เปลี่ยนหลักสูตร อุปกรณ์การเรียนให้ทันสมัย เปลี่ยนการสอนเป็นการเรียนรู้ สร้างโอกาสและเครือข่าย จุดเปลี่ยน 4 ข้อ ทำแล้ว นศ. ไม่ตกงาน
การจัดสรรกำลังพลตลาดงานยุคใหม่ กำลังเคลื่อนย้ายไปสู่งานอาชีพในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีใหม่และสื่อดิจิทัล จึงมีหลายอาชีพในยุคนี้ที่คนรุ่นพ่อแม่อาจไม่เคยได้ยินมาก่อน นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่นำพาอนาคตใหม่มาให้คนรุ่นลูก และอนาคตที่ว่าก็กำลังจู่โจมมาถึงอย่างรวดเร็ว
คนรุ่นใหม่ต่อจากเจนวาย คือคนที่อยู่ในวัยกำลังศึกษาหาความรู้ พวกเขาคือมวลชนที่จะเติบโตขึ้นด้วยแรงปะทะของอนาคตที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กระบวนการเรียนรู้เพื่อเสริมศักยภาพทางปัญญาและนำไปใช้เป็นพลังและอาวุธสำหรับการดำรงชีวิตในภายภาคหน้าจำต้องเปลี่ยนไปนับแต่วันนี้
ทว่า เมื่อมองในภาพรวมของการศึกษาไทยภายใต้สภาพแวดล้อมใหม่ที่เปลี่ยนไปทุกวี่วัน การบ่มเพาะบัณฑิตใหม่จากมหาวิทยาลัยกลับยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย
ธีรศักดิ์ สงวนมานะศักดิ์
ธีรศักดิ์ สงวนมานะศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายมหาวิทยาลัยสัมพันธ์และสรรหาว่าจ้าง ประจำภูมิภาคเอเชีย บริษัท เวสเทิร์นดิจิตอล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทุกปี จะมีบัณฑิตจบใหม่ มากกว่าหลายแสนคนและกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนที่จบออกมากลายเป็น “คนว่างงาน” เพราะความรู้ที่เรียนมาไม่ตรงกับความต้องการของตลาด สาเหตุมาจากนักศึกษาหาความต้องการของตนเองไม่พบ และบางคนก็เรียนโดยไม่มีเป้าหมายแค่ขอให้จบปริญญา
ในขณะที่ตลาดงานยุคปัจจุบัน ต้องการคนที่มีความชำนาญการในสายงาน บวกกับทักษะ soft skill มากขึ้น เช่น ทักษะด้านภาษา การแก้ปัญหาเป็นระบบ ทำงานเป็นทีม การมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นต้น
อาจารย์เพชร โอสถานุเคราะห์
ด้านอาจารย์เพชร โอสถานุเคราะห์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า ระบบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของไทยเป็นระดับการศึกษาขั้นสูงในชั้นแรกก่อนจะเริ่มต้นชีวิตการทำงาน โดยมีกรอบความคิดสองเรื่องคือ
1. ต้องสอบเอ็นทรานซ์-แอดมิชชั่น เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยรัฐ และ 2.ค่านิยมที่มองว่าปริญญาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต เรียนอะไรก็ได้ให้จบปริญญา ยังครอบงำพ่อแม่ผู้ปกครองและส่งต่อกรอบคิดเช่นนั้นสู่คนรุ่นลูก ระบบการศึกษาของไทยจึงย่ำอยู่กับที่
“คนรุ่นใหม่ไม่จำเป็นต้องเดินตามรอยเท้าคนในอดีตในปัจจุบันมีทางเลือกให้เรียนรู้มากมายหลายรูปแบบ ถ้าปลดล็อกกรอบความคิดสองเรื่องที่กล่าวมาได้ ระบบการศึกษาไทยจะก้าวไปไกลกว่านี้” อาจารย์เพชร กล่าว
อาจารย์เพชร กล่าวต่อว่า การที่จะเรียนมหาวิทยาลัยให้ทันยุคสมัย มี 4 ข้อที่มหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนอย่างจริงจังคือ
1.เปลี่ยนหลักสูตรให้มีความทันสมัย
2.เปลี่ยนอุปกรณ์การเรียนให้ทันสมัย เพื่อให้นักศึกษาฝึกใช้เครื่องมือต่างๆ อย่างชำนาญ เช่น การเรียนเพื่อเป็นนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น นักออกแบบเกม คอมพิวเตอร์ที่ใช้เรียนต้องทันสมัยและมีจำนวนพอกับนักศึกษา หรือเรียนสาขาการผลิตภาพยนตร์ ห้องเรียนของนักศึกษาก็คือโรงถ่ายสตูดิโอ ใช้กล้องระดับมืออาชีพ มีห้องตัดต่อดิจิทัลแลบ เป็นต้น
3.เปลี่ยนการสอนเป็นการเรียนรู้ พูดคุยระดมความคิด ถกเถียงกันมากกว่าให้ฝ่ายหนึ่งพูดอีกฝ่ายหนึ่งฟังไปเงียบๆ และจดจำ เปลี่ยนให้คณาจารย์ทำหน้าที่ “โค้ช” ชี้นำนักศึกษาเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจ สิ่งใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ใหม่จะเกิดขึ้นได้
4.สร้างโอกาสและเครือข่ายงาน โดยเน้นการเรียนผ่านการลงมือทำตั้งแต่เข้ามาเรียนปีหนึ่ง ซึ่งมหาวิทยาลัยต้องมี ecosystem ที่แข็งแกร่งมีพันธมิตรทางการศึกษาที่หลากหลายเพื่อมีส่วนสร้างเครือข่ายงาน สถานที่ฝึกและทำงานจริงให้นักศึกษา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง