคิดของคนเรา บางทีเราเจอข้อความที่หนักๆ เราก็รู้สึกท้อว่าเฮ้ย...ทำไมเราต้องเจอ เมื่อก่อนถ้าเจอ ก็จะบอกพี่ปอ พี่ปอก็จะให้กำลังใจ ก็หาย แต่ ณ วันนี้ที่เราเจอ กลับบ้านไปเราไม่เจอใคร เจอแต่รูปพี่ปอ ก็จะเล่าให้รูปพี่ปอฟัง คุยกับเขา ก็ร้องไห้ โบว์จะเป็นคนหากร้องก็ร้องเลย ร้องให้พอแล้วก็หยุด และก็ไม่ร้องแล้ว ก็พยายามทำตามที่พี่ปอบอก เราต้องรับให้ได้ ข้อความไหน ที่ให้กำลังใจมันก็เสริมพลังกำลังให้เรา แต่ข้อความไหนที่เขาด่าเรา ด่าหยาบๆ คายๆ ก็ปล่อยทิ้งซะ ข้อความไหนให้คำติชมเรา ให้คำแนะนำเราในการดำเนินชีวิต เราต้องอ่าน แล้วเอากลับมาใช้ในการดำเนินชีวิตของเรา ก็ต้องขอบคุณคำติชม ทำให้การดำเนินชีวิตดีขึ้นในทุกๆ วัน

   

    เคยคิดไหมว่าจะมีวันนี้ วันที่เข้ามาอยู่ในวงการ
    ไม่เคยคิด แต่อย่างที่บอกว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้น คือโอกาสที่ดีที่พี่ปอเคยทำไว้ ก็เลยส่งผลให้โบว์กับมะลิ เพราะฉะนั้นโอกาสไม่ได้มีให้บ่อย หรือบางคนไม่มีเลยด้วยซ้ำ ณ วันนี้ ถ้ามีแล้วก็รับโอกาสนั้นไว้ และทำให้ดีที่สุด ถามว่ายากสำหรับโบว์มั้ย อย่างที่บอกว่า เมื่อก่อนกลัวไปทุกอย่าง แต่พอได้ทำแล้ว เราก็ทำได้ ได้ดีในระดับหนึ่งในความเป็นเรา ก็สร้างความเข้มแข็งให้เราในทุกๆ วันที่เราเจอมา
    *** อนาคตของ “น้องมะลิ”
    อะไรที่ “ปอ” เคยพูดเคยบอกไว้สำหรับเรื่อง “มะลิ” โบว์ต้องสานต่ออะไรบ้าง
    คือพี่ปอใช้ชีวิตเรียบง่าย สิ่งหนึ่งที่พี่ปอพูด เลี้ยงลูกยังไงก็ได้โบว์ ให้ลูกมีความสุข ให้เขาอยู่กับเราแล้วมีความสุข ไม่ได้อยู่กับเรารู้สึกอึดอัด ทุกครั้งที่มีปัญหา เขาต้องวิ่งหาเราก่อน ก่อนที่จะวิ่งไปหาเพื่อน วิ่งมาบอกเราว่าแม่แบบนี้ พ่อเป็นแบบนี้ หรือจะทำแบบนี้ดีไหม
    วางแผนอนาคตให้มะลิไว้อย่างไร
    ไม่ได้บังคับเขาเลย เราต้องดูว่าเขาชอบอะไร อยากเป็นอะไร มะลิน่าจะเป็นเต้นกับร้องเพลง (หัวเราะ) เขาจะมีความสุขมากกับการเต้นร้องเพลงบางคนบอกว่าเอ๊ะ...เอะอะ ให้ลูกเต้น โบว์ไม่เคยบังคับลูกให้เต้นนะ บางทีไปไหน พี่จ๋าเปิดเพลง เขาก็จะเต้นของเขา ไม่มีเด็กคนไหนที่เต้นไป ร้องไห้ไป ความรู้สึกมันมาจากข้างในของเขาอยู่แล้ว เขามีความสุขเขาก็เต้นไปตามจินตนาการของเขา

  

    แสดงว่าตอนท้องมะลิทั้งโบว์และปออารมณ์ดีมากๆ ทำให้มะลิกลายเป็นเด็กอารมณ์ดีชอบเต้น
    ตอนท้องฟังเพลงทุกวัน พี่ปอให้ฟังสามช่า โมสาร์ทไม่เคยได้ฟัง โบว์เคยซื้อมาเพื่อให้ลูกจะได้อารมณ์เย็นๆ แต่พอซื้อมาปุ๊บพี่ปอเก็บใส่ถุงเลย แล้วบอกว่าไม่ได้ ลูกต้องฟังสามช่า คือเทคนิคของแต่ละคนพี่ปอเขาก็จะไม่เหมือนใคร โบว์ท้องเขาก็ให้เต้น เต้นกับเขา เขาบอกว่าโบว์ไม่เต้นแล้วลูกจะเต้นได้ยังไง นี่ก็เลยเป็นที่มาชอบเต้นมั้ง
    อยากฝากอะไรเป็นกำลังใจให้คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวบ้าง
    เป็นกำลังใจนะ ให้คุณแม่ทุกท่าน ปัญหาของคุณแม่แต่ละท่านแตกต่างกันไป บางคนอาจจะหนักหนากว่าโบว์อีก แล้วก็มีความเข้มแข็งมากกว่าโบว์อีก เพราะว่าทุกคนมองในมุมเดียวกันก็คือลูก ลูกคือสิ่งเดียวที่สามารถส่งพลังส่งแรงใจ แล้วก็แปรเปลี่ยนความกลัวให้เป็นความกล้ากับคุณแม่ทุกท่าน ได้มีกำลังใจและเข้มแข็งในการใช้ชีวิตของทุกๆ วัน มุมที่เศร้าท้อแท้หดหู่เหลือเกิน พยายามผ่านมันไปให้ได้ เมื่อมันผ่านมาแล้ว เราจะมีพลังและกำลังใจในทุกๆ วัน
    นี่แหละคุณแม่หัวใจแข็งเกร่ง “โบว์” แวนดา

  

เพ็ญนภา ดำเล็ก / เรื่อง
วริศรา วุฒิกุล / ภาพ