Lifestyle

ปรับระบบจัดสรรนมโรงเรียน ป้องกัน1.4หมื่นล้านรั่วไหล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  ทีมคุณภาพชีวิต [email protected] -

 

 

          เพื่อให้การบริหารจัดการนมโรงเรียนปีการศึกษา 1/2562 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงเกษตรฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนขึ้น มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนให้เป็นไปตามแนวทางการปฏิรูประบบบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม(นม) โรงเรียน ตามมติคณะรัฐมนตรี รณรงค์การบริโภคนมไปยังสถาบันการศึกษาทุกระดับ เพื่อให้เด็กนักเรียนในประเทศไทยได้บริโภคนมที่มีคุณภาพ ตรงต่อเวลา กระจายทั่วถึงทุกพื้นที่ให้คุ้มค่ากับงบประมาณ 14,000 ล้านบาทต่อปี

 

 

 

          ระบบบริหารจัดการนมโรงเรียนที่ปรับใหม่นี้ จะกระจายอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ที่มีเกษตรกรประกอบอาชีพเลี้ยงโคนมจำนวนมาก ได้แก่ สระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น ราชบุรี และเชียงใหม่ โดยมีหน้าที่ในการกำกับดูแลและบริหารจัดการนมโรงเรียนในพื้นที่ ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องคุณภาพของน้ำนม และการจัดส่งให้ตรงต่อเวลาได้ 


          "กฤษฎา บุญราช" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบายว่าปริมาณความต้องการน้ำนมในปัจจุบันอยู่ที่วันละ 1,078 ตันต่อวัน เป็นไปตามฐานข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการ มีระบบการตรวจสอบคุณภาพน้ำนมโดยองค์การอาหารและยา(อย.) การกำกับดูแลการกระจายนมโรงเรียนไปอย่างทั่วถึง เชื่อว่าสามารถส่งนมโรงเรียนถึงมือนักเรียนทันเปิดเทอม ตลอดปีการศึกษา 2562 เด็กต้องได้รับนมครบถ้วนคนละ 260 วัน/ถุง/กล่อง หรือภาคเรียนละ 130 วัน/ถุง/กล่อง ตลอดปีการศึกษา


          พร้อมกันนี้ได้ตั้งอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการนมโรงเรียนระดับกลุ่มพื้นที่ (5 กลุ่ม) เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกและจัดสรรสิทธิการจำหน่ายนมโรงเรียนในโครงการให้กลุ่มผู้ประกอบที่แสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการ โดยใช้จำนวนนักเรียนตามข้อมูล (Big Data) ของกระทรวงศึกษาธิการ และปริมาณ/ขีดความสามารถของผู้ประกอบการในการให้บริการในพื้นที่มาใช้ในการคำนวณจัดสรรปริมาณน้ำนมให้แก่ผู้ประกอบการแต่ละราย เพื่อป้องกันการส่งนมไม่ตรงเวลาและนมไม่มีคุณภาพ และขอให้ปศุสัตว์จังหวัดและเกษตรจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบการส่งมอบนมโรงเรียนให้ครบทุกแห่งและเพียงพอต่อจำนวนนักเรียน รวมทั้งต้องเป็นน้ำนมที่มีคุณภาพตามสัญญาที่ตกลงไว้กับทางราชการ




          “สายฝน แสงแก้ว” ครูโรงเรียนโรงเรียนบรรพตวิทยา ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย กล่าวว่า ปัจจุบันโรงเรียนรับนมโรงเรียนประเภทยูเอชที (แบบกล่อง) จากองค์การบริหารส่วนตำบลปอวันละ 271 กล่อง/คน เพื่อแจกจ่ายให้นักเรียนตั้งแต่อนุบาล-ประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร มีการจัดส่งครบถ้วน แต่เนื่องจากเป็นโรงเรียนบนดอย การเดินทางไกลและลำบาก การจัดส่งอาจไม่ตรงเวลาบ้าง นอกจากนี้ในช่วงรอยต่องบประมาณจำนวนวันในการจัดส่งก็ลดน้อยลง จากเดิมที่กำหนดจัดส่งในภาคเรียนปกติจำนวน 200 วันและช่วงปิดเทอม 30 วัน ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้แจ้งอบต.ให้รับทราบแล้ว


          ครูสายฝน กล่าวด้วยว่า อยากให้รัฐบาลให้การสนับสนุนโครงการนมโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง เพราะทำให้เด็กดอยที่อยู่ห่างไกล ถิ่นทุรกันดารได้มีโอกาสได้ดื่มนมคุณภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากไม่มีโครงการนี้เด็กเหล่านี้ก็จะขาดโอกาสในการได้ดื่มนมเพิ่มโภชนาการเด็กดอยที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ซึ่งได้สังเกตพัฒนาการของเด็กๆ เห็นว่าร่างกายเด็กมีความแข็งแรงและตัวสูงขึ้น ตัวเริ่มโตเหมือนเด็กในเมือง


          ด้าน นวธรภร ชูแก้ว ครูโรงเรียนหนองผักฉีด หมู่ 5 บ้านหนองผักฉีด อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการมา 4 ปีแล้ว รับนมโรงเรียนจากสหกรณ์โคนมพัทลุง จำกัด จัดซื้อโดยองค์การบริหารส่วนตำบลสุโสะ จัดส่งให้เด็กดื่มในเทอมปีแล้ววันละ 53 คน/กล่อง ส่วนเทอม 1/2562 กำลังอยู่ระหว่างแจ้งข้อมูลจำนวนนักเรียนเป้าหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.ตรัง) คาดจะสามารถรับนมได้ในต้นมิถุนายนนี้ โดยจะรับเป็นนมประเภทพาสเจอร์ไรซ์


          ส่วนการจัดส่งบางวันก็มาส่งให้เด็กดื่มตอนเที่ยง บางวันก็มาส่งบ่าย แต่ปริมาณได้รับครบถ้วนเท่าจำนวนเด็ก ส่วนปัญหาคุณภาพนมที่ได้เป็นนมถุงพาสเจอร์ไรซ์ซึ่งการจัดเก็บต้องอาศัยความเย็นสูง ก็เคยเกิดปัญหานมบูดแต่พบไม่บ่อยครั้งซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา


          “แม้เด็กที่นี่จะไม่ค่อยชอบดื่มนมรสจืด แต่ทุกคนก็ดื่มจนหมดเพราะรู้ว่าดื่มแล้วทำให้ร่างกายแข็งแรงตัวสูงขึ้น อยากให้รัฐบาลให้การสนับสนุนโครงการดีๆแบบนี้ไปนานๆ ส่วนปัญหาอุปสรรคมีบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาเพราะนมสดเป็นนมที่จัดเก็บยาก บูดเสียง่าย ซึ่งพยายามปลูกฝังให้เด็กในโรงเรียนเห็นประโยชน์ของการดื่มนม ซึ่งทุกคนก็ได้ให้ความร่วมมือด้วยดี" นวธรภร กล่าว


          มาลี ทรัพย์มั่น ครูโรงเรียนสวนมิสกวัน ทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลทำโครงการนมโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นโครงการที่ทำให้เด็กและเยาวชนของไทยเติบโตได้สัดส่วนตามมาตรฐาน โดยในเทอมนี้โรงเรียนได้รับการจัดสรรนมจืดพาสเจอร์ไรซ์จำนวน 735 คน หรือจำนวน 735 ถุง/วัน การดำเนินการจัดส่งที่ผ่านมาไม่พบปัญหาอุปสรรค ได้จัดส่งจำนวนเพียงพอกับเด็ก โดยวิธีจัดส่งทางบริษัทจะใช้ใส่ถังเก็บความเย็นมาส่ง ไม่เคยเกิดปัญหานมบูดเน่าเสียแต่อย่างใด

 


          โครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียน    
          โครงการนมโรงเรียนเป็นนโยบายของรัฐบาลไทยที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2535 เพื่อแก้ปัญหาการขาดสารอาหารในเด็กวัยเรียน และสนับสนุนอุตสาหกรรมโคนมไทย โดยใช้น้ำนมดิบจากเกษตรกรในประเทศ นมโรงเรียนเป็นส่วนสำคัญของตลาดนมไทย โดยสัดส่วนน้ำนมดิบที่เข้าสู่โครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียนคิดเป็นร้อยละ 40 ของน้ำนมดิบที่ผลิตได้ทั้งหมดในประเทศไทย นมโรงเรียนทั้งนมยูเอชทีและนมพาสเจอร์ไรซ์ มีเฉพาะรสจืดเท่านั้น ปัจจุบันเด็กระดับชั้นอนุบาล-ป.6 ทุกคนจะได้ดื่มนมโรงเรียนเทอมละ 100 วัน สำหรับวันมาโรงเรียน และอีก 30 วันสำหรับนำกลับไปดื่มที่บ้านในวันปิดเทอม

   

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ