ดาราเขมรต้านละครช่อง3ยุคเออีซี

             กลายเป็นประเด็นร้อนทันที หลังจากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เซ็นสัญญาเอ็มโอยูกับสถานีโทรทัศน์ช่องพีเอ็นเอ็น ประเทศกัมพูชา ร่วมกันผลิตรายการและมีโครงการนำละครไทยไปออกอากาศที่ประเทศกัมพูชา โดยมีละครลอตแรกที่ออกอากาศคือเรื่อง ธรณีนี่นี้ใครครอง, แรงเงา, ลมซ่อนรัก และแอบรักออนไลน์ สร้างกระแสไม่พอใจต่อดารา นักแสดง ของประเทศกัมพูชา ถึงขั้นเข้าร้องเรียนต่อรัฐบาลกัมพูชาว่า การนำละครจากต่างประเทศมาออกอากาศจะส่งผลกระทบต่อวงการละครของประเทศกัมพูชาจนอาจถึงขั้นเข้าสู่ยุคใบไม้ร่วง โดยเบื้องต้นมีข่าวออกมาแล้วว่า รัฐบาลกัมพูชามีคำสั่งห้ามละครต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงละครไทยออกอากาศช่วงเวลา 19.00-21.00 น.แล้ว

             ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างช่อง 3 กับสถานีพีเอ็นเอ็น ดำเนินไปได้ด้วยดี เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นายกิตติ สิงหาปัด ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของช่อง 3  ได้รายงานข่าวขณะที่อยู่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ถึงความร่วมมือของไทยทีวีสีช่อง 3 กับสถานีโทรทัศน์พีเอ็นเอ็น ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ทันสมัยที่สุดของกัมพูชา ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน นอกจากนี้คณะผู้บริหาร และทีมเจ้าหน้าที่สื่อมวลชน จากสถานีโทรทัศน์พีเอ็นเอ็น นำโดย Mr.Som Chhaya เคยเดินทางมาเยี่ยมชมกิจการของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยมีนายภูภูมิ พงษ์ภาณุ หรือ “เคน” พระเอกหนุ่มชื่อดังให้การต้อนรับ ที่อาคารมาลีนนท์ด้วย

             ผู้สื่อข่าว “คม ชัด ลึก” ได้สอบถามประเด็นนี้ไปยังนายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และได้รับคำชี้แจงเพียงสั้น ๆ ว่า เพิ่งทราบเรื่อง แต่ยังไม่รู้รายละเอียดมาก ถ้ามีข้อมูลชัดเจน จะชี้แจงให้ทราบ

             "ถามว่าผลกระทบมีไหม คงไม่กระทบหรอก เหมือนบ้านเราถ้าช่วงไพรม์ไทม์เอาละครต่างประเทศมาออกอากาศก็คงไม่แฮปปี้หรอก แต่เนื่องจากละครของเราได้รับความนิยมมากกว่า เขาก็อยากนำละครเราไป เรื่องรายละเอียดต่างๆ เดี๋ยวผมขอดูข้อมูลที่ชัดเจนก่อน จะแจ้งให้ทราบอีกที” นายสุรินทร์ แจกแจง

             ด้าน น.ส.ธิติมา สังขพิทักษ์ หรือ “แหม่ม” ผู้จัดละครเรื่อง “ธรณีนี่นี้ใครครอง” และ “ลมซ่อนรัก” ซึ่งเป็นละคร 2 เรื่องที่มีรายชื่อออกอากาศในประเทศกัมพูชา เปิดเผยกับ “คม ชัด ลึก” ว่า การเลือกละครไปออกอากาศที่ต่างประเทศนั้น เป็นสิทธิของทางช่อง 3 ซึ่งเป็นการตกลงกันของทางช่อง 3 กับสถานีโทรทัศน์พีเอ็นเอ็น ตนในฐานะผู้จัด เมื่อทำงานส่งทางช่องไปแล้ว ถือว่าจบภารกิจ

             “กระแสตอบรับของแฟนๆ ที่ประเทศกัมพูชานั้น เราได้รับรู้มาจากการที่แฟนๆ ส่งลิงค์มาให้ดู ซึ่งเป็นฉากของ “ญาญ่า” อุรัสยา เสปอร์บันด์ นางเอกของเรื่อง “ธรณีนี่นี้ใครครอง” แต่เป็นเสียงพากย์ภาษากัมพูชา ซึ่งน่ารักไปอีกแบบ” น.ส.ธิติมา กล่าว

             ส่วนที่มีข่าวว่ารัฐบาลกัมพูชาจะไม่ให้ละครต่างประเทศไปออกอากาศในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ คือ 19.00-21.00 น. นั้น ผู้จัดละครชื่อดังเผย ว่า เป็นสิทธิของแต่ละประเทศ เช่นเดียวกับบ้านเรา ถ้ามีหนังเกาหลีหรือญี่ปุ่น มาฉายในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ เราอาจรู้สึกแบบเขาก็ได้

             "ทุกวันนี้เราก็ดูซีรีส์เกาหลีอยู่ ของเขาสนุก ของเขาดีเราก็ดู ไม่ว่าจะฉายช่วงเวลาไหน เราไม่ได้ซีเรียสในช่วงเวลาที่ฉาย เพราะเราเชื่อว่าช่วงเวลาที่ฉายไม่น่าจะมีผล เพราะยุคนี้กำลังเข้าสู่ยุคเออีซี ก็มีการแลกเปลี่ยนข้ามกันไปข้ามกันมา เดี๋ยวก็มีละครซีรีส์ของต่างประเทศมาแย่งกลุ่มคนดูของเราไปเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่าไปซีเรียสว่าละครเราจะไปฉายช่วงเวลาไหนในบ้านเมืองของเขาเลย ถึงไม่ฉายช่วงไพรม์ไทม์ แต่ว่าในยูทูบก็ยังสามารถดูได้ ฉะนั้นในเรื่องของกลุ่มแฟนๆ ในต่างประเทศที่เขาชื่นชอบละครเราถึงจะฉายช่วงเวลาไหน เขาก็จะติดตามดู จริงๆ การที่ละครเราถ่ายไปฉายในต่างประเทศ ไม่ว่าช่วงเวลาไหน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ อย่างน้อยเราได้ไปเปิดตลาดใหม่ ถ้าเกิดของเราดีจริง คนเขาก็ดูกันเอง แล้วเราเชื่อว่าเราก็ดีด้วย” ผู้จัดชื่อดังเผย

             น.ส.ธิติมา กล่าวต่อว่า ได้ทราบข่าวมาบ้างว่าละครของตนไปโด่งดังที่ประเทศกัมพูชา โดยทางสถานีโทรทัศน์พีเอ็นเอ็น เป็นผู้โปรโมทให้ ซึ่งก็ดีใจเพราะถือว่าโกอินเตอร์

             “ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะไปเป็นที่หนึ่งหรือที่สองก็ตาม ในความเป็นจริง ละครไทยไปฉายในประเทศกัมพูชา จะไปตั้งเป้าว่าจะไปเป็นที่หนึ่งก็คงไม่ดี แค่ได้เอาผลงานไปออกอากาศต่างประเทศก็ดีแล้ว ที่ประเทศกัมพูชาให้โอกาสละครไทยไปออกอากาศ ทำให้ในฐานะผู้จัด นักแสดง และทีมงานมีกำลังใจทำงานเพิ่มขึ้นอีก” น.ส.ธิติมา กล่าว