Lifestyle

ผ้าไทยร่วมสมัยชายแดนใต้ จุดขายที่ แปลก-และแตกต่าง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

.

 

 


   
          ความสำเร็จของโครงการผ้าไทยร่วมสมัยชายแดนใต้ปี 2561 สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยร่วมกับเหล่าแฟชั่นดีไซเนอร์ เอก ทองประเสริฐ, ธีระ ฉันทสวัสดิ์ และศรันรัตน์ พรรจิรเจริญ และนักออกแบบผลิตภัณฑ์ หิรัญกฤษฏิ์ ภัทรพิบูลย์กุล, ทรงวุฒิ ทองทั่ว และปฏิพัทธ์ ชัยวิเทศ  สานต่อ ‘โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และออกแบบลายผ้าไทยร่วมสมัยชายแดนใต้’ (Contemporary Southern Batik by OCAC) อีกในปี 2562 ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นยกระดับผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาสู่ระดับสากล 

 

 

 

ผ้าไทยร่วมสมัยชายแดนใต้ จุดขายที่ แปลก-และแตกต่าง

 

          โดยคอลเลกชั่นล่าสุดจากแบรนด์ EK Thongprasert, T-ra Chantasawasdee, Sarunrat Panchiracharoen  และดีไซเนอร์เอริค ชุง จากมาเลเซีย และเอ็ดวิน อาว จากฟิลิปปินส์ ร่วมกับนักออกแบบผลิตภัณฑ์แดเนียล ซู จากมาเลเซีย และโนนิตา เรสปาตี จากอินโดนีเซีย ผ่านการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายแต่พิถีพิถันในรายละเอียดของเทคนิค โดยถือเอาความงามและความละเมียดละไมของงานบาติกบนผืนผ้าทั้งหลายเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งคอลเลกชั่นนี้รังสรรค์ลวดลายบาติกบนผืนผ้าร่วมกับผู้ประกอบการบาติก 15 ชุมชน จาก 4 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา
    

          ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์     ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การพัฒนาลายผ้าไทยร่วมสมัยชายแดนใต้นี้ สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันยังขยายตลาดผ้าไทยออกสู่กลุ่มลูกค้าต่างชาติจนผ้าบาติกไทยได้รับความนิยมในพื้นที่แถบอาเซียน รวมถึงญี่ปุ่น ฮ่องกง และไต้หวัน ถือเป็นการยกระดับผ้าบาติกสู่ตลาดสากลมากยิ่งขึ้น
     

 

ผ้าไทยร่วมสมัยชายแดนใต้ จุดขายที่ แปลก-และแตกต่าง

 

 

          เอก ทองประเสริฐ ผู้สร้างแบรนด์ Ek Thongprasert กล่าวว่า การลงพื้นที่เพื่อทำความรู้จักและศึกษาจนเกิดความเข้าใจอัตลักษณ์และคุณค่าของแต่ละพื้นที่ แต่ละกลุ่มผู้ประกอบการ ซึ่งการเข้าถึงชุมชนทำให้เห็นรายละเอียดที่สามารถนำมาใช้ในการออกแบบลวดลายและได้รับแรงบันดาลใจที่ลึกซึ้งกว่า ซึ่งสามารถใส่เข้าไปในผลงานจนเกิดเป็นผลงานลวดลายผ้าใหม่ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการออกแบบและตัดเย็บเครื่องแต่งกายและออกแบบผลิตภัณฑ์ผ่านมุมมองและเทคนิคของดีไซเนอร์จนเกิดเป็นผลงานที่มีความร่วมสมัย โดยคงความซื่อตรงต่ออัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ไว้อย่างงดงาม และผ้าบาติกมีความโดดเด่นตรงที่เหมาะกับการสวมใส่ในประเทศไทยและยังเป็นผ้าที่มีความสนุกสนานสะท้อนถึงสีสันของธรรมชาติซึ่งสามารถเป็นตัวแทนให้ชาวต่างชาติรู้จักประเทศไทยมากขึ้นผ่านผืนผ้า



  

 

ผ้าไทยร่วมสมัยชายแดนใต้ จุดขายที่ แปลก-และแตกต่าง

 

 

          ด้านอานี ชูเมือง ผู้ประกอบการร้านรายาบาติก จ.ปัตตานี  กล่าวว่า ผ้าบาติกเป็นอุตสาหกรรมที่มีมาช้านานในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา (จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย) ด้วยการออกแบบลายผ้าที่แปลกและแตกต่างที่มีผืนเดียวในโลกกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เป็นจุดขาย โดยมีดีไซเนอร์แนะนำเรื่องการสร้างลวดลาย เทรนด์สีในกระแสแฟชั่น และการเลือกใช้วัตถุดิบมาปรับให้ตรงกับความนิยมตรงกับความต้องการของตลาด

 

 

ผ้าไทยร่วมสมัยชายแดนใต้ จุดขายที่ แปลก-และแตกต่าง


          ซึ่งนอกจากลวดลายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น ยังจะมีการพัฒนาเทคนิคการทำลวดลาย การให้สีที่มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย สำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์จะเน้นการต่อยอดจากลายผ้าและการนำวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตมาเป็นต้นแบบในการพัฒนา ซึ่งเป็นการแปลงขยะจากการผลิตให้มีมูลค่าขึ้นด้วย


          ทั้งนี้ในปีนี้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยได้ต่อยอดการดำเนินการจากปีที่ผ่านมา โดยนำนักออกแบบชาวไทยจำนวน 6 คนและนักออกแบบอาเซียนจำนวน 4 คนลงไปในพื้นที่เพื่อพัฒนาลวดลายผ้าและออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้าร่วมกับกลุ่มชุมชนในพื้นที่เพื่อให้ได้ชุดผลงานออกแบบเครื่องแต่งกายออกมาเป็น 61 ชุดผลงาน และผลิตภัณฑ์ 36 ชิ้น ชมผลิตภัณฑ์ผ้าไทยร่วมสมัยชายแดนใต้ได้ตั้งแต่วันที่ที่ 29 สิงหาคม–1 กันยายน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ