Lifestyle

"จุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์"ใช้ศรัทธา สร้างคุณค่าความเป็นครู

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  ปาริชาติ บุญเอก   [email protected]


 


          เมื่อเด็กเขาศรัทธาเรา ยิ่งตอกย้ำว่าเรามีคุณค่า ผู้ปกครองก็มองว่าเรามีคุณค่า เพราะเราสร้างลูกเขาให้เป็นคนดี

 

          มูลนิธิสมาน – คุณหญิงเบญจา แสงมลิ  ส่งเสริมครูผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ 6 สาขา ได้แก่ ด้านการศาสนา, การบริหารการศึกษา, การเรียนการสอนภาษาไทย, สังคมศึกษา, การศึกษาก่อนประถมศึกษา, และการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติ ตลอดมา

 

 

"จุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์"ใช้ศรัทธา สร้างคุณค่าความเป็นครู

 

 

          ล่าสุด ทางมูลนิธิฯ ได้เดินทางไปยัง โรงเรียนวัดไม้ตราสมาชิการาม จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดสอนในระดับอนุบาล 2–ประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนจำนวน 158 คน และครูจำนวน 7 คน เพื่อเข้าเยี่ยม นางจุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์ ครูชำนาญการพิเศษ วัย 59 ปี หนึ่งในครูที่ได้รับรางวัลครูดีเด่นสาขาการศึกษาก่อนประถมศึกษา จากมูลนิธิสมาน – คุณหญิงเบญจา แสงมลิ ปี 2558 ถือเป็นอีกหนึ่งครูต้นแบบที่ยังคงปฏิบัติงานด้านการศึกษาสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีเวลาในราชการอีกเพียง 7 เดือนก็ตาม

 

 

 

"จุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์"ใช้ศรัทธา สร้างคุณค่าความเป็นครู

 


          10 ปีแห่งการเรียนรู้ ร.ร.ชายแดน
          ครูจุฬาลักษณ์ เล่าว่า หลังจากเรียนจบระดับปริญญาตรีจาก วิทยาลัยครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เข้าบรรจุรับราชการครูเมื่อปี 2526 ที่โรงเรียนประชาสามัคคี อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ติดชายแดนเขมร โดยได้รับมอบหมายให้สอนเด็กปฐมวัย เด็กส่วนใหญ่พูดภาษาถิ่นทำให้ยากลำบากในการสื่อสาร และในสมัยนั้นยังไม่มีหลักสูตรปฐมวัย จึงต้องใช้ความเพียรพยายามในการหาความรู้ด้วยตัวเองเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ให้เด็กได้มีพัฒนาการตามหลักสูตรที่กำหนด ด้วยใจรัก และจิตวิญญานแห่งความเป็นครูตลอดระยะเวลา 10 ปี ก่อนจะย้ายกลับภูมิลำเนาและประจำการที่โรงเรียนวัดไม้ตราสมาชิการาม จ.พระนครศรีอยุธยา จนถึงปัจจุบัน

 

 

"จุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์"ใช้ศรัทธา สร้างคุณค่าความเป็นครู



          “รูปแบบของการสอนเด็กอนุบาลไม่เหมือนเด็กโต ไม่มีรูปแบบ มีเพียงหลักการให้เรายึด เราต้องออกแบบของเราให้เหมาะสมกับวัยเด็กเอง เวลาเราจัดกิจกรรมแล้วเด็กสนุก มีความสุข มันส่งผลให้เด็กกล้าแสดงออก มีความเชื่อมั่น และมันค่อยๆ เจริญงอกงาม จนตกผลึกไปเรื่อยๆ การอยู่กับเด็กมันคือโลกของเรา ครูอนุบาลกับเด็กอนุบาล มีโลกส่วนตัวของกันและกัน เราจึงต้องมาคิดว่าวันหนึ่งเราจะทำอย่างไรให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของเขา ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ และรูปแบบการจัดการสอนจากต่างประเทศโดยยึดพัฒนาการเด็กและได้ผล นำกิจกรรมน่ารักๆ มาประยุกต์ใช้ ทำให้เราแอ็กทีฟอยู่ตลอดเวลา”

 

 

 

"จุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์"ใช้ศรัทธา สร้างคุณค่าความเป็นครู

 


          “ไฮสโคป”เสริมพัฒนาการ
          จากการมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นครูอนุบาลที่ดี ที่สามารถจัดการเรียนรู้ให้แก่เด็กอนุบาลอย่างถูกหลักและสมวัย นำไปสู่การศึกษาต่อในระดับปริญญาโท วิชาเอกการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พร้อมเลือกนวัตกรรมที่เหมาะสมกับพัฒนาการเด็กมาปรับใช้โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลของเด็ก อาทิ การสอนแบบธรรมชาติ (Whole Language) พัฒนาด้านภาษาของเด็กทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน และมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ตามธรรมชาติของเด็ก การสอนแบบโครงการ (Project Approach) ผ่านการจัดโครงการให้เด็กได้ร่วมกันคิด เรียนรู้ วางแผน กับเพื่อนๆ และครู พร้อมนำเสนอโครงการให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการฝึกซ้อม

 

"จุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์"ใช้ศรัทธา สร้างคุณค่าความเป็นครู

 


          รวมถึง การสอนตามแนวคิดไฮสโคป ซึ่งนำต้นแบบมาจากอเมริกา เน้นการเรียนรู้แบบลงมือทำผ่านมุมเล่นที่หลากหลาย ผ่าน 3 ขั้นตอน คือ 1.การวางแผน (Plan) โดยให้เด็กเลือกกิจกรรมได้อย่างอิสระ 3 กิจกรรม เช่น ปั้นดินน้ำมัน วาดภาพระบายสี และเล่นตามมุมต่างๆ ส่งเสริมการให้เด็กกล้า วางแผน ตัดสินใจ 2.การปฏิบัติ (Do) ให้เด็กลงมือทำตามแผนที่ได้วางไว้ โดยครูคอยช่วยเหลือในจังหวะที่เหมาะสม และ 3.การทบทวน (Review) เปิดโอกาสให้เด็กนั่งล้อมวงนำเสนอผลงานของตัวเอง และเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ได้ซักถาม ทั้งนี้ การสอนตามแนวคิดไฮสโคป ถือเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้อื่น สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างครูและเพื่อนๆ ฝึกความมีระเบียบ การฝึกคิด และลงมือทำ

 

 

 

"จุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์"ใช้ศรัทธา สร้างคุณค่าความเป็นครู

 


          พัฒนาการ4ด้านเน้นความสุข
          นอกจากการนำนวัตกรรมการสอนมาพัฒนาเด็กแล้ว การเรียนการสอนของครูจุฬาลักษณ์ยังเน้น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ ด้านร่างกาย จิตใจอารมณ์ สังคม และสติปัญญา ในการสร้างพื้นฐานให้แก่เด็กโดยผนวกความสุขเข้าไป ให้เด็กเรียนรู้อย่างอิสระ อยากรู้ อยากเรียน เพื่อทำให้ครูได้รู้ตัวตนและศักยภาพของเด็กมากกว่าไปเอากรอบมาครอบ หรือเอาหลักสูตรขั้นพื้นฐานมาครอบเด็ก

 

"จุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์"ใช้ศรัทธา สร้างคุณค่าความเป็นครู

 


          ครูจุฬาลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “อาชีพครูไม่ใช่ทำแล้วก็จบไป แต่มันมีความลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น ทำให้เรามีปฏิสัมพันธ์กับเด็ก เมื่อเด็กเขาศรัทธาเรา ยิ่งตอกย้ำว่าเรามีคุณค่า ผู้ปกครองก็มองว่าเรามีคุณค่า เพราะเราสร้างลูกเขาให้เป็นคนดี ยิ่งทำให้เราภาคภูมิใจในอาชีพและมองว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีเกียรติ และอยากพัฒนาตัวเองเพื่อให้เหมาะสมในสิ่งที่เขาไว้วางใจ”

 

"จุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์"ใช้ศรัทธา สร้างคุณค่าความเป็นครู

 


          นางกันยา เจริญถ้อย ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนวัดไม้ตราสมาชิการาม กล่าวว่า “หลังจากได้เข้ามารับตำแหน่งที่นี่เป็นเวลา 10 เดือน และได้มาเห็นการจัดการเรียนการสอนของครูจุฬาลักษณ์ ทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเด็กทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ได้เห็นพัฒนาการของเด็กในการที่จะก้าวเป็นเด็กนักเรียนที่สมบูรณ์ ซึ่งการสอนของครูจุฬาลักษณ์ได้ถอดการพัฒนาเด็กปฐมวัยมาอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ขอบคุณทางมูลนิธิฯ ที่เล็งเห็นความสำคัญของครูที่มุ่งมั่นทุ่มเท และทาง ผอ.เองก็การันตีความสามารถของครูว่าเป็นบุคคลที่ทำงานยอดเยี่ยม สมควรที่จะได้รับรางวัลนี้ แม้ว่าอีก 7 เดือนจะเกษียณ แต่ท่านได้ทิ้งผลงานให้แก่ครูเด็กๆ มากมายเพื่อให้เดินตามแนวหลักสูตรต่อไป”
 

 

"จุฬาลักษณ์ พงษ์สังข์"ใช้ศรัทธา สร้างคุณค่าความเป็นครู

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ