Lifestyle

วชช.หนุนทุนนวัตกรรมอาชีพชั้นสูงสร้างผลตอบแทนคืน10,000ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วชช.หนุนทุนนวัตกรรมอาชีพชั้นสูงสร้างผลตอบแทนคืน10,000ล้าน : รายงาน  โดย...  ชุลีพร อร่ามเนตร [email protected] -




   
          โจทย์สำคัญของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) คือทำอย่างไรที่จะเพิ่มคุณภาพการศึกษาและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยมุ่งไปที่เด็กและเยาวชนจากครอบครัวรายได้ต่ำสุด 20% แรกของประเทศ จำนวนประมาณ 160,000 คนต่อรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ก้นบึ้งของสังคมไทย ให้มีโอกาสศึกษาต่อเต็มศักยภาพ ผลตอบแทนของโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพขั้นสูง จากนักเรียนผู้รับทุน 2,500 ทุน ในปีแรก จากข้อสมมุติฐานว่าผู้รับทุนทุกคนทำงานหลังจบการศึกษาจนถึงเกษียณอายุ 60 ปี จะคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value : NPV) ประมาณ 10,000 ล้านบาท หรืออัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR หรือ Internal Rate of Return) อยู่ที่ร้อยละ10

 

 

          เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม นายชุมพล พรประภา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันวิทยาลัยชุมชน (วชช.) เปิดเผยในการประชุมของผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชน 20 แห่งว่า ที่ผ่านมาสถาบันวิทยาลัยชุมชนได้พัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน

 

 

 

วชช.หนุนทุนนวัตกรรมอาชีพชั้นสูงสร้างผลตอบแทนคืน10,000ล้าน

 


          โดยเน้นหลักสูตรซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของท้องถิ่นและตลาดแรงงาน 4.0 ควบคู่กันไปด้วย จุดเด่นของวิทยาลัยชุมชนคือ เข้าถึงความต้องการชุมชน อีกทั้งกรรมการสภาของแต่ละสถาบันมีทั้งผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หอการค้าจังหวัด ภาคเอกชน ทำให้เราสามารถจับจุดได้ว่าโจทย์ที่ท้องถิ่นต้องการให้พัฒนาคือเรื่องใดบ้าง โดยในแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกันไป 


          ล่าสุดได้เชิญกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มาร่วมประชุมและบรรยายให้แก่ผู้บริหารวิทยาลัยชุมชนทั้ง 20 แห่งทั่วประเทศเกี่ยวกับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ซึ่งเป็นทุนสนับสนุนที่มีลักษณะการทำงานแบบร่วมพัฒนา ยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน เน้นให้สถาบันทำงานกับภาคเอกชนในการพัฒนาคุณภาพนักศึกษาให้มีทักษะ ความพร้อม ตามความต้องการของตลาดแรงงาน

 

 

 

 

วชช.หนุนทุนนวัตกรรมอาชีพชั้นสูงสร้างผลตอบแทนคืน10,000ล้าน

 


          “กสศ.คิดค้นลงทุนได้ถูกจุด เน้นกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำที่สุด จะได้มีโอกาสศึกษาต่อระดับสูงขึ้น และยังพัฒนาคุณภาพสถาบันสายอาชีพควบคู่ไปด้วย เป็นมิติใหม่ของการให้ทุนสนับสนุนที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน ตอบโจทย์ชุมชนท้องถิ่นและโจทย์ประเทศ ทั้งยังดูแลผู้รับทุนต่อเนื่อง สอดคล้องภารกิจและการทำงานของวิทยาลัยชุมชน และช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของประเทศในระยะยาว เท่าที่ดูคาดว่ามีวิทยาลัยชุมชนไม่ต่ำกว่า 4 แห่งที่มีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ และร่วมเสนอโครงการเพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาวิทยาลัยชุมชน ให้เป็นสถาบันนวัตกรรมชั้นสูงในปีแรก ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ฝีมือของผู้บริหารวิทยาลัยชุมชนที่สะท้อนการทำงานเพื่อปฏิรูปคุณภาพสถาบันอย่างแท้จริง” ดร.ชุมพล กล่าว

 

 

วชช.หนุนทุนนวัตกรรมอาชีพชั้นสูงสร้างผลตอบแทนคืน10,000ล้าน

ชุมพล พรประภา

 


          ด้าน นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า โจทย์สำคัญของ กสศ.คือ ทำอย่างไรที่จะเพิ่มคุณภาพการศึกษาและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยมุ่งไปที่เด็กและเยาวชนจากครอบครัวรายได้ต่ำสุด 20% แรกของประเทศ จำนวนประมาณ 160,000 คนต่อรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ก้นบึ้งของสังคมไทย ให้มีโอกาสศึกษาต่อเต็มศักยภาพ 


          กสศ.คิดค้นโครงการที่เป็นนวัตกรรมรวมถึงการสร้างต้นแบบเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนของประเทศ แม้ว่าจะเป็นงบประมาณผูกพันที่ต้องสะสมเพิ่มขึ้นทุกปีจนถึงปีที่ห้าเมื่อรุ่นแรกจบการศึกษา จากนั้นงบประมาณก็จะไม่เพิ่มขึ้นในลักษณะสะสม กสศ.ได้คำนวณผลตอบแทนของโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพขั้นสูง จากนักเรียนผู้รับทุน 2,500 ทุน ในปีแรก จากข้อสมมุติฐานว่าผู้รับทุนทุกคนทำงานหลังจบการศึกษาจนถึงเกษียณอายุ 60 ปี จะคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value : NPV) ประมาณ 10,000 ล้านบาท หรืออัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR หรือ Internal Rate of Return) อยู่ที่ร้อยละ 10


          “โครงการนี้จะช่วยให้เกิดผลประโยชน์ใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.สร้างโอกาสให้นักเรียนยากจนราว 2,500 คน นักเรียนกลุ่มนี้แทบจะไม่เคยมีโอกาสได้เรียนสูงกว่ามัธยมปลาย ได้เรียนต่อสายวิชาชีพ 2.สถาบันวิชาชีพมีการปรับตัว ขณะนี้หลายแห่งกำลังพัฒนาแผนงานแนวใหม่เจาะจงสาขาที่จบแล้วมีอนาคต รวมถึงแผนงานที่จะดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิด 3.ตอบโจทย์ประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะเริ่มทำงานกันทันทีตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 นี้ ซึ่งวิทยาลัยชุมชนเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของโครงการ ที่สามารถพัฒนาสู่การเป็นสถาบันนวัตกรรมชั้นสูง ช่วยสร้างกำลังแรงงานสายอาชีพที่จะเป็นกำลังคนคุณภาพของประเทศได้" นพ.สุภกร กล่าว

 

วชช.หนุนทุนนวัตกรรมอาชีพชั้นสูงสร้างผลตอบแทนคืน10,000ล้าน

 


          ด้าน นายวิชัย ชวนรักษาสัตย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนพิจิตร กล่าวว่า ปัจจุบัน วชช.พิจิตร จัดการสอนระดับ ปวช. ปวส. และอนุปริญญา ปีการศึกษา 2561 มีนักศึกษา 1,600 คน ตั้งอยู่ในพื้นที่รอยต่อติดกับ 3 จังหวัด คือ พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร เด็กส่วนใหญ่จึงเป็นเด็กพื้นที่ชายขอบมีฐานะยากจน บางรายก็ต้องย้ายถิ่นฐานตามพ่อแม่ไปทำงานที่อื่น ซึ่งหากมีการสนับสนุนทุนนวัตกรรมการสายอาชีพชั้นสูงเข้ามาก็จะช่วยให้นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้เข้าถึงการศึกษามากขึ้น


          ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้วิทยาลัยยกระดับหลักสูตรการเรียนการสอนด้วย โดยเฉพาะ วชช.พิจิตร สนใจที่จะร่วมนำเสนอโครงการ เพราะเราเน้นการจัดการศึกษาเรื่อง “นวัตกรรมพลังงานทดแทนเพื่อชุมชน” ของสาขาช่างไฟฟ้า ช่างยนต์ และยังมีการพัฒนาความร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดการศึกษาแบบทวิภาคี เช่น บริษัท มิตซูบิชิ สาขาช่างแอร์, บริษัทโซนี่ เกี่ยวกับเทคโนโลยีกล้องดิจิทัล โทรศัพท์มือถือ รวมถึงเรื่องระบบไฮโดรลิกและพลังงานทดแทน เป็นต้น


          ทั้งนี้วิทยาลัยชุมชนที่ได้รับการคัดเลือก จะประกาศรับนักศึกษาโดยจัดให้มีการแนะแนวที่โรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และ ปวช.3 ที่กำลังจะจบการศึกษาราวเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคมนี้

 

 

วชช.หนุนทุนนวัตกรรมอาชีพชั้นสูงสร้างผลตอบแทนคืน10,000ล้าน

นพ.สุภกร บัวสาย


          สำหรับ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” จะสนับสนุนงบประมาณผ่านสถาบันการศึกษาสายอาชีพประกอบด้วย ทุนสำหรับพัฒนาสถาบันการศึกษาที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกตามคุณภาพ ประมาณ 50 แห่ง ซึ่งต้องพัฒนาหลักสูตรที่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักของประเทศ สายอาชีพที่กำลังขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงานในท้องถิ่นหรือจังหวัด รวมถึงสายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และทุนการศึกษาแก่นักศึกษาจำนวน 2,500 ทุนต่อปีที่ผ่านการคัดเลือกโดยสถาบันการศึกษา โดยเปิดกว้างให้สถาบันการศึกษาที่จัดการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรืออนุปริญญาสายอาชีพจากทุกสังกัด ทั้งนี้กำหนดรับข้อเสนอโครงการตั้งแต่วันที่ 15-28 ธันวาคม 2561 สามารถติดตามข่าวสารที่ www.EEF.or.th หรือสายด่วนโทร.0-2079-5475 กด 2 ในวันและเวลาราชการ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ