Lifestyle

“คุรุสภา”เล็งตั้งกก.สืบข้อเท็จจริง“ครูปรีชา”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สมศักดิ์” ชี้กรณีครูปรีชา หากตรวจสอบพบเข้าข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณ ใช้อำนาจเลขาธิการคุรุสภา ตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงแน่นอน แต่จะดูข้อมูลในวันที่ 2 มี.ค..นี้

 

          หลังจากเจ้าหน้าที่กองปราบเข้าควบคุมตัว นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ที่โรงเรียนหลังเสร็จสิ้นการสอน ตามที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับเมื่อช่วงเช้า (28 ก.พ.2561) ที่ผ่านมา ซึ่งอนุมัติหมายจับนายปรีชา ใคร่ครวญ และ นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ รวมทั้งสิ้น 3 ข้อหา ประกอบไปด้วย 1.แจ้งความเท็จ 2.ให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวนทำให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา และ3.ความผิดอื่นๆ หลังปรากฏข้อมูลหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดข้างต้น พร้อมกันนั้นยังได้ออกหมายค้นเพิ่มเติม

          นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ขณะนี้ศาลยังไม่ได้มีการตัดสินจึงถือว่า ครูปรีชา ยังไม่มีโทษ แต่จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นปรากฏเป็นข่าวและสังคมจับตาวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสื่อมเสียของวิชาชีพ

           นายสมศักดิ์  กล่าวอีกว่า ดังนั้น ในวันที่ 2 มี.ค.นี้จะหารือกับเจ้าหน้าที่คุรุสภา เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆที่ครูปรีชาถูกกล่าวหานั้น อยู่ในข่ายการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพครูหรือไม่ หากพบว่าอยู่ในข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณ ตาม พ.ร.บ.ครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 ก็จะใช้อำนาจเลขาธิการคุรุสภาตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ การดำเนินการต่างของคุรุสภาจะยึดตามกฎหมายเป็นสำคัญ จะไม่ดำเนินการตามกระแส แต่ก็ไม่ได้นิ่งเฉจดตีนอน 

          “ตามขั้นตอนปกติ ถ้าครูหรือบุคลากรทางการศึกษาได้รับการกล่าวหา กล่าวโทษ ว่า ทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ เลขาธิการคุรุสภา จะต้องรายงานต่อคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) แต่ขณะนี้ไม่มี กมว.จึงเป็นอำนาจของเลขาธิการ ในการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง และรายงานต่อคณะกรรมการคุรุสภา ซึ่งถ้าทำผิดจรรยาบรรณจริงก็มีโทษ ตั้งแต่การตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาต แต่ในกรณีที่ถูกกล่าวหาอย่างนี้ ถ้าคดียังไม่สิ้นสุดเราก็ต้องให้ความเป็นธรรม"นายสมศักดิ์ กล่าว 

         นายสมศักดิ์  กล่าวอีกว่า ดังนั้น คุรุสภาจะไม่ทำอะไรตามกระแส แต่ยึดกฎหมายเป็นหลักและต้องเข้าใจว่าคดีไม่ได้สิ้นสุดที่ตำรวจ คดีสิ้นสุดที่ศาลตัดสิน และต้องแยกแยะระหว่างจรรยาบรรณ กับเรื่องวินัย และคดีอาญาไม่เกี่ยวกัน แต่อาจเชื่อมความผิดตรงกันได้ ซึ่งกรณีนี้กรรมการสืบข้อเท็จจริงอาจจะสืบข้อมูลร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ หากหน่วยงานต้นสังกัดของครูปรีชา ตั้งกรรมการสอบวินัย คุรุสภาก็จะไปทำงานคู่กัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงกัน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ