"ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน” เพลงดังสะท้านวงการของหนุ่มอีสาน ก้อง ห้วยไร่ ที่แต่งเองร้องเอง ซึ่ง ณ.เวลานี้ ยอดวิวของเพลงนี้เข้าหลัก 100 ล้านวิว ไปเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะยอดวิวที่ 100ล้านเท่านั้น ความรวยของหนุ่มอีสานอินดี้คนนี้ ก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ชีวิตความรวยของก้องวันนี้ เป็นอย่างไร วันนี้หน้าบันเทิง นสพ.คมชัดลึก จะรายงานให้ฟังจากปากของเขากันเลย
“สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้หลังชื่อเสียงเรามี คือความเป็นอยู่เป็นกินของตัวเราเอง และครอบครัวมันเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมากๆ จากคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไปไหนมาไหนไม่มีคนให้ความสนใจทุกวันกลายเป็นสิ่งที่เราสร้างเราทำมันเป็นเรื่องดี ตรงไหนที่เราผิดพลาด เราก็มานั่งทบทวนตัวเองว่าเรามาอยู่ในจุดที่มันสว่างขึ้น ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆสังคมก็เห็นง่าย”
เมื่อถามถึงวิถีชีวิตตอนนี้เปลี่ยนจากเดิมมากน้อยแค่ไหน หนุ่มอีสานอินดี้บอกด้วยความซื่อว่า
“วิถีชีวิตเราไปในทางบวก แต่กลับกัน มันก็มีแรงเสียดทานจากสิ่งแวดล้อมเข้ามาเยอะกว่าเดิม เราอาจจะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมง่ายขึ้น ในส่วนครอบครัว สิ่งที่เราคิดอยากจะทำตั้งแต่เด็กๆวันนี้เราได้ทำหมดแล้ว เช่นเราอยากมีบ้าน เราก็สร้างใกล้เสร็จแล้วที่ จ.สกลนคร เป็นบ้านในฝันชั้นเดียว มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการอยากได้มาตั้งแต่เด็ก อยากมีแอร์ อยากมีห้องดูหนัง อยากมีระเบียงที่ไว้นั่งคุยกันในครอบครัว อยากมีสระนำ้ ที่มีปลาอยู่ในบ้าน ตอนนี้เราก็ทำได้ ผมออกแบบเองทั้งหมดพ่อเป็นคนทำ ส่วนพี่น้องตอนนี้พี่สาวกับพี่เขยก็มาอยู่กับผม มาดูเรื่องเสื้อผ้าอาหารการกินให้เรา เวลาเราเหนื่อยๆส่วนพี่คนโตก็ดูแลพ่อแม่ แต่ก็ยังทำนาเหมือนเดิม”ก้องแจกแจง
ครอบครัวของ ก้อง ห้วยไร่
บ้านที่นักร้องหนุ่มกำลังสร้างให้ครอบครัว
เมื่อถามถึงทรัพย์สมบัติหรือความรวยตอนนี้รวยแค่ไหนเจ้าตัวหัวเราะก่อนบอกแบบตรงๆว่า
“ทรัพย์สมบัติที่ซื้อตอนนี้มีที่เยอะมากทั้งที่นา ที่จะมาทำเกษตรกรรมเช่นมะนาว ผมมองอนาคตข้างหน้าว่าเราไม่มีทางที่จะร้องเพลงได้ตลอดชีวิตอยู่แล้ว ตอนนี้มีที่ประมาณ100ไร่ซื้อไปเรื่อยๆเงินเก็บก็มีอยู่จำนวนหนึ่ง ถามว่าเยอะไหม เยอะ เพราะผมทำงานหนัก มีรถบีเอ็มที่เราอยากได้ตั้งแต่สมัยเด็ก ตอนนั้นมีจักรยาน BMX ก็หรูแล้ว คิดไว้ถ้าโตขึ้นเรามีเงินเราจะซื้อBMWขี่ ตอนนี้ได้ขี่มันแล้ว”
รถ BMW คู่ใจ ของ "ก้อง ห้วยไร่"
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องงานคอนเสิร์ตว่ามีมากแค่ไหนและราคาเท่าไหร่ต่องานก้องบอกว่า
"เป็นคนแรกที่กล้าถามผมเรื่องนี้ และผมตอบให้รู้เป็นคนแรกเลยล่ะกันว่า งานร้องเพลงเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 40 งาน ราคาต่องานแล้วแต่ ไปคนเดียวก็ไม่แพง 4-5หมื่น ถ้าไปเต็มวงใกล้ไกลก็เกือบๆแสนบ้าง ไม่ได้มีงานร้องเพลงอย่างเดียว มีงานละครงานที่รับเล่น ตอนหนึ่งก็หลายหมื่นตอนนี้มี 2 เรื่องคือ นางฟ้าอสูร อีกเรื่องเป็นหนังบู๊รอบวงสรวงอยู่(หัวเราะ)งานโฆษณา ตอนนี้ก็ 2-3 ตัว มีเอไอเอสปูนตาเสือ ส่วนอีกตัวรอถ่ายอยู่ และก็มีงานอีเว้นท์ต่างๆ ตอนนี้ผมอยากทำเพลงไปเรื่อยๆ เพื่อให้คนเห็นว่า เรายังเป็นนักร้องลูกทุ่งอยู่ แต่การที่เราแยกไปทำงานละครโฆษณา หรืองานอื่นๆเหมือนเราต่อยอดงานให้มันเยอะขึ้น เพื่อจะได้ดูแลครอบครัว เพราะเราเป็นครอบครัวใหญ่ แต่ก็มีการแพลนทำไร่ทำนาไว้ เพื่อรองรับชีวิตในช่วงที่เราไม่ได้รับความนิยมเรื่องร้องเพลงแล้ว ก็จะกลับไปอยู่บ้านเหมือนเดิมเตรียมแผนไว้เนิ่นๆ
วันนี้ผมว่าผมเป็นคนโชดดีคนหนึ่งที่มีงานที่มั่นคง ก้องห้วยไร่ยังไม่รวยแต่มั่นคง สังคมอาจมองว่าอาชีพนักร้องไม่ใช่อาชีพที่มั่นคง แต่สำหรับผมมันเป็นอาชีพที่ผมรัก มันมั่นคง ดังไหมไม่ดังแต่คนรู้จักเยอะรวยไหม ไม่รวย เพราะสิ่งเหล่านี้สังคมมองเรา แต่ตัวเราก็อย่าไปเชื่อสิ่งที่สังคมบอกถ้าเราเชื่อเราจะหลงกับมัน ถ้าสังคมโยนสิ่งเหล่านี้มาให้ แต่เราไม่รับเราก็จะเป็นคนเดิม"ก้องกล่าว
ถามต่อว่า กดดันกับการทำเพลงใหม่แค่ไหน เพราะคนมักจะพูดว่าเพลงต่อไปอาจจะไม่ดังแบบนี้แล้ว
“ไม่กดดันเลย เรารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นอะไร เราทำงานไม่ต่างจากคนทำงานคนอื่นๆ ที่มีขึ้นมีลง อย่าไปคิดหรือสร้างความกดดันให้ตัวเอง ผมก็เป็นกำลังใจให้กับพี่น้องที่กำลังสร้างสรรค์งานเพลงสร้างงานศิลปะ เป็นกำลังใจให้กับสังคมทุกส่วนทุกอาชีพ"นักร้องคนดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง