หนังร่วมทุนสร้างใบเบิกทางนักแสดงสู่นานาชาติ

          ครั้งหนึ่งเราเคยตื่นเต้นกับการที่นักแสดงบ้านเราจะได้โกอินเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นงานหนัง ละคร หรือแม้แต่งานเพลง หลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ยุค 60 จะเห็นได้ว่าวงการภาพยนตร์ไทยได้ร่วมทุนกับต่างชาติในการสร้างภาพยนตร์ออกมาหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น "คนเลี้ยงช้าง" (ไทย-เยอรมัน) "สบายดีหลวงพระบาง" (ไทย-ลาว)  the eye2 : คนเห็นผีภาค 2 (ไทย-ฮ่องกง) “The Fatality : ตอกตราผี” (ไทย-ไต้หวัน) "Black Night : ลาง -หลอก-หลอน" (ไทย ฮ่องกง ญี่ปุ่น) "Bitter Sweet : ข้ามฟ้าหาสูตรรัก" (ไทย-อเมริกา) ฯลฯ หากคิดให้ดีหนังร่วมทุน อาจเป็นใบเบิกทางให้นักแสดงไทยก้าวสู่นานาชาติได้ง่ายขึ้น เห็นได้จากนักแสดงบ้านเราหลายคน ที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติไม่ว่าจะเป็น มาริโอ้ เมาเร่อ , "ออม-สุชารัตน์ มานะยิ่ง" , "ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี" , "จีจ้า-ญาณิน วิสมิตะนันทน์" , ชาคริต แย้มนาม , "สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข" ฯลฯ ต่างเคยมีผลงานและร่วมแสดงในหนังร่วมทุนสร้างแทบทั้งนั้น มาดูกันหน่อยดีกว่าว่ามีหนังไทยใหม่ๆ เรื่องใดบ้างที่เข้าข่าย
         
          ประเดิมกันที่ค่ายสหมงคลฟิลม์กับภาพยนตร์เรื่อง "The Kick วอนโดนเตะ" (ไทย-เกาหลี) ผลงานกำกับของ ปรัชญา ปิ่นแก้ว (ที่โด่งดังจากการกำกับภาพยนตร์เรื่ององค์บาก) ที่งานนี้เรียกว่าขายบทบู๊ของ "จีจ้า-ญาณิน วิสมิตะนันทน์" กันเต็มๆ แม้ในเรื่องจะมีนักแสดงเกาหลีอย่าง โจ แจฮุน, เย จีวอน นา แทจู และ คิม คยองสุก มาร่วมแสดงก็ตาม หนังอาจไม่เป็นที่นิยมมากนักในเมืองไทย แต่แว่วว่าหนังเรื่องนี้ในในเกาหลีรายได้ดีพอสมควรโดยเฉพาะเสียงภาคเวอร์ชั่นเกาหลีเขาว่าฮามาก
         
          ตามมาติดๆ กับนักแสดงกำลังฮอตในจีนอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ หลังจากเคยชิมลางเล่นหนังสั้นที่เรียกว่า "ไมโครมูฟวี" ในจีนมาแล้วก็ได้เล่นภาพยนตร์แบบเต็มตัวใน  Love On That Day หนังร่วมทุน ไทย-จีน ผลงานการกำกับของ จูเส้าหยู งานนี้ได้แสดงร่วมกับนักแสดงหน้าใหม่อย่าง อู่อี้ และ เยี่ยฉิง หนังเรื่องนี้ฉายไปแล้วเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่เพียงผลงานที่จะพิสูจน์ความเป็นดาราระดับ "อินเตอร์" ของหนุ่มลูกครึ่งไทยคนนี้เท่านั้น แต่ยังจะพิสูจน์ถึงโอกาสที่จะเติบโตของตลาดหนังวัยรุ่นในจีนแผ่นดินใหญ่อีกด้วย
          
          ตามมาติดติดๆ กับค่าย ซาก้า สตูดิโอ ที่เพิ่งเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง "ไฟท์ติ้ง ฟิช" (ไทย-ฝรั่งเศส) งานนี้นอกจากจะได้ "หญิง" จุฬาลักษณ์ อิสมาโลน  มารับหน้าที่ผู้กำกับเต็มตัวครั้งแรก ยังได้ "กัสจัง" จิรันธนิน พิทักษ์พรตระกูลจ "เจ เจ" จักรกฤษณ์ กนกพจนานนท์ จาเวด อัล เบอนี่ นักแสดงชาวฝรั่งเศส มาร่วมแสดงอีกด้วย
 
          ในขณะที่ "อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์" ก็ดอดมาร่วมแสดงในภาพยนตร์สยองขวัญร่วมทุนสร้างไทย-จีน เรื่อง "เฟียร์ มี นอท" (FEAR  ME NOT) งานนี้ยังได้นักแสดงไทยอีกหลายคน อาทิ "ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง" โจ๊ก อัครินทร์ สองพาราด็อกซ์ "โอ๊ค- พีพันธ์" นอกจากนี้ยังมีดาราทั้งจีนไต้หวันและฮ่องกงอย่าง จาจื่อซวน โจวเหิง เอลวานิ ทางชิงเหม่ย เชาปักโอ และ วิลเฟรดลาว ผลงานการกำกับของ ดึง จิล วอง
 
          ยิ่งในปีนี้เราจะเห็นหนังร่วมทุนสร้างค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นหนัง 3 มิติเรื่อง "BURNT" ที่เป็นการร่วมทุนระหว่าง ไทย จีน เกาหลีใต้และมาเลเซีย ภายใต้นามว่า  MOU เรื่องนี้ได้นักแสงไทยอย่าง มาริษา แอนนิต้า, จิ๊ด แสงทอง นำแสดงร่วมกับดาราฮอลลีวู้ดอย่าง รัสเซล หว่อง ฯลฯ โดยมีผู้กำกับเป็นคนไทยคือ “เอก”ภาคิน มลิวัลย์ ที่แน่ๆ หนังเรื่องนี้จะได้มาถ่ายทำในไทยและไปถ่ายที่จีน มีกำหนดฉาย อย่างน้อยๆ 4 ประเทศ และเร็วๆ นี้ MOU ยังมีภาพยนตร์ร่วมทุนกับต่างประเทศอีก 3 เรื่อง ได้แก่ “THE RUN” (ไทย-มาเลเซีย) “THE SON” (ไทย-มาเลเซีย) และ “THE TUSSLE” (ไทย-อเมริกา)
 
          อ.มโนธรรม เทีมเทียบรัตน์ นักวิจารณ์ภาพยนตร์กล่าวว่าหนังร่วมทุนสร้างนั้น มีมานานแล้วตั้งแต่ปี 60 โดยเรื่องแรกเป็นหนังไทยที่ร่วมทำกับฮ่องกง หนังร่วมทุนส่วนใหญ่จะมีการทำสัญญาโดยการใช้นักแสดง ผู้กำกับ ทีมงาน หรือแม้แต่สถานที่ในประเทศนั้นๆ ประกอบการแสดง
 
          "ในยุคแรกๆ ประเทศไทย มักร่วมทุนกับประเทศในแถบเอเชียด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ระยะหลังๆ เริ่มมีประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เยอรมนี อเมริกา ฟิลิปปินส์ เกาหลี ฯลฯ ส่วนใหญ่ผู้ร่วมทุนจะมุ่งหวังเรื่องการขยายตลาด การวางรากฐานหนัง เพื่อเป็นการต่อยอดสำหรับการทำหนังเรื่องต่อไป ในขณะที่เราก็หวังที่จะแนะนำดาราของเราไปสู่เวทีระดับสากล และทำให้ทีมงานได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์มากขึ้น" อ.มโนธรรม กล่าว
.......................................
(หมายเหตุ หนังร่วมทุนสร้างใบเบิกทางนักแสดงสู่นานาชาติ : สกู๊ปบันเทิง)