Lifestyle

ทางออก!!แก้คำสั่งคสช.คืน “อำนาจ” ม.53

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับมือการันตีความสัมพันธ์ระหว่างผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ที่เวลานี้เคลียร์ใจกันได้เสียที..

       หลังเกิดความขัดแย้งในการทำงาน 2 ฝ่าย ด้วยเรื่องของ “อำนาจ” ตามมาตรา 53 (3) และ (4) แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ในข้อ 13 ตามคำสั่งหัวหน้าที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2560 ที่เวลานี้จะเสนอให้มีการแก้ไขคำสั่ง คสช.โอนอำนาจดังกล่าวกลับมาเป็นของ ผอ.สพท.ตามเดิม โดยลงนามตามมติคณะกรรมการการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)

ทางออก!!แก้คำสั่งคสช.คืน “อำนาจ” ม.53

ภาพจาก www.obec.go.th

       ว่ากันว่า คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 19/2560 ในข้อที่ 13 ที่ทำให้การทำงานหลายอย่างสะดุด.. ที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวเรียกร้องทั้งจากชมรมผอ.สพท. ขอให้ยกเลิกคำสั่งข้อที่ 13 และคืนอำนาจตามมาตรา 53 ที่โอนไปให้ ศธจ.กลับคืนมายัง สพท.เช่นเดิม ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ชมรมสมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด นำโดย นายบุญเลี้ยง ไขษรศักดิ์ นายกสมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด และนายพิทักษ์ บัวแสงใส ชมรมครูจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องและยื่นข้อเสนอเดียวกัน และได้เปิดเวทีประชุมคณะองค์กรครูในพื้นที่กว่า 40 องค์กร ในข้อ 13 เกี่ยวกับการแปรรูปการศึกษาส่วนภูมิภาคทำให้เกิดความขัดแย้งในการด้านการบริหารการศึกษาระหว่าง ศธจ.และทำงานเขตพื้นที่ที่ไม่สอดคล้องตรงกับความต้องการของคณะผู้บริหารครูและสถานศึกษาในพื้นที่และเตรียมจะเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.

       เพื่อยุติข้อขัดแย้งของผู้ใต้บังคับบัญชาในพื้นที่..รมว.ศึกษาธิการ “นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์” จึงต้องพึ่ง "พล.อ.ประยุทธ์" ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2557 (ฉบับชั่วคราว) แก้ไขคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 และล่าสุดในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนด้านการบริการงานบุคคลระหว่างสพท.และศธจ. ของศธ.ให้มีประสิทธิภาพ ที่มีประธานผอ.สพท.กลุ่มคลัสเตอร์ และศธจ.กว่า 50 คนเข้าร่วม 

ทางออก!!แก้คำสั่งคสช.คืน “อำนาจ” ม.53

      นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ควงแขน นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มาพูดคุยสร้างความเข้าใจถึงแนวทางการแก้ไขคำสั่ง ก่อนเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย “บุญรักษ์” เผยว่า มีข้อสรุปที่จะเสนอแก้ไขคำสั่งคสช.ที่ 19/2560 โดยให้ศธจ.เป็นผู้แทนศธ. ทำหน้าที่ประสานงาน บูรณาการการศึกษาในดับจังหวัด ซึ่งได้มีการเสนอตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด คือ คณะกรรมการบูรณาการด้านการศึกษาและคณะกรรมการการบริหารงานบุคคล ทั้ง 2 ชุดมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานศธจ. เป็นเลขานุการ

        ทั้งนี้ ในคณะกรรมการบริหารงานบุคคลจะมี ผอ.สพท.ในจังหวัดทุกคนร่วมเป็นกรรมการ พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากส่วนต่างๆ ซึ่งสัดส่วนเท่าไรนั้น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) อยู่ระหว่างพิจารณาข้อกฎหมาย ขณะที่ข้อ 13 ของคำสั่งคสช. จะแก้ไขให้ ผอ.สพท. มีอำนาจตามมาตรา 53 โดยลงนามตามมติ กศจ. ขณะที่ผอ.โรงเรียน ก็มีอำนาจลงนามอนุมัติในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับครูที่ไม่มีวิทยฐานะ ตั้งแต่การแต่งตั้ง เลื่อนขั้นเงินเดือน หรืออื่นๆ ซึ่งต้องเป็นไปตามมติกศจ.เช่นกัน

ทางออก!!แก้คำสั่งคสช.คืน “อำนาจ” ม.53

(ซ้าย) บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ. (กลาง) การุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.

        ส่วนกศจ.มีหน้าที่พิจารณาอนุมัติตามที่ผอ.สพท.เสนอ ตรงนี้จะทำให้เกิดการคานอำนาจกรณีที่กศจ.เห็น เรื่องที่สพท.เสนอมาไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย กศจ.ก็จะไม่อนุมัติ หรือขอให้ชี้แจงเพิ่มเติม เป็นการถ่วงดุลการใช้อำนาจระหว่าง ผอ.สพท. และกศจ. การพิจารณาเรื่องการบริหารงานบุคคลจะจบสุดท้ายที่คณะกรรมการชุดนี้

       “เชื่อว่าการแก้ไขคำสั่ง คสช.ครั้งนี้น่าจะตอบโจทย์ทุกคนแล้ว ทุกอย่างออกมาน่าจะตรงตามที่คิด เพราะในส่วนของผอ.โรงเรียนก็มีอำนาจในการลงนามเรื่องที่เกี่ยวกับครูที่ไม่มีวิทยาฐานะ ส่วนการใช้อำนาจเดี่ยว การพิจารณาเรื่องงานบุคคลคืนให้สพท.โดยการอนุมัติของ กศจ. ส่วนบทบาทของศธจ.ก็เปรียบเสมือนแม่บ้านใหญ่ของพื้นที่ เพราะทุกเรื่องที่จะใช้อำนาจ ผอ.สพท. หรือ ผอ.โรงเรียน เพื่อให้กรรมการแต่ละชุดพิจารณา อนุมัติก็ต้องส่งผ่านศธจ.ก่อน เพื่อกลั่นกรองว่าเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ แม้ศธจ.ไม่มีอำนาจไปบริหารโรงเรียน หรือบริหารสพท. แต่มติที่ออกมาก็ต้องรับผิดชอบผลทางกฎหมายด้วย ทั้งศธจ.หากเรื่องใดไม่เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการศธจ. อาจใช้วิธีประสานภายใน ให้สพท.ปรับแก้ ศธจ. ไม่มีอำนาจโดยตรงที่จะไม่เสนอเรืองให้กศจ.พิจารณา แต่มีอำนาจในการขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสพท.” เลขาธิการ กพฐ.เน้นย้ำ

ทางออก!!แก้คำสั่งคสช.คืน “อำนาจ” ม.53

ทองสุข อยู่ศรี ผอ.สพป.นครสวรรค์ เขต 2

       ฟาก “ทองสุข อยู่ศรี” ผอ.สพป.นครสวรรค์ เขต 2 และประธานกลุ่มคลัสเตอร์ที่ 18 (นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร และอุทัยธานี) บอกว่า แนวทางการแก้ไขคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่าง สพท.และศธจ. เป็นมติที่เห็นพ้องร่วมกัน เพื่อให้การทำงานของ 2 ฝ่ายเดินหน้าไปได้ เพราะที่ผ่านมาเรามีข้อติดขัดจนบั่นทอนการทำงานมานานเกินไป 5-6 เดือน จากนี้ก็จะร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนงานการศึกษาในภูมิภาคเพื่อเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

      "ถือเป็นมติที่เห็นพ้องร่วมกันจากนี้ผมก็ต้องไปสะท้อนสิ่งเหล่านี้ให้แก่สพท.ในกลุ่มทราบ ซึ่งการที่ให้ผอ.สพท.มาร่วมดูงานบริหารด้านบุคคล ก็เป็นไปตามมาตรา 53 เจตนาเพื่อให้การทำงานคล่องตัว ไม่ใช่เขตพื้นที่จะมาชงกันเอง ที่สำคัญตัวผอ.สพท.ก็ต้องมีความระมัดระวัง ทำงานด้วยความรอบคอบตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนเสนอตามกระบวนการ เพราะถ้ามีข้อผิดพลาดตัวผอ.สพท.ก็ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบเช่นกัน"  

ทางออก!!แก้คำสั่งคสช.คืน “อำนาจ” ม.53

เชิดศักดิ์ ศรีสง่า ศธจ.ขอนแก่น

        ส่วน "เชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย" ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ขอนแก่น ในฐานะประธานชมรมศธจ. ยอมรับว่า ศธจ.ได้มีการหารือเรื่องการแก้ไขคำสั่งคสช.ที่ 19/2560 แต่เลขาธิการกพฐ.และปลัดศธ.ได้ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งศธจ. และสพท.ก็พอใจ เราจะเลิกมีความขัดแย้งกัน เราจะเป็นพี่น้องกันจับมือร่วมกันพัฒนาการศึกษาต่อไป ดังนั้นการปรับแก้อำนาจการบริหารงานบุคคล ศธจ.ไม่ติดใจ แล้วแต่ผู้ใหญ่ ให้ทำอะไรก็พร้อมจะทำตาม ขออย่างเดียวให้ผอ.สพท.และศธจ. เป็นพี่น้อง ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว 

        “เป้าหมายของศธจ.ต้องตอบโจทย์คุณภาพการจัดการศึกษา สร้างความเป็นเอกภาพ บูรณาการการจัดการศึกษาร่วมกับหน่วยจัดการศึกษาในจังหวัดให้มีความเป็นหนึ่งเดียว ตอนนี้มีแนวร่วมมากในการทำงานให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ และศธจ.ยินดีที่จะร่วมมือกับผอ.สพท. ในการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่” เชิดศักดิ์ ย้ำเป้าหมาย 

ทางออก!!แก้คำสั่งคสช.คืน “อำนาจ” ม.53

ภาพ www.obec.go.th

      การเสนอเรื่องเพื่อขอแก้ไขคำสั่งคสช.ที่ 19/2560 นั้น นายการุณ ได้เสนอไปยัง นพ.ธีระเกียรติ พิจารณาแล้ว ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่าขอเวลาพิจารณารายละเอียด 2-3 วันให้เรียบร้อยก่อนเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไป

o เกศกาญจน์ บุญเพ็ญ o

[email protected]

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ