Lifestyle

นิวซีแลนด์เมืองแห่งการศึกษาภาพรวมโต5.1พันล้านดอลลาร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...ปาริชาติ บุญเอก [email protected]


 

          ปัจจุบันนักเรียนไทยนิยมไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์มากที่สุดอันดับ 7 ของโลก และอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน รองจากฟิลิปปินส์ โดยช่วงปี 2559–2561 ภาพรวมอุตสาหกรรมการศึกษานานาชาติในประเทศนิวซีแลนด์สูงถึง 5.1 พันล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้มีสัดส่วนของไทย 120 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% จากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้มีนักเรียนต่างชาติเดินทางไปศึกษาต่อที่นิวซีแลนด์กว่า 125,392 คน จากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก อันดับ 1 ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บราซิล ฟิลิปปินส์และไทยตามลำดับ มีนักเรียนไทยกำลังศึกษาอยู่ที่นิวซีแลนด์กว่า 3,300 คน

 


          ทั้งนี้ในปี 2561 มีการขอวีซ่าใหม่ของนักเรียนไทยเติบโตขึ้นกว่า 7% และอัตราการเติบโตของวีซ่านักเรียนไทยทั้งหมดอยู่ที่ 5% ส่วนใหญ่มาจากสถาบันเทคโนโลยีและโพลีเทคนิคต่างๆ เพิ่มขึ้น 146% และคอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น 10% โดยนักเรียนในระดับประถมศึกษามีอัตราเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากผู้ปกครองต้องการวางรากฐานด้านการศึกษาตั้งแต่เด็ก ซึ่งโรงเรียนของนิวซีแลนด์มีหลักสูตรที่แยกออกมาเฉพาะด้านตามความสนใจและทักษะของนักเรียน


          มร.ทาฮา แมคเฟอร์สัน เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ทุ่มงบกว่า 700 ล้านดอลลาร์ ในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและการเรียนรู้อย่างมืออาชีพ 98% ของสถาบันต่างๆ ในนิวซีแลนด์ ด้วยระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้นักเรียนสามารถเข้าถึงบทเรียนและใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน เรียนรู้ผ่านระบบดิจิทัล การประเมินออนไลน์ เสริมให้เด็กคิดสร้างสรรค์จากเทคโนโลยี รวมถึงพัฒนาครูให้มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและการคิดคำนวณ เพื่อการสอนอย่างมีประสิทธิภาพสู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21


          จากฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจของนิตยสาร The Economist Intelligence Unit (EIU) ปี 2560 นอกจากนี้ยังติดอันดับ 1 ด้านสภาพแวดล้อมการสอนที่ดีที่สุดในโลก และเป็นประเทศที่น่าไปเรียนต่อที่สุดในโลกจากการสำรวจนักศึกษานานาชาติกว่า 20,000 คน ผ่านเว็บไซต์ www.education.com


           “นิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกของโลกที่มีกฎหมายดูแลนักเรียนต่างชาติ ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ตามความเชื่อของตัวเอง เคารพด้านศาสนาซึ่งกันและกัน เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงระหว่างสังคมของเขาและนิวซีแลนด์  และปรับเรื่องวีซ่าเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาให้ นักเรียนต่างชาติยังสามารถทำงานต่อได้ 3 ปีหลังจากเรียนจบการศึกษา” มร.ทาฮา กล่าว


          หลักสูตรยอดนิยมที่นักศึกษาไทยนิยมไปศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์ 3 อันดับแรกปี 2560 ได้แก่ คณะการจัดการและการบัญชี คณะภาษาศาสตร์และวรรณคดี และคณะวิทยาศาสตร์ รวมถึงด้านอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมมากขึ้น ช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้จัดการตลาดหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศอินเดีย ให้ความสำคัญกับด้านไอที จึงนิยมเรียนทางด้าน Computer Science ประเทศมาเลเซียเน้นในเรื่องของบริหารธุรกิจ และ ประเทศเวียดนามเน้นในส่วนของระดับมัธยมศึกษามากขึ้น เพราะพ่อแม่เริ่มมีกำลังทรัพย์และต้องการพัฒนาทักษะของลูกหลาน ดังนั้นแต่ละประเทศความต้องการแตกต่างกัน แต่นิวซีแลนด์สามารถรองรับได้ทุกหลักสูตรการศึกษาและทุกระดับชั้น


          นอกจากนี้นิวซีแลนด์ยังมีการจัดโครงการฝึกอบรมด้านการพัฒนาภาษาอังกฤษให้แก่ครู ผู้บริหารโรงเรียน และมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทย อาทิ ในปี 2559–2562 ศูนย์ภาษามหาวิทยาลัยโอทาโก้ จัดโครงการฝึกอบรมด้านการพัฒนาภาษาอังกฤษให้แก่ครูกว่า 700 คนเครือข่ายโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย และในปี 2560 สถาบัน Wintec ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา จัดโครงการฝึกอบรมภาษาอังกฤษเพื่อการใช้งานให้แก่ครูด้านไอที จากวิทยาลัยอาชีวศึกษา 30 คน
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ