Lifestyle

โพลชี้เด็กไทยท่องคำขวัญวันเด็กของ"ลุงตู่" ได้!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วธ.เผยโพล“วันเด็ก" ร้อยละ 62.54 ท่องคำขวัญนายกฯได้ ชี้เด็กอยากให้แก้ปัญหาละเมิดทางเพศ-สารเสพติด-ปฏิรูปการศึกษา ระบุ "หมอ-ครู-ทหาร" อาชีพในฝันของเด็ก

       นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชน หัวข้อ “วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561” ซึ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2561จากกลุ่มตัวอย่าง 1,388 คน ทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พบว่า เด็กและเยาวชน ร้อยละ 62.54 ทราบว่าคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2561 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือ “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี”

       นอกจากนี้ ได้สอบถามเด็กและเยาวชน ให้แสดงความคิดเห็นต่อคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2561 พบว่า ร้อยละ 65.71 เด็กไทย ควรมีความคิดเป็นระบบสามารถใช้สื่อเทคโนโลยีได้อย่างสร้างสรรค์ รองลงมา ร้อยละ 32.52 รู้ทันความคิดของตนเองและคนอื่นตลอดจนรู้ถึงเหตุการณ์และความเป็นไปของชีวิต และร้อยละ 31.76 เป็นการคิดโดยมีเหตุผลเกิดจากกระบวนการทางสติปัญญา เป็นต้น

       ทั้งนี้ ยังสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่จะได้ในการเข้าร่วมกิจกรรมวันเด็ก พบว่า ร้อยละ 53.93 ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีความคิดสร้างสรรค์ รองลงมา ร้อยละ 51.55 ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ร้อยละ 50.97 ได้ประสบการณ์และการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและร้อยละ 44.20 ได้ความภาคภูมิใจในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

      นายวีระ กล่าวอีกว่า ได้สอบถามถึงของขวัญวันเด็กในปี 2561 ที่เด็กต้องการมากที่สุดจากรัฐบาล คือ ทุนการศึกษา รองลงมา อุปกรณ์การศึกษาและลดการบ้านให้น้อยลง ทั้งนี้ได้สอบถามความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับอาชีพในฝันเมื่อโตขึ้นนักเรียนอยากเป็นอะไร พบว่า อันดับ 1 เด็กและเยาวชนอยากเป็น หมอ/แพทย์/พยาบาล อันดับ 2 ครู อันดับ 3 ทหาร อันดับ 4 นักธุรกิจ อันดับ 5 นักกีฬา อันดับ 6 ตำรวจ อันดับ 7 ดารา/นักแสดง อันดับ 8นักบิน อันดับ 9 แอร์โฮสเตส อันดับ 10 วิศวกร อันดับ 11 สถาปนิก อันดับ 12 นักการตลาด อันดับ 13 เน็ตไอดอล อันดับ 14 ขายสินค้าออนไลน์

      นอกจากนี้ เมื่อสำรวจความเห็นเกี่ยวกับประโยชน์การใช้โซเซียลมีเดียและสื่อในยุคปัจจุบัน พบว่า ร้อยละ 53.50ใช้ในการสื่อสารข้อมูล ค้นหาข้อมูลทำรายงาน ความบันเทิง สร้างสรรค์งานและได้ทราบความเคลื่อนไหวของบุคคลต่างๆ โดยเด็กและเยาวชนร้อยละ65.16คิดว่า เฟซบุ๊ก คือโซเชียลมีเดียที่มีผลกระทบต่อเยาวชนมากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 18.52 อินสตาแกรม ร้อยละ 9.75 ไลน์ และร้อยละ6.57 ทวิตเตอร์

       นายวีระ กล่าวด้วยว่า ผลสำรวจสอบถามถึงมุมมองของเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลควรหาแนวทางป้องกัน ช่วยเหลือ และแก้ไขเพื่อประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ประกอบด้วย 5 อันดับแรก คือ การละเมิดทางเพศ สารเสพติด ปฏิรูประบบการศึกษา ปัญหาเด็กติดเกม และคุณแม่วัยใสตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ส่วนนโยบายที่รัฐบาลควรมีเพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เตรียมความพร้อมสู่ ประเทศไทย 4.0 คือ ขอให้ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ การใช้ภาษา แลกเปลี่ยนภาษาต่างประเทศ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาทำกิจกรรม ปฏิรูปการศึกษาให้เทียบเท่าต่างประเทศ ปลูกฝังค่านิยมที่ดีรวมถึงส่งเสริมการศึกษาทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตามลำดับ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ