‘ต้าร์’ชมเปาะ‘ค่ายยูม่า’คิวเป๊ะ

 

          ห่างหายไปจากการแสดงละครมาพักใหญ่ สำหรับ “ต้าร์” นาวิน  เยาวพลกุล ซึ่งล่าสุดมีงานการแสดงกับทางช่อง 3 ในเรื่อง “ฝันรักฝันสลาย” ของค่ายยูม่า ดังนั้นเมื่อพบ “ต้าร์” ในงาน “Grand Opening Of iDDNA Clinic” จึงต้องถามไถ่ได้ความดังนี้ 

 

          “สำหรับละครเรื่อง “ฝันรักฝันสลาย” เป็นละครเรื่องแรกที่ผมได้ทำงานกับทางยูม่า และกับทางช่อง 3 ผมไปถ่ายคิวแรกมาแล้วด้วยนะ แค่ตอนนี้ยังไม่ได้บวงสรวงเปิดกล้องเท่านั้นเอง คิวแรกคนเยอะมาก เพราะว่าเป็นซีนใหญ่ เป็นซีนที่ผมต้องเข้าไปทลายแหล่งค้ามนุษย์ที่เป็นซ่อง ถามว่ามาทำงานกับทางยูม่าได้อย่างไร ก็คือเราคนทำงานในวงการเดียวกันนะ รู้จักกันอยู่แล้ว เท่าที่คุยกับทางอายุ (ยุวดี ไทยหิรัญ) คุยกับพี่คิง (สมจริง ศรีสุภาพ) ซึ่งทางพี่คิงรู้จักกับพี่ที่ดูแลเรื่องคิวงานละครของผม ซึ่งคนที่ดูแลคิวละครผม บอกกับทางพี่คิงไปว่า ผมอยากทำงานร่วมกับพี่คิงบ้าง แต่ว่าในส่วนของพี่คิงยังไม่มีเรื่องไหนเปิด และยังไม่มีบทบาทที่จะเหมาะกับผม พี่คิงเลยบอกไปทางอายุ เรื่องการทำงานด้านนี้ เป็นการบอกต่อๆ กันมากกว่า จริงๆ มีละครมาติดต่อผมเยอะมาก ด้วยเวลาที่ไม่มี และด้วยความเหมาะสมทุกๆ อย่างด้วยนะ มันอาจจะยังไม่ลงตัว แต่สุดท้ายก็มาลงตัวกับอายุนี่ล่ะ (อ่านบทแล้วถูกใจเลย) ผมรู้สึกว่าบทบาทมันเข้ากับตัวผมนะ อีกอย่างเราก็อยากเล่นบทแบบนี้ด้วย ถามว่าบู๊ขนาดไหน น่าจะบู๊ประมาณหนึ่งนะ อย่างแรกผมก็คงทำได้ไม่ดีเท่ากับสตั๊นท์นะ แต่ว่าในความเป็นจริงผมก็จะแอ็กชั่นเองให้มากที่สุดนะ เท่าที่จะทำได้ เพื่อความสมจริงด้วย” ต้าร์บอกอย่างอารมณ์ดี 

 

          ถามว่าในเรื่อง “ฝันรักฝันสลาย” ประกบคู่กับ “เฌอเบลล์” ลัลณ์ลลิน  เตจะสา เวศซ์ เคยร่วมงานกันมาก่อนไหม ต้าร์เผยว่า 

 

          “กับน้อง ผมเคยเจอกันมาบ้างนะ แต่ว่าในการร่วมงานถือว่าเป็นครั้งแรกนะ เข้าฉากกับน้องแล้วนะ อยู่ในช่วงของการปรับตัว จังหวะหรือว่าให้เข้าขากันต้องใช้เวลา แต่เท่าที่ผ่านมาในวันแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดีนะ แต่ก็มีติดๆ ขัดๆ อยู่บ้าง อีกสักพักก็น่าจะโอเค (กองยูม่าเป็นกองที่ใช้เวลาถ่ายทำรวดเร็ว) ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ แต่เท่าที่ดูเขาทำงานเป็นมืออาชีพมาก ทุกอย่างเป็นระบบเป๊ะๆ เลย ผมถือว่ามันเป็นประสบการณ์ใหม่ในการทำงานของเราด้วยนะ เพราะแต่ละทีมงานก็มีมาตรฐานแตกต่างกันออกไป ถามว่าปีนี้ผมจะลุยงานละครเต็มที่ไหม ก็ต้องบอกว่าตอนนี้มีเรื่องเดียว (ยิ้ม) แล้วก็มีหนังอีกหนึ่งเรื่อง คืออย่างที่บอกว่าผมมีงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ อย่างเช่นงานสอน และผมก็ยังมีกีฬาที่ผมเล่นอยู่ด้วย มันก็ต้องดูองค์ประกอบหลายๆ อย่างในการทำงานละคร” ต้าร์กล่าวปิดท้าย