บันเทิง

‘หญิงแย้’รับหย่า‘หมอสอง’จริงทัศนคติไม่ตรง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“หญิงแย้” สะอื้นไห้เปิดใจหมดเปลือกเหตุเตียงหัก มุมมอง-ไลฟ์สไตล์ต่างกัน แม้จะปรับเปลี่ยนตัวเองเยอะแล้วก็ตามแต่ก็ยังถูกกล่าวหาสำมะเลเทเมา

           ชัดเจนว่าเป็นอดีตไปแล้ว สำหรับความรักของพริตตี้และพิธีกรสาวคนดัง “หญิงแย้” น.ส.นนทพร ธีระวัฒนสุข กับ “หมอสอง” นพ.นพรัตน์ รัตนวราห ศัลยแพทย์คนดังของประเทศไทย หลังจากทั้งคู่โพสต์ตอบโต้โดยมีนัยของความระหองระแหงกันทั้งที่เพิ่งเข้าพิธีสมรสกันไปเมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นหญิงแย้ยอมรับถึงรักล่มดังกล่าว ก่อนที่จะแถลงแบบหมดเปลือก

           เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 พฤษภาคม น.ส.นนทพร พิธีกรสาวและบล็อกเกอร์ชื่อดังแถลงเปิดใจต่อสื่อมวลชนในเรื่องข้อเท็จจริงของกระแสข่าวเรื่องการหย่า บริเวณร้านสเปกบาร์ เอกมัย โดยเจ้าตัวมีสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อยก่อนเล่าข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้แยกกันอยู่มาเป็นระยะเวลาหนึ่งจริง สาเหตุมาจากทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ที่ไม่ตรงกัน ตลอด 9 ปีที่ผ่านมามีการเรียนรู้กันและกันมาตลอด แต่ก็ยังไม่ลงตัวสำหรับชีวิตคู่สามีภรรยา

           “ต้องยอมรับว่าตลอดเวลา 9 ปี แย้ค่อนข้างจะปรับเปลี่ยนตัวเองเยอะมากๆ ในตอนต้นที่เป็นแฟนกันใหม่ๆ เพราะแย้รักเขามากแล้วเราก็ยังเป็นเด็ก แย้เชื่อฟังเขาทุกอย่าง เคารพเขาทุกอย่าง สิ่งที่เขาสั่งสอนแย้ทำตามหมด ซึ่งความจริงแย้ก็ไม่ใช่คนเชื่อฟังคนอื่นได้ขนาดนั้น ตอนที่เรามีปั๊ปปี้เลิฟก็จะเป็นผู้นำคอยสั่งแฟนเราให้ทำโน่นทำนี่ แต่พอคบเขาแย้เปลี่ยนเยอะมากจากคนชี้นิ้วสั่งมาเป็นนอบน้อมเชื่อฟังหมด เพราะเข้ามีวุฒิภาวะมากกว่าเราเยอะมาก ชีวิตคู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองต้องมีความอดทน แย้ยอมเปลี่ยนเพราะแย้รักเขา แย้อยากทำให้เขามีความสุข แล้วคิดว่าความรักจะทำให้ก้าวผ่านอุปสรรคที่เราเป็นอยู่นี้ก็คือความไม่เป็นตัวของตัวเองไปได้ แต่สุดท้ายเหมือนกับเราต้องถอยออกมา เพราะสิ่งที่แย้อดทนมาและมีจุดแตกหักบางอย่างด้วยที่ทำให้แย้ต้องเลิกกับเขา นี่คือสาเหตุหลัก" น.ส.นนทพร กล่าวเสียงเศร้า

           หญิงแย้ชี้แจงถึงเรื่องที่บอกว่าเธอติดสังสรรค์ว่า ตอนนี้ทุกคนมองแย้เป็นผู้หญิงรักปาร์ตี้ ที่จริงแล้วการปาร์ตี้ของแย้มันไม่ใช่ทุกวันทั้งวัน แย้มีเวลาเลิกปาร์ตี้ของแย้ เป็นสิ่งที่คุณหมอสอนมาตลอดเป็นกฎอยู่แล้วว่าแย้ต้องกลับบ้าน 4 ทุ่มครึ่ง และยังปฏิบัติมาตลอด เพื่อนแย้ทุกคนจะรู้ว่าเวลานี้เรากลับแล้ว แต่ถ้างานไหนอยู่เลย 4 ทุ่มครึ่งคุณหมอจะมาอยู่กับแย้ตลอด แล้วแย้ทำธุรกิจอาหาร เครื่องสำอาง บริษัทโฆษณา เราไม่สามารถจะทำงานพวกนี้อยู่ที่บ้านได้
           
           "แย้ต้องออกมาดูร้าน พบลูกค้า งานโฆษณาต้องเริ่มประชุมประมาณ 2-3 ทุ่ม เป็นเวลาที่ลูกค้าสะดวก เราต้องตามใจ แต่แย้ก็ไม่เคยกลับบ้านหลัง 4 ทุ่มครึ่งเลย จนทุกวันนี้ วันที่ไม่มีคุณหมอแล้ว แย้ก็ยังเชื่อฟังเขาในสิ่งที่เขาปูทางไว้ให้เรา” น.ส.นนทพรกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ

           ส่วนจุดแตกหักของการตัดสินใจครั้งนี้ หญิงแย้เผยเหตุการณ์ว่า ได้ไปรับประทานอาหารกับเพื่อนย่านทองหล่อ แล้วอยากไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ต่อ เพราะไม่ได้เที่ยวมานานแล้ว เลยโทรขอคุณหมอว่าอยากไปนะ จะตามมาไหม แต่คุณหมอไม่รับสายเลยแย้พยายามโทรตลอด ให้เพื่อนๆ ช่วยโทรด้วยก็ไม่รับสาย เราเลยฝากข้อความในไลน์ไว้ว่าจะไปเที่ยวต่อนะ ยังไงตามมา

           “ถึงเที่ยงคืนคุณหมอโทรมาถามเราอยู่ไหน แล้วเขาก็ว่าแย้ว่าทำไมไม่กลับบ้านแต่งงานแล้วทำไมยังเที่ยว ยังสำมะเลเทเมา ไม่ปาร์ตี้สักวันได้ไหม แย้ก็ยอมรับว่าเราก็อยากไปเที่ยวจริงๆ เราโทรหาแล้ว ไลน์ไปก็แล้ว 3-4 ชั่วโมง หายไปไหนมา คุณหมอก็ไม่ได้ตอบคำถามตรงนี้ แย้ก็ได้แต่ฟังเขา กลับบ้านเขาก็ว่าเราเหมือนเดิม เป็นอะไรที่เราอึดอัด นึกไม่ถึงว่าที่เราสั่งสมมานานทั้งเรื่องการเปลี่ยนตัวเองจะไม่ไหวแล้ว ณ จุดนั้น แย้เลยถอดแหวนแต่งงานแล้ววางไว้ที่หน้าเขา แล้วแย้ก็ไปเก็บของใช้สำคัญเท่าที่เก็บมาได้ ก่อนออกจากห้องแย้บอกเขาว่าแย้คงไม่ดีพอสำหรับตัวเองหรอก" หญิงแย้ระบุพร้อมทั้งร่ำไห้

           เธอยังเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญต่อไปอีกว่า คุณหมอไม่ได้พูดไม่ได้ห้ามอะไรอาจจะคิดว่าเดี๋ยวเราก็กลับมา เพราะที่ผ่านมาเราฟังเขามาตลอด แล้วจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน จนวันเกิดแย้วันที่ 20 เมษายน เป็นวันเกิดที่เศร้ามาก คือคิดว่าต้องมีเซอร์ไพรส์หรือเปล่า เราหายไปจากเขาตั้ง 4 วัน ไม่ได้บล็อกไลน์ บล็อกโทรศัพท์เลย พร้อมที่จะให้เขาง้อ ให้เขาติดต่อมา ถามว่า 4 วันเป็นไงเครียดมากค่ะ ทำไม... เขาไม่ห่วงเราเลยเหรอ ไม่ติดต่อมาเลย

           "คืนที่แย้ขับรถออกไปดึกๆ เขาไม่เป็นห่วงเราหรือ เขาก็รู้ว่าแย้ไปอยู่ออฟฟิศ เป็นที่นอนอีกที่ของแย้ เขาก็ไม่ติดต่อมาเลย วันเกิดเราก็มีความหวังนะว่าเขาจะติดต่อมา แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเลย จากที่ผ่านมาทุกวันเกิดมีเขาอยู่ด้วยตลอด 9 ปี” หญิงแย้เล่าทั้งน้ำตา

           ผู้สื่อข่าวถามถึงหลังจากมีกระแสข่าวได้ติดต่อกันหรือไม่ หญิงแย้บอกว่า หลังจากวันเกิดได้ตัดสินใจว่าจะออกจากชีวิตคุณหมอ เพราะเห็นแล้วว่าชีวิตคู่ควรมีการเป็นห่วงกันมากกว่านี้ ซึ่งก็ได้บอกกับครอบครัวตัวเอง และลบคุณหมอออกจากกรุ๊ปไลน์ครอบครัว หลังจากลบคุณหมอได้ขอพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ทำความเข้าใจกับครอบครัวให้จากกันด้วยดี ไม่มีการดิสเครดิตกัน แล้วเขาก็โทรมาง้อเรา ซึ่งตอนนั้นแย้ตัดสินใจถอยมาแล้วก็เลยปฏิเสธจะไม่คืนดี ขอจบตรงนี้

           “หนึ่งวันก่อนที่คุณหมอจะปล่อยคลิปขอแต่งงาน แย้ได้ขอเลิกกับคุณหมอไปค่ะ เราบอกว่าไม่พร้อม ยังไม่อยากแต่งเลย คุณหมอก็พยายามอธิบายว่าเราถึงเวลาต้องมีครอบครัวกันแล้ว แต่แย้ก็ยังยืนยันว่าเราไม่พร้อมตอนนี้ แต่วันรุ่งขึ้นเขาก็ปล่อยคลิปขอแต่งงานเราเลย ทุกอย่างก็เลยเป็นไปตามนั้น" เธอเล่าถึงวันชื่นคืนสุขจนทำไปสู่วันลั่นระฆังวิวาห์

           ส่วนเรื่องสินสอดที่สื่อประโคมข่าวว่า 100 กว่าล้านนั้น น.ส.นนทพร ชี้แจงว่า ตอนนี้คนหาว่าแย้หน้าเงิน ได้สินสอดแล้วเลิกเลย จริงๆ ไม่ใช่นะคะ ใน 100 ล้านที่ข่าวลงมี 2 ส่วน โรงพยาบาลและเรือนหอ เป็นชื่อคุณหมอ ส่วนรถยนต์เป็นของคุณหมอทั้งหมด ส่วนสินสอด 30 ล้านนั้นต้องขอโทษด้วย เพราะเคยให้สัมภาษณ์ไปว่าทั้งหมด 30 ล้าน ความจริงแล้วแย้ไม่ได้อะไร มีแค่แหวนเพชรคืนไปแล้ว ต่างหูเพชรอยู่ที่บ้านคุณหมอ ตอนนี้มีแค่กำไลเพชรที่แย้ยังใส่อยู่

           "ที่เป็นข่าว 30 ล้านนั้น คุณหมอเป็นคนบอกว่าอยากให้ดูสมเกียรติ คุณพ่อคุณแม่ก็คืนสินสอดทั้งหมดไปหลังแต่งงานหมดแล้ว เพราะตอนนั้นเราไม่คิดมาก เราไม่รู้จะเอาสินสอดมาทำอะไร เพราะสุดท้ายแย้ก็ต้องอยู่กับคุณหมอตลอดอยู่ดี” น.ส.นนทพรระบุ

           เมื่อถามว่ามีเรื่องมือที่สามหรือไม่ หญิงแย้ปฏิเสธหนักแน่นว่า ไม่มีแน่นอนส่วนฝ่ายคุณหมอก็ไม่มีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยวข้องเช่นกัน แต่ก็ขอยอมรับว่าผิดเอง เพราะตัวเองก็มีข้อเสีย ทุกวันนี้เสียใจมาก เมื่อ 3 เดือนที่แล้วยังอยู่ด้วยกันเลย แต่ตอนนี้ต้องมายืนตรงนี้คนเดียว ขอรับความผิดไว้ทั้งหมดว่าเราไม่คู่ควร ไม่เหมาะสมกับคุณหมอ

           “ฝากถึงคุณหมอว่า ขอบคุณมาก ตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมา สั่งสอนแย้ให้เข้มแข็ง ให้ดูแลตัวเองได้ อยากให้คุณหมอเก็บแต่ความทรงจำดีๆ เรื่องราวดีๆ เพราะเราผ่านด้วยกันมาเยอะ และก็ไม่รู้ว่าทำไมสังคมถึงมองว่าแย้ไปเกาะคุณหมอ ทำไมต้องมองแย้อย่างนี้ด้วย แย้ว่าผู้หญิงก็มีความสามารถเลี้ยงตัวเองได้นะคะ ไม่อยากให้สังคมมองแย้แบบนั้น” หญิงแย้ฝากทิ้งท้าย

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบการแถลงข่าว น.ส.นนทพร ธีระวัฒนสุข ส่งยิ้มให้ก่อนเดินเข้าไปพักในห้องรับรองโดยมีเจ้าหน้าที่ประคองเข้าไป

           ขณะเดียวกัน ฝ่ายชายได้โพสต์ข้อความเปิดใจถึงความรู้สึกเป็นครั้งแรกผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เมื่อกลางดึก(9 พ.ค.)ที่ผ่านมา มีข้อความดังนี้ “หลังเสร็จจากผ่าตัดวันนี้ รู้สึกตกใจครับ ที่มีข่าวไม่ดีของผมกับแย้กระจายทั่วเน็ต ก่อนอื่นต้องขออภัยครับ ที่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง และต้องขอโทษพี่ๆ สื่อทุกท่านที่ผมไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เนื่องจากติดเคสผ่าตัดหลายเคสและไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ด้วยครับ แต่เมื่อได้อ่านย้อนหลังพบว่าแหล่งข่าวน่าจะมีความคลาดเคลื่อนพอสมควร รู้สึกตกใจมากครับ โดยเฉพาะประเด็นที่มีการบีบบังคับ”

           “ซึ่งความจริงแล้ว ชีวิตทั้งก่อนและหลังแต่งงาน สำหรับผมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังปฏิบัติต่อแย้ดีเหมือนเดิมทุกประการ ไม่ได้มีการบีบบังคับอะไร มีเพียงขอให้แย้อย่ากลับบ้านดึก สังสรรค์ให้ลดลงบ้าง อย่าโพสต์รูปที่ดูโป๊เกิน ซึ่งทั้งนี้ก็เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและสุขภาพของตัวแย้เอง แย้ไม่ต้องรับผิดชอบงานอะไรในบ้านเลย ผมภูมิใจที่เค้าทำงานนอกบ้าน และถึงแม้แย้จะไม่ค่อยได้ปฏิบัติตามที่ขอเท่าไร แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไรแย้เลย ค่อนข้างให้ความรัก และให้เกียรติและตามใจแย้มากด้วยครับ เชื่อว่าข่าวนี้ไม่ได้มาจากแย้โดยตรงเพราะแย้ย่อมทราบดีว่าความจริงคืออะไร”

           “ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ผมรู้สึกเสียใจมาก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามหาเหตุผลให้กับตัวเอง และพยายามติดต่อแย้และครอบครัว เพื่อมาปรับความเข้าใจกัน เพราะผมเชื่อว่า คนที่ครองรักกันต้องมีความรัก ความห่วงใยความใส่ใจ อดทนหนักแน่นและให้อภัยกัน ถึงแม้จะทำผิดอะไร หรือมีช่องว่างมากแค่ไหนก็ตาม ก็ควรพยายามมาลองปรับทัศนคติและปรับตัวเข้าหากันก่อนที่จะสรุปว่าไปกันไม่ได้ แต่ที่ผมทำได้คือ แค่ได้คุยโทรศัพท์สั้นๆ และไลน์บ้างเล็กน้อย และติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น”

           “มาถึงจุดนี้ผมรู้สึกเป็นห่วงแย้ เรื่องที่ให้สัมภาษณ์ เพราะในส่วนตัวยังรู้สึกดีและมีความผูกพันที่คบกันมาอย่างมีความสุขมาหลายปี เป็นห่วงในเรื่องที่การให้สัมภาษณ์ที่มันทำให้ภาพลักษณ์ของตัวแย้เองเสียหาย อยากให้เค้าใจเย็นๆและตั้งสติ ทุกปัญหามีทางแก้ครับ และขอร้องทุกท่านอย่าได้ว่าแย้เลยครับ ความคิดเห็นคนเราแตกต่างกันได้ครับ สำหรับเรื่องแถลงข่าวผมมองว่า เราควรทำก็ต่อเมื่อได้พูดคุยกันแล้วอย่างตกผลึก ว่าปัญหาเกิดจากอะไรและมันไม่สามารถไปกันได้แล้วจริงๆ แล้วค่อยไปแถลงข่าวให้ทุกท่านทราบพร้อมกัน น่าจะดีกว่าครับ ไม่อยากให้มันเป็นภาพสาดโคลนกันไปมาครับ”

           “ขอขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ทุกท่านและเพื่อนฝูงที่กรุณาโทรมาให้กำลังใจ และผู้ใหญ่หลายท่านอยากให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ ลองปรับความเข้าใจกันครับ ขอบคุณมากครับ”


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ