บันเทิง

'เก้า'ฉุนอดีตผจก.เสี้ยมแม่ลูกแตกคอ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'เก้า' จิรายุ ควง 'แม่ก้อย' วรนุช ละอองมณี แถลงข่าวถูกอดีตผู้จัดส่วนตัวอ้างเป็นพี่สาวเสี้ยม 'แม่-ลูก' แตกคอ หลอกร่วมทำธุรกิจ รับเรื่องแดงหลังตรวจสอบสูญเงินล้าน

 
                    หลังจากที่พระเอก “เก้า” จิรายุ ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงว่าอดีตผู้จัดการส่วนตัวที่เคยรับงานต่างๆ ให้เก้านั้นได้พ้นสภาพจากสถานะการดูแลนักแสดงหนุ่ม และให้ติดต่องานโดยตรงกับแม่ โดยเรื่องดังกล่าวมีมูลออกมาว่าเก้าและแม่ถูกอดีตผู้จัดการรายนี้หลอกให้ร่วมทำธุรกิจร่วมทุนทำเสื้อผ้าจนแม่ก้อยสูญเงินหลักล้าน อีกทั้งมีการพูดให้แม่และลูกเกิดความเข้าใจผิดจนไม่คุยกันระยะหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดหนุ่มเก้า และแม่ก้อย ได้ควงกันออกมาแถลงข่าวร่วมกัน
 
                    “ครั้งแรกที่รู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง เขามาจ้างงานอีเว้นท์สำหรับแบรนด์ของเขา เหมือนเขาเป็นเจ้าของแบรนด์ เมื่อประมาณ3ปีที่แล้ว จนสนิทกันมาเรื่อยๆ เขาชวนแม่ทำธุกิจ แต่เขามีอะไรที่ทำให้เราเอะใจ คือเขาบอกว่าแม่พูดแบบนี้ แต่เรารู้สึกว่ามันจริงเหรอ จนตอนหลังผมไม่คุยกับแม่เลย จนตอนหลังผมถึงมีโอกาสได้เคลียร์กับแม่ ในความรู้สึกของผมคือผมกลายเป็นมีปัญหากับแม่ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตอนยังไม่ทราบเรื่องผมไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนไม่ดี แต่มีผู้ใหญ่มาบอก ทำให้ผมเริ่มรู้และเปิดใจคุยกับแม่ สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือตั้งแต่ผมทำงานกับผู้หญิงคนนี้ เขาบอกผมว่าให้แนะนำคนอื่นว่าเขาเป็นพี่สาวผมเพื่อจะได้สะดวกในการทำงาน ซึ่งตอนนั้นผมก็เชื่อ เพราะคิดว่าไม่เสียหายอะไร แต่ตอนนั้นผมอยากจะบอกว่า ผมเป็นลูกคนเดียว และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาทางสายเลือด เขาพ้นสภาพจากการเป็นผู้จัดการของผม ถ้ามีการติดต่องานกับคนนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับแม่และผมอีก และเรื่องนี้ทำให้ผมเรียนรู้ว่าแม่หวังดีกับผม ผมคิดว่าคนทำดีก็จะได้แต่สิ่งดีๆ ทำไม่ได้ก็ได้สิ่งไม่ดี” เก้ากล่าว
 
 
\'เก้า\'ฉุนอดีตผจก.เสี้ยมแม่ลูกแตกคอ
 
 
                    ด้าน “แม่ก้อย” วรนุช กล่าวว่า ปัญหาเกิดจากความไว้ใจทางอดีตผู้จัดการได้ชวนทำธุรกิจซึ่งช่วงเวลานั้นลูกชายกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยจึงเสนอว่า สนใจทำธุรกิจกับเขามั้ย ซึ่งช่วงนั้นคิดว่าลูกชายทำงานในวงการมานานแล้ว ถ้ามีธุรกิจมาซัพพอร์ตคงจะเป็นการวางแผนชีวิตลูกได้ดีขึ้น
 
                    "คือพอทำมาสักระยะเขาเริ่มบอกว่าธุรกิจมีปัญหาซึ่งเราเชื่อใจ เขาบอกว่าธุรกิจของเขาที่ทำมาก่อนหน้านี้ถูกคนที่ทำด้วยโกงเราก็เชื่อ เพราะเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง แต่พอวันหนึ่งเขาบอกว่าธุรกิจมีปัญหา แต่ไม่ได้ล้ม บริษัทแม่โดนตรวจสอบเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากของเขา ซึ่งเราก็เชื่อ จนผ่านมาเรื่อยๆ เราก็รอเงิน แต่ยังไม่ได้ จนมาถึงช่วงที่เขาเข้ามาดูแลเก้า เพราะเป็นจังหวะที่เรามีข่าวออกมาว่าเราเรื่องมาก เขาก็จับจุดนี้มาบอกเราว่า ถ้าเรายังดูคิวเก้าอยู่ อาจจะมีปัญหานะ เก้าจะไม่มีงาน นอกจากนี้เขาจะมีหลอกเอาเงินไปยิบย่อย เช่นเขาบอกว่า เขาป่วยเป็นโรค SLE ต้องซื้อยาจากเมืองนอก ใช้เงินทีละหลายแสนบาท เงินส่วนที่เขาเอาไปส่วนแรกคือเงินจากธุรกิจ แต่ส่วนที่สองคือมาบอกว่า ไม่ได้พูดว่าขอยืม แต่พูดว่าตัวเองกำลังจะตาย เราก็เชื่อและให้เงินเขาไป รวมๆ เป็นเงิน7หลัก แต่เรามาจับได้ เพราะเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราถามเขาว่าสมุดบัญชีที่ค้างไว้ได้หรือยัง เขาบอกเรามาว่ารอยาวๆ ไปเลยแม่ เราก็อึ้งนะ และเอะใจเพราะมีผู้ใหญ่หลายท่านมาเตือน และพูดอะไรหลายอย่างให้ฟังมีผู้ใหญ่เอาหลักฐานต่างๆ มาให้ดู เรายอมจำนนโดยหลักฐาน ถึงเชื่อ เพราะเขามีทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งคิดตัวอยู่ ซึ่งตอนแรกแม่คิดแล้วว่าจะต้องทำยังไงก็ได้ให้เก้าเชื่อก่อน เลยให้ผู้ใหญ่เรียกเก้าไปคุย เพราะช่วงหลังเก้าสนิทกับเขามาก ตอนนั้นสิ่งที่คิดมีอยู่คำเดียวเลย คือเราไว้ใจเขา การหลอกของเขาคือ สมมุติบอกเราว่าต้องใช้เงิน 1.5 ล้าน แต่จริงๆ ใช้แสนเดียว นี่คือแม่ยกตัวอย่างให้ฟังนะ” แม่ก้อยกล่าว
 
                    ทางด้าน ว่าที่รต.มงคลวิจิตร์ ธนะโสภณ ทนายส่วนตัวของแม่ก้อย และเก้า กล่าวว่า มีการไปลงบันทึกประจำวันไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรอให้อดีตผู้จัดการมาเอาทรัพย์สินส่วนตัวในออฟฟิศที่ทิ้งเอาไว้กลับไป และมาชี้แจงเรื่องราวต่างๆ ซึ่งหากไม่มาชี้แจง จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งทางแพ่ง และอาญาต่อไป รวมถึงทราบว่ามีผู้ร่วมมือกับทางอดีตผู้จัดการด้วยอีก 2-3 คน
 
 
 
 
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ