Lifestyle

"บิ๊กอู๋"ย้ำศูนย์ OSS เปิด23 เม.ย.-30มิ.ย.นี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กอู๋"เผยศูนย์ OSS เปิด23 เม.ย.-30มิ.ย.นี้ เฉพาะกทม.4 ศูนย์ย้ำ! จนท.ศูนย์ OSS ยึดหลักปชช.เป็นศูนย์กลาง-มีธรรมาภิบาล มั่นใจ เสร็จทัน 30 มิ.ย.นี้

 

        นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS)

 

          ยึดหลักประชาชนเป็นศูนย์กลาง และมีธรรมาภิบาล โดยให้บริการประชาชนให้ได้รับความสะดวก มั่นใจ มีความชัดเจน โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และมีความรับผิดชอบ

         
         โดยศูนย์ OSS จะให้บริการจัดทำทะเบียนประวัติ ตรวจลงตรา (วีซ่า) และอนุญาตทำงาน ระยะ 2 แก่แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา กลุ่มที่ได้ยื่นเรื่องขอจัดทำ/ปรับปรุงทะเบียนประวัติกับกรมการจัดหางานใน OSS สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด และยื่นเอกสารผ่านระบบออนไลน์ทางเว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2561

 

          ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนแรงงานต่างด้าวต้องดำเนินการดังกล่าวทั้งสิ้น 479,299 คน แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 158,011 คน ต่างจังหวัด 321,288 คน โดยเป็นกลุ่มพิสูจน์สัญชาติแล้ว จำนวน 300,072 คน เป็นกรุงเทพฯ 120,692 คน ต่างจังหวัด 179,380 คน และ กลุ่มยังไม่พิสูจน์สัญชาติ จำนวน 179,227 คน เป็นกรุงเทพฯ 37,319 คน ต่างจังหวัด 141,908 คน

         

         ทั้งนี้ ศูนย์ OSS กำหนดเปิด 80 แห่ง พร้อมกันทั่วประเทศ 23 เมษายน 2561 ถึง 30 มิถุนายน 2561 ในกรุงเทพมหานครมี 4 ศูนย์ ได้แก่ 1. ศูนย์ OSS กระทรวงแรงงาน ถ.มิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง 2. ศูนย์ OSS ฮอลแลนด์ ปาร์ค เลขที่ 10/4 ถ.กัลปพฤกษ์ แขวงบางแค เขตบางแค 3. ศูนย์ OSS ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง สาขาธนบุรี 259 ถ.สิรินธร แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด 4. อาคารวิทยาลัยพยาบาล ชั้น 1 โรงพยาบาลสิรินธร เลขที่ 20 ซอยอ่อนนุช 90 แขวงประเวศ เขตประเวศ ขณะที่ต่างจังหวัดมีจำนวน 76 แห่ง ซึ่งแต่ละศูนย์จะให้บริการได้ 1,000 คนต่อวัน และมั่นใจแล้วเสร็จทันวันที่ 30 มิถุนายน 2561 นี้แน่นอน

 

 

        สำหรับเอกสารที่ใช้คือ 1. แรงงานต่างด้าวพิสูจน์สัญชาติแล้ว แบ่งเป็น 1) กลุ่มที่ดำเนินการไม่ครบตามขั้นตอนของ OSS เอกสารหลักฐานที่ใช้ ได้แก่ แบบทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าว (ทบ.1) และแบบคำขอจดทะเบียนและขอมีบัตรประจำตัว ขอตรวจลงตรา การประทับตราอนุญาต/ ขออยู่ต่อในราชอาณาจักร และการขออนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว (ทต.1) หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง (PP/CI/TD) พร้อมสำเนา ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จรับเงิน เอกสารของนายจ้าง ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนายจ้าง/สำเนาทะเบียนบ้านของนายจ้าง/สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท เป็นต้น

 

 

"บิ๊กอู๋"ย้ำศูนย์ OSS เปิด23 เม.ย.-30มิ.ย.นี้ นายอนุรักษ์  ทศรัตน์

 

       2) กลุ่มที่ยื่นผ่านระบบออนไลน์ เอกสารที่ใช้ได้แก่ แบบ ทบ.1 และ แบบ ทต.1 หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง (PP/CI/TD) พร้อมสำเนา สำเนาใบอนุญาตทำงานหรือใบแทนอนุญาตทำงานที่หมดอายุวันที่ 31 มีนาคม 2561 หรือวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ใบรับรองแพทย์ เอกสารของนายจ้าง ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนายจ้าง/สำเนาทะเบียนบ้านของนายจ้าง/ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท เป็นต้น

 

        3) กลุ่มที่ยื่นเอกสาร ณ ศูนย์ OSS/ สจก. 1-10 /สจจ. เอกสารที่ใช้ ได้แก่ แบบ ทบ.1 และ แบบ ทต.1 หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง (PP/CI/TD) พร้อมสำเนา สำเนาใบอนุญาตทำงานหรือใบแทนใบอนุญาตทำงานที่หมดอายุวันที่ 31 มีนาคม 2561 หรือ 30 มิถุนายน 2561 ใบรับรองแพทย์ เอกสารของนายจ้าง ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนายจ้าง/ สำเนาทะเบียนบ้านของนายจ้าง/ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท เป็นต้น

   

       มีค่าใช้จ่ายในการจัดทำทะเบียนประวัติฯ ณ ศูนย์ OSS จำนวน 6,180 บาท แบ่งเป็น 1. ค่าตรวจสุขภาพ 500 บาท และค่าประกันสุขภาพ 3,200 บาท (กระทรวงสาธารณสุข) 2. ค่าธรรมเนียมตรวจลงตรา 500 บาท (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) 3. ค่าคำขออนุญาตทำงาน 100 บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน 2 ปี 1,800 บาท รวม 1,900 บาท (กรมการจัดหางาน) 4. ค่าธรรมเนียมการขอมีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่สัญชาติไทย 80 บาท (กรมการปกครอง)

 

"บิ๊กอู๋"ย้ำศูนย์ OSS เปิด23 เม.ย.-30มิ.ย.นี้

        นายอนุรักษ์ กล่าวย้ำว่า ขอให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวมาดำเนินการที่ศูนย์ OSS ตามวัน เวลากำหนดที่ได้แจ้งไว้ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถดำเนินการตามคิวที่กำหนดได้ ขอให้รีบแจ้งกระทรวงแรงงานโดยด่วน

 

 

"บิ๊กอู๋"ย้ำศูนย์ OSS เปิด23 เม.ย.-30มิ.ย.นี้

 

         ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือโทร.สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506

---**----

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ