รมช.ศึกษาธิการ มอบนโยบายอุดมศึกษาทปอ.เน้นตอบโจทย์ ไทยแลนด์ 4.0 แนะพัฒนาหลักสูตรผู้สูงอายุ บูรณาการคณะผลิตบัณฑิตมีความรู้หลายศาสตร์ ของบวิจัย1%ในปีงบฯ2562
เมื่อวันที่17 ธ.ค.ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ศ.นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการมอบนโยบายให้แก่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) ในการประชุมสามัญทปอ.และสมาคมทปอ.ครั้งที่ 6/2560 ว่าทปอ.เป็นหน่วยที่ใหญ่ของอุดมศึกษาไทยในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ ซึ่งได้มอบนโยบาย 4 ประเด็นใหญ่ๆ ดังนี้ 1.มหาวิทยาลัยต้องช่วยตอบโจทย์พัฒนาประเทศ โดยดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของชาติ และตอบโจทย์ไทยแลนด์4.0ดูแลศักยภาพของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะนักศึกษา หรือบุคลากรของมหาวิทยาลัย รวมถึงการเรียนการสอนต้องเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะอนาคตคนเรียนอาจจะไม่ต้องเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยโดยตรง
2. มหาวิทยาลัยต้องเปิดหลักสูตรผู้สูงอายุ เพิ่มศักยภาพของผู้สูงอายุ เพราะตอนนี้มีผู้สูงอายุ 25% และอนาคตจะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น มหาวิทยาลัยต้องปรับศักยภาพของตนเอง พัฒนาหลักสูตรผู้สูงอายุ และทุกหลักสูตรต้องมีระบบการดูแลผู้สูงอายุร่วมด้วย อีกทั้ง มหาวิทยาลัยต้องปรับปรุงหลักสูตรให้มีความหลากหลายและหลายศาสตร์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียน ให้เหมาะสมกับเด็กรุ่นใหม่ โดยการเรียนในห้องเรียน มหาวิทยาลัยอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ให้เท่าทันการใช้ชีวิตเด็กและ เทคโนโลยีต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป
3.การวิจัย ต้องมองถึงผลสัมฤทธิ์ของผู้ใช้ โดยเป็นงานวิจัยที่สามารถนำมาใช้ได้จริง มีองค์ความรู้ใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ ซึ่งในฐานะ รมช.ศึกษาธิการ จะดำเนินการผลักดันของบวิจัยให้ได้1% ของผลผลิตมวลรวมของประเทศ ในปีงบประมาณ 2562 เพื่อใช้กลไกของงบประมาณผลักดันงานวิจัย เพราะขณะนี้แม้งบวิจัยก้อนใหญ่จะอยู่ที่มหาวิทยาลัยแต่ภาพรวมยังกระจัดกระจาย และไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันการขอความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรม ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ เพราะการให้มหาวิทยาลัยเข้าไปดำเนินการสร้างความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมโดยตรง อาจจะไม่ได้สร้างความน่าเชื่อถือเท่าที่ควร ภาครัฐต้องเข้าไปช่วยสนับสนุนเพิ่มเติมในเรื่องนี้
และ4.มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งต้องแลกเปลี่ยนบุคลากรร่วมกัน และต้องมีการปรับตัว ปรับหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน โดยบูรณาการหลายศาสตร์เข้าด้วยกัน เพราะการเรียนในอนาคตจะสอนให้เด็กเก่งศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่ง คณะใดคณะหนึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ การเรียนการสอนต้องทำให้เด็กมีความเก่งครอบคลุมในหลายศาสตร์ เช่น เรียนคณะนิติศาสตร์ ก็ต้องมีความรู้ด้านรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เพื่อบูรณาการความรู้มาใช้ในการพัฒนาตนเองและประเทศชาติต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลง ในต่างประเทศมีหลายมหาวิทยาลัยกำลังปิดตัว มหาวิทยาลัยไทยก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง