"ทิวัตถ์ กุลชนะภควัต" นักวิจัย มสด. คิดค้นเครื่องปรุงสมุนไพรตรา "ไทยเมด" เพิ่มมูลค่าตอบโจทย์ความต้องการตลาดทั้งในและต่างประเทศ คว้าเหรียญทองแดงจากเกาหลีใต้
ดร.ทิวัตถ์ กุลชนะภควัต อาจารย์ประจำหลักสูตรเทคโนโลยีเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโยลีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต (มสด.) กล่าวถึงงานวิจัยเครื่องปรุงตรา ไทยเมด ( Thai Made) ว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นการต่อยอดจากงานวิจัยเดิม ซึ่งวิจัยพบว่าสมุนไพรทุกชนิดนั้น มีสาระสำคัญที่พืชสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติที่เรียกว่า ไฟโตรนิวเตรีย (Phytonutrient Compound) ปริมาณสูงเป็นกลุ่มของสารที่สำคัญหลายอย่างมีประโยชน์ในการใช้เป็นยารักษาโรค เช่น ขมิ้น ที่มีคุณค่าในการรักษาโรคหลายชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.ทิวัตถ์ กุลชนะภควัต
ส่วนสมุนไพรอื่นๆ เช่น กระชาย พริกไทย และพริก ก็มีการนำมาใช้เพื่อรักษาโรคได้เช่นกัน และสมุนไพรในวัฒนธรรมไทย คือ เป็นเครื่องเทศในอาหารไทยที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ถือว่าเป็นวัตถุดิบชั้นดี จึงเห็นควรดำเนินการแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าและเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมเครื่องปรุงสมุนไพร เพราะตลาดในปัจจุบันมีความต้องการเป็นอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ
ดร.ทิวัตถ์ กล่าวต่อว่า การคัดเลือกแหล่งสมุนไพรต้องพิถีพิถัน เพื่อให้ได้คุณภาพของวัตถุดิบมากที่สุด อาทิ กระชาย (จ.นครปฐม), ขมิ้น (จ.ตาก), พริก (จ.สุพรรณบุรี), พริกไทย (จ.จันทบุรี) โดยเลือกกระบวนการที่ทำให้พืชสมุนไพรอยู่ในสภาพที่มีสารธรรมชาติคงเหลือมากที่สุด นั้นคือวิธี การอบสมุนไพรแบบดีไฮเดรชัน (Dehydration) มีการวิเคราะห์ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant Activity) วิเคราะห์ปริมาณแร่ธาตุ และหาคุณค่าทางโภชนาการวิเคราะห์โดยเครื่องอะตอมแบบซอพชัน จึงทำให้เครื่องปรุงจากเครื่องเทศและสมุนไพรไทย ถูกแปรรูปให้สามารถใช้สะดวก ลดเวลาที่ใช้ในการปรุง และรักษาคุณค่าสมุนไพรไว้ได้ครบถ้วน
โดยงานวิจัยชิ้นนี้ ได้นำเสนอในเวทีระดับนานาชาติ ในงาน“Seoul International Invention Fair 2017” ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน–3 ธันวาคม 2560 ณ ประเทศเกาหลีใต้ และคว้ารางวัลงานวิจัยนวัตกรรมใหม่เหรียญทองแดง มาครองได้สำเร็จ นับเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์อย่างมีเอกลักษณ์ เป็นการพัฒนาภูมิปัญญาของไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้น และเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ที่คำนึงถึงประโยชน์ในการรักษาโรคและการออกฤทธิ์ของสารทุติยภูมิในพืชสมุนไพรและคุณค่าทางอาหาร (Pharma Nutrition) มีศักยภาพสามารถนำไปขยายผลเชิงพาณิชย์ได้อย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง