Lifestyle

เก้าอี้ที่ว่าง..ในวันแม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้านโพสต์#เราอยากได้อะไรในงานวันกราบแม่?เราต้องการภาพหรือ"ความจริง"มีเด็กหลายล้านคนไม่มีแม่จริงๆให้กราบและเจ็บปวดกับเก้าอี้ที่ว่างในวันแม่

#หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน โพสต์ #เราอยากได้อะไรในงานวันกราบแม่? ใจความว่า มีคำถามหลังไมค์มาเยอะมากเรื่องงานวันแม่ (เลยรู้เลยว่าลูกเพจรักมาก จากการพยายามลากเราเข้าวงดราม่า) 

 

หมอขอเขียนบทความนี้ในทัศนคติส่วนตัว ไม่ได้มีหลักวิชาการอะไรรองรับนะคะ 

การควรจัดงานวัน (กราบ) แม่หรือไม่ (อันนี้ไม่เกี่ยวงานวันเฉลิมนะคะ เดี๋ยวดราม่าอีก)

หมอคิดว่าแต่ละโรงเรียน คงมีบริบทและคำตอบที่แตกต่าง

แต่คิดว่าคำถามสำคัญ ที่โรงเรียนควรถามตัวเอง คือ

“เราต้องการอะไรในการจัดกิจกรรมวัน(กราบ)แม่”

ถ้าเราอยากให้เด็กๆ ได้แสดงความรักกับแม่...

คำถามต่อมาที่น่าสนใจ คือ...

จริงมั้ย ที่ความรักแสดงออกด้วยการกราบไหว้?

มีวิธีอื่นมั้ยที่เด็กๆ จะ “เลือก” แสดงความรักกับแม่ ในรูปแบบของตัวเอง?

ทำไมความรักต้องถูกนำมาแสดงออกในที่สาธารณะ?

เราต้องการเพียง “ภาพ” หรือ “ความจริง”

ความจริงตัวเลขในประเทศไทย

40% ของครอบครัวที่สมรส... หย่าร้าง
30% ของเด็กไทย (มากกว่า 3 ล้านคน ไม่ได้อยู่กับพ่อหรือแม่)

มีเด็กหลายล้านคนไม่มีแม่จริงๆให้กราบ

มีเด็กหลายแสนคนเจ็บปวดกับเก้าอี้ที่ว่างเปล่า

มีเด็กหลายหมื่นคนที่พ่อแม่ของพวกเขาต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนกลับบ้าน และแลกมันด้วยเงินที่ควรนำไปใช้หล่อเลี้ยงอีกหลายชีวิต

มีเด็กหลายพันคน ที่พ่อแม่ของพวกเขาต้องเลือกไปงานของพี่น้องได้แค่ “เพียงคนเดียว” การเลือก ที่หลายครั้ง กลับสร้างบาดแผล

มีเด็กหลายร้อยคนที่ผู้ปกครองตัดสินใจให้หยุดโรงเรียน

เรากำลังทำอะไรกับเขาเหล่านี้?

และที่เราคิดว่าได้ คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องแลกไปหรือไม่

ถ้าหมอเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษา (นี่แค่ลองสมมตินะยังรู้สึกถึงความสยองของชีวิต )

หมอจะยกเลิกการ “บังคับ” ให้จัดงานวัน(กราบ) แม่

แต่ให้สิทธิแก่โรงเรียนที่จะตัดสินใจ จัดกิจกรรม วันแม่ หรือ วัน “คนทำหน้าที่แม่” ตามบริบทของโรงเรียน

หมอจะสนับสนุนให้โรงเรียน มองรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย ที่ทำให้เด็กๆ เข้าใจความเป็นแม่(ที่อาจจะไม่สมบูรณ์แบบ) ความรักของแม่ (ที่แสดงออกในรูปแบบที่แตกต่าง) แสดงความรู้สึกที่มีกับแม่ (ที่ไม่ได้แปลว่าต้องรัก) ถ้าอยากขอบคุณแม่ หรือคนที่ “ทำหน้าที่แม่” ในชีวิตของพวกเขา ก็ทำได้ในรูปแบบของตนเอง โดยที่ไม่ต้องให้แม่มาโรงเรียน

หมอจะสนับสนุนให้โรงเรียนจัดกิจกรรม ให้เด็กๆ เข้าใจว่า “ความไม่มีแม่” ก็เป็นเรื่องที่เกิดได้ในชีวิตของเราหรือใครๆ และช่วยให้เด็กๆ ขอบคุณตัวเอง และคนที่ทำให้เราเติบโตเข้มแข็งได้จากความไม่มีนั้น

 

เก้าอี้ที่ว่าง..ในวันแม่

หมอจะสนับสนุนทุนวิจัยหัวข้อ “การกราบแม่ที่โรงเรียนได้อะไรในชีวิต” และ “ผลกระทบจากเก้าอี้ที่ว่างเปล่า” เราจะได้ไม่ต้องมาเถียงๆกันไปอีกหลายร้อยปี 

อันนี้ก็ความคิดของหมออะนะ คงไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไร ตราบใดที่...

แต่ก็อยากจะบอกพ่อๆแม่ๆ ว่า...

“เราทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้นะ ถ้าเราคิดว่ามันควรเปลี่ยนแปลง” 

หมอว่าการที่ลูกเราได้เรียนรู้เรื่องความเห็นอกเห็นใจ ไม่ยึดติด คิดนอกกรอบได้ ผ่านเรื่องงานวันแม่

เค้าต้องได้อะไรแน่ๆ เลย

#หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
ผู้ที่ลูกอยู่โรงเรียนที่ไม่มีกิจกรรมการกราบแม่ มีแค่ลูกเขียนการ์ดมาให้ และก็ไม่ได้รู้สึกรักลูกมากขึ้นหรือน้อยลง 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ