Lifestyle

 ชมรมครูร้อยเอ็ดยื่น"บิ๊กตู่"ขอแก้คำสั่งคสช.19/60

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

  องค์กรครูร้อยเอ็ด 43 องค์กร ลงมติค้านแนวคิด คำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 ข้อ 13 เตรียมยื่นต่อนายกรัฐมนตรีที่ จ.กาฬสินธ์ วันที่ 13 ธันวาคมนี้

     หลังจาก เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมาชมรมสมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด นำโดยนายกสมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด นายบุญเลี้ยง ไขษรศักดิ์ และชมรมครูจังหวัดร้อยเอ็ด โดย นายพิทักษ์ บัวแสงใส พร้อมกับคณะครูองค์กรการนำครู ต่าง ๆ ของจังหวัดร้อยเอ็ดจากทุกอำเภอ 25 คน 43 องค์กรประชุมระดมความคิดเห็น เรื่องการปฏิรูปการศึกษาและให้ข้อคิดเห็นเรื่องการปฏิรูปการศึกษา ของรัฐบาลและคสช.

      เนื่องจากมองว่า กฎระเบียบดังกล่าวมีผลกระทบต่อบุคลากรทางการศึกษา ครูผู้สอน และผู้เรียน ไม่ตรงตามเป้าประสงค์ของครูที่จะร่วมกันจัดระบบทางการศึกษาให้มีคุณภาพ ซึ่งที่ประชุมวิเคราะห์ว่าคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 ข้อ 13 เกี่ยวกับการแปรรูปการศึกษาส่วนภูมิภาคทำให้เกิดความขัดแย้งในการด้านการบริหารการศึกษาระหว่างศึกษาธิการจังหวัดและสำนัก     งานขตพื้นที่การศึกษาที่ไม่สอดคล้องตรงกับความต้องการของคณะผู้บริหารครูและสถานศึกษาในพื้นที่ 

     โดยนายพิทักษ์ บัวแสงใส  ประธานชมรมครูจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า หากไม่แก้คำสั่ง หัวหน้าคสช.ที่19/2560 ข้อ 13 อาจจะเกิดความเสียหายทั้งระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพราะ 2 ปัญหา คือ 1 สป.ศธ./ศธภ./ศธจ.เป็นอีกแท่งหนึ่งใน5แท่ง ของกระทรวงศึกษาธิการ การก่อเกิดศธจ. ก็เพื่อให้บูรณาการการศึกษาของจังหวัดเชื่อมโยงกันทั้ง5แท่ง 2) สพท./สพฐ.เป็นอีกแท่งหนึ่งที่เป็นสายบังคับบัญชาโดยตรงของโรงเรียน ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติงานให้เกิดคุณภาพหรือไม่เกิดคุณภาพโดยแท้

     ดังนั้นการให้ศธจ.ใช้อำนาจมาตรา53 (3)(4)ซึ่งเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชาตามมาตรา 24 และมาตรา 27 ของ พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการใช้อำนาจบรรจุแต่งตั้ง ข้ามแท่ง ซึ่งไม่เคยปรากฏในหน่วยงานใดมาก่อน และอำนาจในมาตรา 53(3)(4) ยังผูกพันกับมาตราอื่นๆในหมวดอื่นอีกเกือบสามสิบเรื่อง จึงทำให้เกิดความล่าช้า ด้อยประสิทธิภาพในการบริหารงานบุคคลในภูมิภาค ส่งผลกระทบโดยตรงต่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 

    ดังนั้น ชมรมครูจังหวัดร้อยเอ็ดจึงเห็นพ้องกับข้อเสนอร่างแก้ไขคำสั่ง หัวหน้า คสช.ที่19/60 ของชมรมผอ.เขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ทุกประเด็น โดยเฉพาะ การขอยกเลิกข้อ 13 เพื่อคืนอำนาจให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53(3)(4) ของ พรบ.ระเบียบข้าราชครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค บรรลุวัตถุประสงค์โดยเร็ว

     นอกจากนั้นควรกระจายอำนาจเกี่ยวกับพนักงานราชการลูกจ้างชั่วคราวทุกตำแหน่งให้ผอ.โรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจะส่งผลต่อการบริหารจัดการให้เกิดคุณภาพมีประสิทธิภาพ ทันเวลา และหากผู้มีอำนาจยังเพิกเฉย ไม่ยอมยกเลิกข้อ 13 ทางชมรมครูจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ จะหาช่องทางและแนวทางนำเสนอเป็นขั้นตอน ที่จะต้องขับเคลื่อนต่อไป  และจะสรุปส่งไปยังองค์กรครูทั่วประเทศทุกภาค เพื่อ สรุปแนวคิดที่สอดคล้องร่วมกันเสนอไปยังรัฐบาล และในขณะเดียวกัน จะมีการนำข้อสรุปของที่ประชุมนำส่งไปยังนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางมาที่จ.กาฬสินธิ์ ต่อไป.

     ทั้งนี้ วันที่ 13 ธันวาคม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจราชการและเยี่ยมประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน

      ตลอดจนการแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาที่ดินทำกิน การบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะ และการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล

     โดยจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานร้อยเอ็ด เพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังสนามกีฬากลางบ้านโพน อ.คำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ในเวลา 8.50 น.

      จากนั้นจะนั่งรถไถนา (รถอีแต๊ก) เพื่อไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตการทอผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ณ ศูนย์วัฒนธรรมภูไท และจะเดินทางโดยรถยนต์ไปยังศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทยผ้าไหมแพรวา เฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อมอบเครื่องจักรกลการเกษตร และมอบโค-กระบือ ตามโครงการธนาคารโค-กระบือ ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร พร้อมพบปะประชาชน

      และเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบน ต. ลงเปลือย อ. เขาวง จ. กาฬสินธุ์ ในช่วงบ่าย เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปโครงการลุ่มน้ำลำพะยังตอนบน อุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ และโครงการฝายลำพะยังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งอ่างเก็บน้ำฯ เพื่อปล่อยพันธุ์ปลา และปลูกต้นพะยอม ต่อ      จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังวิทยาลัยเทคนิคเขาวง เพื่อเป็นประธานการประชุมสรุปยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ และจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงค่ำของวันเดียวกัน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ