Lifestyle

"เดชา"เดิน268กม.สู่อิสรภาพชงรัฐ4ข้อ...ปลดล็อกกัญชา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

0 ทีมข่าวคุณภาพชีวิต 0   [email protected]

 


          นับตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ที่นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ พร้อมด้วยประชาชนและเครือข่าย จัดกิจกรรม “เดินเพื่อผู้ป่วย Cannabis Walk Thailand” โดยออกเดินจากวัดป่าวชิรโพธิญาณ อ.โพทะเล จ.พิจิตร ผ่านระยะทาง 268 กิโลเมตร ถึงวัดบางปลาหมอ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี อันเป็นจุดหมายของการเดินในครั้งนี้ รวม 20 วัน เพื่อเรียกร้องให้ประเทศไทยเปิดเสรีทางการแพทย์และระดมทุนเพื่อทำน้ำมันกัญชาแจกผู้ป่วย

 

 

 

 

"เดชา"เดิน268กม.สู่อิสรภาพชงรัฐ4ข้อ...ปลดล็อกกัญชา

 

 

          เวลา 14.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน เมื่อคณะทั้งหมดเดินทางถึงวัดบางปลาหมอ 12 องค์กรเครือข่ายเดินเพื่อผู้ป่วย ได้แก่ มูลนิธิข้าวขวัญ มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ มูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI) มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน(ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิสุขภาพไทย มหาวิทยาลัยรังสิต เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน (ขสช.) เครือข่ายผู้ป่วย (Healthy Forum) และคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ได้ร่วมกันประกาศอิสรภาพกัญชารักษาโรค  


          นายธนพล ดอกแก้ว ประธานสมาคมชมรมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานเครือข่ายเดินเพื่อผู้ป่วย เป็นตัวแทนอ่านคำประกาศว่า ตลอดการเดิน ประชาชน 32,049 คน ร่วมลงชื่อเพื่อเสนอแก้ไขกฎหมายการใช้กระท่อมและกัญชาเพื่อการแพทย์ ผู้ป่วยจำนวน 40,145 คน ร่วมลงชื่อเข้าร่วมโครงการวิจัยการใช้กัญชาสูตรน้ำมันเดชาเพื่อรักษาโรค มีประชาชนระหว่างเส้นทางเดินที่บอกว่าไม่มีอะไรมากพอจะสนับสนุนและเป็นกำลังใจได้นอกเหนือจากหนูนาย่างเพื่อร่วมสมทบเป็นอาหาร หลายท่านที่โอนเงินเข้าบัญชีร่วมทำบุญผลิตยากัญชา และผู้ใจบุญบางท่านขอบริจาคมากถึงหนึ่งล้านบาทเพื่อผู้ป่วย ขณะนี้ยอดเงินบริจาคทุกบัญชีรวมกันแล้วมากถึง 4,968,742.78 บาท

 

 

 

 

"เดชา"เดิน268กม.สู่อิสรภาพชงรัฐ4ข้อ...ปลดล็อกกัญชา

 



          “ตลอดระยะเวลา 20 วันนี้ เราได้ยิน ได้เรียนรู้จากปากคำของผู้ป่วยนับร้อยนับพันคนว่า การใช้กัญชาอย่างถูกต้องนั้นสามารถเยียวยารักษาโรคต่างๆ ได้มากมายกว่าที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐประกาศเพียงใด แต่น่าเศร้าสลดที่ผู้ป่วยเหล่านี้หลายแสนคน และอาจมากถึงหลายล้านคน กลับไม่สามารถเข้าถึงยาจากกัญชาได้ จากกฎหมายและระเบียบล้าหลัง ตลอดจนแนวปฏิบัติของรัฐที่เอื้ออำนวยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การเปิดโอกาสบริษัทยาข้ามชาติยื่นขอสิทธิบัตรผูกขาด และอ้างเหตุนำเข้าผลิตภัณฑ์กัญชาจากต่างชาติ กีดกันหมอพื้นบ้านไม่ให้ผลิตยา และไม่สามารถเข้าถึงวัตถุดิบกัญชาได้” นายธนพลกล่าว  


          เราขอประกาศอิสรภาพการใช้กัญชารักษาโรค เพื่อเรียกร้องสิทธิของผู้ป่วยในการเข้าถึงยาและเลือกวิธีการรักษาโรค เคารพภูมิปัญญาและการส่งเสริมบทบาทของหมอยาพื้นบ้าน ต่อต้านการผูกขาดยาและเสริมสร้างการพึ่งพาตนเอง ดังต่อไปนี้ 1.ในระหว่างที่ยังไม่มีการอนุญาตให้สหกรณ์และวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชาได้ในปริมาณที่เพียงพอ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ต้องมอบวัตถุดิบกัญชาของกลางให้แก่หมอพื้นบ้านที่ผลิตยาแจกจ่ายแก่ประชาชน มิใช่การเผาทำลายทิ้งไปโดยไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพและเกณฑ์ความปลอดภัยจากผลิตภัณฑ์ปลายทาง (end products) เพื่อให้ผู้ป่วยที่เคยใช้ยากัญชาสามารถเข้าถึงยาได้ต่อเนื่อง

 

 

"เดชา"เดิน268กม.สู่อิสรภาพชงรัฐ4ข้อ...ปลดล็อกกัญชา

 

 


          2.เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) รับรองตำรับยาน้ำมันกัญชา หรือน้ำมันกัญชาผสมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นต้น เป็นตำรับยาหมอพื้นบ้าน และตำรับยานี้ควรอยู่ในระบบบัญชียาหลักแห่งชาติ หรือระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อให้หมอพื้นบ้าน แพทย์แผนไทย บุคลาสาธารณสุขสามารถผลิตยาได้ และผู้ป่วยทุกคนในประเทศสามารถเข้าถึงยากัญชาได้อย่างกว้างขวางและปลอดภัยในราคาไม่แพง


          3.ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและทุกพรรคการเมืองร่วมกันสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายให้กัญชง กระท่อม สาร CBD และสารอื่นจากกัญชาที่ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ออกจากบัญชียาเสพติดอย่างสมบูรณ์ ต้องอนุญาตให้ผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์สามารถปลูกกัญชาเพื่อการพึ่งพาตนเอง เช่นเดียวกับหมอยาพื้นบ้าน บุคลากรด้านการแพทย์/สาธารณสุข สถานพยาบาล สามารถปลูก และปรุงยากัญชาได้ตามความจำเป็นและความเหมาะสม ผ่านการจดแจ้ง และใช้กลไกของชุมชน ท้องถิ่น ในการกำกับดูแลไม่ให้มีการนำวัตถุดิบกัญชาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

 

 

 

"เดชา"เดิน268กม.สู่อิสรภาพชงรัฐ4ข้อ...ปลดล็อกกัญชา

 


          และ 4.เร่งฟื้นฟูและพัฒนาสายพันธุ์กัญชา โดยการส่งเสริมสนับสนุน และคุ้มครองบทบาทของเกษตรกรและชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้สายพันธุ์กัญชาไทยกลับมามีความหลากหลายและมีคุณภาพดีที่สุดในโลกอีกครั้งหนึ่ง เพิกถอนและระงับการยื่นขอจดสิทธิบัตรที่ขัดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะการจดสิทธิบัตรสารตามธรรมชาติ การใช้เพื่อรักษาโรค และขาดความใหม่ เป็นต้น


          “เราจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้องดังกล่าว เพื่อให้ผู้ป่วยนับแสนนับล้านคนที่รออยู่สามารถเข้าถึงยากัญชาโดยเร็วที่สุด หากรัฐเพิกเฉย ผู้ป่วยและประชาชนจากทุกจังหวัด จะร่วมกันเคลื่อนไหวเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน” นายธนพลกล่าวจบคำประกาศ 


          อย่างไรก็ตาม สำหรับ “น้ำมันกัญชาตำรับนายเดชา" นั้น ได้ยื่นต่อกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้พิจารณาเป็น "ตำรับยาหมอพื้นบ้านที่มีกัญชาปรุงผสม" ซึ่งคณะกรรมการด้านการประเมินรับรองตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาและกระท่อมและการใช้ยาแผนไทยที่มีกัญชาและกระท่อมปรุงผสมอยู่ในหน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐและเอกชน จะมีการพิจารณาในวันที่ 12 มิถุนายนนี้  หลังจากพิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่า นายเดชาจะต้องเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับ “กรรมวิธีการสกัด” ให้ละเอียดมากขึ้นและปรับสูตรตำรับ 

 

 

 

"เดชา"เดิน268กม.สู่อิสรภาพชงรัฐ4ข้อ...ปลดล็อกกัญชา

 


          ทั้งนี้ หากน้ำมันกัญชาเดชาผ่านการรับรองเป็นตำรับยาหมอพื้นบ้านที่มีกัญชาปรุงผสม จะทำให้นายเดชา สามารถปรุงตำรับยาดังกล่าวแจกจ่ายให้แก่ผู้ป่วยในความดูแลของตนเองเท่านั้น หมอพื้นบ้านคนอื่นหรือแพทย์แผนไทยไม่สามารถนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยได้ จนกว่าจะมีการวิจัยที่ชัดเจนมากขึ้นและผ่านการพิจารณาเป็นตำรับยาที่สามารถใช้ในโรงพยาบาลได้ แพทย์แผนไทยก็จะสามารถสั่งจ่ายได้ ส่วนหมอพื้นบ้านท่านอื่นที่จะใช้ก็ต้องเข้ารับการสืบทอดความรู้ 


          นอกจากนี้ น้ำมันกัญชาเดชา เข้าร่วมในโครงการวิจัยร่วมระหว่างคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อศึกษาเกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์ในหลากหลายมิติด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำโครงการเสนอขออนุญาตดำเนินการวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

 

 

 

"เดชา"เดิน268กม.สู่อิสรภาพชงรัฐ4ข้อ...ปลดล็อกกัญชา

 


          ขณะที่ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวว่า ในวันที่ 10 มิถุนายน 2562 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้นัดหารือกับนายเดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้านและประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วยทางมูลนิธิสุขภาพไทย ซึ่งเป็นการหารือรอบนอกในการเตรียมข้อมูลก่อนที่จะมีการประชุมพิจารณารับรองตำรับยาที่มีกัญชาปรุงผสมของหมอพื้นบ้าน ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้


          "อ.เดชา จะไม่มีการปรับสูตรตำรับยาอย่างที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ เคยเสนอ เช่น ให้ผสมพริกไทย หรือสมุนไพรรสร้อนต่างๆ เพื่อให้เป็นตำรับยา เนื่องจาก อ.เดชามองว่า ตำรับน้ำมันกัญชาที่ใช้น้ำมันมะพร้าวสกัด หรือสูตรผสมน้ำมันมะพร้าวนั้น จัดว่าเป็นตำรับอยู่แล้ว ไม่ได้มีสมุนไพรตัวเดียวโดดๆ เพราะมีน้ำมันมะพร้าวด้วย และจากการรักษาก็ใช้สูตรนี้ เช่น รักษาโรคผิวหนัง ดวงตา หากใส่อย่างอื่นลงไปอาจมีปัญหาได้ นอกจากนี้ ตำรับยาหมอพื้นบ้านอย่างอื่นก็มีที่ใช้แบบเดี่ยวๆ เช่น ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร พญายอ เป็นต้น จึงไม่ขอเปลี่ยนสูตร” นายวิฑูรย์ กล่าว

 

 

 

"เดชา"เดิน268กม.สู่อิสรภาพชงรัฐ4ข้อ...ปลดล็อกกัญชา

 


          หลังจากจบภารกิจการเดินเพื่อผู้ป่วย นายวิฑูรย์ กล่าวว่า จะขับเคลื่อนเรื่องหลักคือ เรียกร้องให้มีการรับรองตำรับยาน้ำมันกัญชาของ อ.เดชา และควรผลักดันให้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติหรือหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เพื่อเพิ่มการเข้าถึง แม้การจะบรรจุได้ต้องผ่านการวิจัย แต่งานวิจัยมี 2 ระดับ คือ วิจัยตามแผนปัจจุบัน ซึ่งเป็นอีกกระบวนการที่จะต้องผ่านการอนุญาตจริยธรรมวิจัยในมนุษย์ แต่ที่เราต้องการ คือ ตำรับยาหมอพื้นบ้านซึ่งอยู่ในกำกับของกรมการแพทย์แผนไทยฯ ที่อยากให้ผ่านการรับรองตรงนี้ ส่วนที่บอกว่า ตำรับยาหมอพื้นบ้านเป็นการใช้ส่วนบุคคลของหมอพื้นบ้าน ใช้ในชุมชน ตรงนี้ สธ.ควรใช้อำนาจบริหารในการปรับแก้ประกาศเพื่อให้ใช้ได้โดยทั่วไป


           


 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ