Lifestyle

จับตาสอบวินัยร้ายแรงซี11"มวย(ไม่)ล้ม"อควาเรียมสงขลา ??

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับตาสอบวินัยร้ายแรงซี11"มวย(ไม่)ล้ม"อควาเรียมสงขลา ?? : รายงาน  โดย...  คุณภาพชีวิต [email protected] 


          เรื่องนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วและไม่มีมวยล้มอย่างที่หลายฝ่ายกล่าวหา -นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

          วันนี้ (18  ก.ย.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) จะส่งหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรืออควาเรียม ทะเลสาบสงขลา วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จ.สงขลา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พร้อมกับตั้งหน่วยงานคดีพิเศษในศธ. สังกัดสำนักนิติการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยเพิ่มนิติกร 8 คน เพื่อตรวจสอบความโปร่งใสในการดำเนินโครงการต่างๆ ในศธ.
      

          และวันนี้เช่นเดียวกันที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จะมีการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการบริหารจัดการและปรับปรุงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา (อควาเรียม) ณ ศาลากลางจังหวัดสงขลา
  
          โดยมี สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และผู้ว่าฯ สงขลา เป็นผู้แถลงข่าวพร้อมเปิดให้เยี่ยมชมโครงการปรับปรุงการก่อสร้างศูนย์ดังกล่าวด้วย

          โครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรืออควาเรียม รูปหอยสังข์พันปีนี้ วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จ.สงขลาสำนักงานกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2554 ในวงเงินประมาณ 839 ล้านบาท 11 ปีผ่านไปยังไม่แล้วเสร็จใช้งบประมาณก่อสร้างไปแล้วไม่น้อยกว่า 1,400 ล้านบาท 
    
          อควาเรียมแห่งนี้เริ่มต้นขึ้นในสมัยที่ วีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ  เป็น ผอ.วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ เมื่อปี 2536-2537   ซึ่งต่อมาคือเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ช่วง 1 ตุลาคม 2546 ถึง 30 กันยายน 2551  
       
          อควาเรียม สงขลา มีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีอธิบดีกรมการประมงในสมัยนั้นเป็นประธานกำหนดสเปกงบประมาณก่อสร้างผูกพัน 4 ปี จำนวนเงิน 839 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จเต็มตามโครงการในปี 2554 ต้องจ่ายล่วงหน้าผู้รับเหมา 125 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2551 มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เฉพาะกิจ ให้จ่ายเงินล่วงหน้าได้ 15% เพื่อให้คู่สัญญา หรือผู้รับจ้าง ทำงานได้คล่องตัวในการก่อสร้าง

          นัยว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงพันธุ์พืชและสัตว์น้ำ ห้องแสดงนิทรรศการ ห้องประชุม ห้องปฏิบัติการต่างๆ ห้องเก็บและเตรียมอาหารสัตว์ ฟื้นฟูระบบนิเวศทางธรรมชาติ การทำวิจัยรวบรวมและลำเลียงตัวอย่างสัตว์น้ำ เป็นต้น 
   
          ผ่านไปกว่า 10 ปี อควาเรียมแห่งนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ เพราะมีการแก้ไขสัญญาการก่อสร้างกันถึง 6 ครั้ง ผ่าน “เลขาธิการ กอศ.” ถึง 3 คนเริ่มจาก “พรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา”  เป็นเลขาธิการ กอศ. ปี 2552-2553  ใน 7 เดือนมีการแก้ไขสัญญาก่อสร้าง 1 ครั้ง ในช่วงงวดงานที่ 2
    
          ต่อมา "พรหมสวัสดิ์" ถูกย้ายให้ไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น “ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์” ก็เข้ามารับตำแหน่ง “เลขาธิการ กอศ.” จากนั้นก็ย้ายไปที่สภาการศึกษา และ "ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์“  มารับตำแหน่งแทน ปัจจุบัน “ชัยพฤกษ์”  เป็นเลขาธิการสภาการศึกษา และ “สุเทพ ชิตยวงษ์” เป็นเลขาธิการกอศ.คนปัจจุบัน

          สำหรับ ชัยพฤกษ์ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ระหว่าง 2555-2559 พบว่ามีการแก้ไขแบบก่อสร้างสมัยชัยพฤกษ์สูงสุด 4 ครั้ง และ 2 อดีตเลขาฯ กอศ.ก่อนหน้านั้นคนละครั้ง

          อย่างไรก็ตาม รมว.ศึกษาธิการ สั่งการให้คณะกรรมการไปตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจนและให้เกิดความยุติธรรม โดยในชั้นนี้ยังไม่ได้ระบุว่าใครผิดใครถูกแต่อย่างใด 
   
          “กลุ่มที่โดนตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนั้นคงจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา (สอศ.) ระดับ 11 ที่เป็นอดีตเลขาธิการกอศ.รวมถึงตำแหน่งผู้บริหารในสอศ.ที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันด้วย คิดว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่และมีอำนาจเข้าไปเกี่ยวข้องทรงอิทธิพลในเรื่องนี้ผมก็ต้องย้ายออกไปก่อน ซึ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการ ผมไม่กลั่นแกล้งใคร และให้ความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย เรื่องนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วและไม่มีมวยล้มอย่างที่หลายฝ่ายกล่าวหา” รมว.ศธ.กล่าว
     
          จับตาดูว่าวันนี้ที่นายสุเทพ  เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และผู้ว่าฯ สงขลา  จะประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนิน
ก่อสร้างควาเรียม สงขลา จะเป็นอย่างไร มหากาพย์ควาเรียมสงขลาผ่านมา 10 ปีแล้ว จะจบลงอย่างไร ต้องติดตาม 

          คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ได้ดำเนินการ 7 ข้อดังนี้
          1.ตรวจสอบว่าการก่อสร้างศูนย์การศึกษาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลาได้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา และการก่อสร้างได้ถูกต้องตามรูปแบบและรายละเอียดที่กำหนดในสัญญาหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่าการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา หรือไม่เป็นไปตามรูปแบบของสัญญาให้ตรวจสอบว่าเป็นเพราะเหตุใด

          2.ตรวจสอบว่าการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญา การขยายระยะเวลาก่อสร้างในสัญญา และการทำสัญญาการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกหลายฉบับ เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่

          3.ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งพยานเอกสาร พยานวัตถุและพยานบุคคลรวมทั้งมีอำนาจในการเชิญหรือเรียกบุคคลทั้งที่เป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลทั่วไป ที่คณะกรรมการเห็นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อสร้าง หรือพิจารณาว่าเป็นบุคคลที่อาจให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ มาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการเพื่อประโยชน์แก่การดำเนินการ

          4.หากตรวจสอบพบว่าการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญารวมทั้งการก่อสร้างไม่เป็นไปตามรูปแบบและรายละเอียดที่กำหนดไว้ในสัญญา ให้ตรวจสอบว่าได้มีการทุจริตหรือการกระทำความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยในการดำเนินการก่อสร้างจนเป็นเหตุให้การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ และไม่เป็นไปตามรูปแบบ และรายละเอียดที่กำหนดในสัญญาหรือไม่

          5.หากตรวจสอบพบว่ามีการทุจริต หรือมีการกระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นความผิดทางอาญา หรือความผิดทางวินัย ให้พิจารณามีความเห็นว่ามีบุคคลใดบ้างที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ทั้งที่เป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงบุคคลที่เคยเป็นข้าราขการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกษียณอายุราชการ หรือพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ราชการไปแล้ว และรวมทั้งบุคคลทั่วไปที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวด้วย

          6.ดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสงขลาตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมอบหมาย

          7.จัดทำรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อ 1-6 โดยมีเหตุผลการพิจารณาของคณะกรรมการและรายละเอียดการตรวจสอบข้อเท็จจริง เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ