คณะวิจัย มทร.พระนคร พัฒนา "BLUE Flame FC-Bike" รถจักรยานยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม มีความปลอดภัย ชี้อนาคตหากได้ร่วมผลิตชุดอุปกรณ์จะราคาถูกลง
ในอดีตและปัจจุบันมนุษย์ใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากน้ำมันเป็นหลัก ส่งผลให้พลังงานน้ำมันในปัจจุบันเริ่มลดน้อยลง จึงก่อให้เกิดผลกระทบต่อต้นทุนในส่วนของเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นในด้านการคมนาคม อีกทั้งน้ำมันยังก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมบนโลก ด้วยเหตุนี้ ดร.พสิษฐ์ สุวรรณภิงคาร และคณะนักวิจัยจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) ร่วมกันออกแบบรถจักรยานยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน “BLUE Flame FC-Bike” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความปลอดภัย
ดร.พสิษฐ์ สุวรรณภิงคาร กล่าวว่า พลังงานทดแทนนับเป็นการพัฒนาที่มีมานานโดยเฉพาะการผลิตก๊าซไฮโดรเจนด้วยไฟฟ้า พลังงานไฮโดรเจนถือเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกอีกประเภทที่เป็นส่วนหนึ่งในการลดมลภาวะโดยทำปฏิกิริยาร่วมกับออกซิเจน ซึ่งเมื่อลุกไหม้จนเป็นพลังงานแล้วจะเหลือเป็นน้ำดังนั้นรถที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนจึงไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นภาพของสังคมอนาคตจึงจำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานไฮโดรเจนเป็นหลัก
โดยหลักการทำงานของ “รถจักรยานยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน”คือนำไฮโดรเจนไปสร้างพลังงานไฟฟ้า และนำพลังงานไฟฟ้าไปขับเคลื่อนมอเตอร์ การใช้งานเพียงเติมน้ำประปา 3 ลิตร ลงในชุดอิเล็คโทรไลท์ (electrolytes) กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ภายในรถจักรยานยนต์จะเข้าไปในน้ำ โดยทำการกระตุ้นและแยกตัวของโครงสร้างพันธะระหว่างไฮโดรเจน (Hydrogen) และออกซิเจน (Oxygen) ที่เรียกว่ากระบวนการ Electrolysis จนเกิดแก๊สไฮโดรเจน จากนั้นก็จะไหลผ่านท่อแก๊สไปยังจุดต่างๆ ในระบบรถจักรยานยนต์
จากการทดลองวิ่งด้วยความเร็ว 50 กม./ชม. สามารถผลิตแก๊สไฮโดรเจนใช้งานได้ 20 นาที ประหยัดน้ำมันถึง 25 % และวัดเป็นระยะทางได้ถึง 100-150 กิโลเมตร ทั้งนี้หากเชื้อเพลิงหมดก็สามารถสลับมาใช้ระบบน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงปกติได้ โดยชุดอุปกรณ์อิเล็คโทรไลท์สามารถนำมาประยุกต์ติดตั้งกับรถจักรยานยนต์ประเภทออโตเมติก (AT) ขนาดเครื่อง 125 ซีซีทั่วไปตามท้องตลาด และมีระบบป้องกันแก๊สย้อนและประกายไฟเพื่อสร้างความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
อย่างไรก็ตาม ชุดอุปกรณ์ชิ้นนี้ยังเป็นตัวต้นแบบซึ่งมีราคาสูง ในอนาคตหากมีการร่วมทุนการผลิตกับหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนต่างๆ ก็จะทำให้ชุดอุปกรณ์ราคาถูกลง และจะพัฒนาเพิ่มเติมในด้านการใช้งานเพียงประชาชนนำชุดอุปกรณ์ไปเสียบต่อพ่วงกับแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ก็สามารถใช้งานได้ทันที
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ดร.พสิษฐ์ สุวรรณภิงคาร โทรศัพท์ 080-044-1915
ข่าวที่เกี่ยวข้อง