Lifestyle

จัดระเบียบใหม่!! 225 เขตพื้นที่การศึกษา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ประกาศศธ.แบ่งส่วนราชการใหม่ใน 255 เขตทั่วประเทศ เพิ่มเติม 2 กลุ่ม รับการทำงานจัดการศึกษาทางไกล และพัฒนาครูที่เป็นระบบ สพฐ.ย้ำไม่ขออัตราใหม่แต่จะเกลี่ยคนใน

            การแบ่งส่วนราชการในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ใหม่!! ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การแบ่งส่วนราชการในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้เรียบร้อยแล้วนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

           เหตุผลสำคัญของการแบ่งส่วนราชการใหม่ที่จะใช้กับทั้ง 255 เขตทั่วประเทศ หมายรวมถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 183 เขต และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 42 เขต ก็เพื่อความเหมาะสมกับภารกิจ ปริมาณ และคุณภาพการจัดการศึกษาในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา โดยได้มีการกำหนด อำนาจหน้าที่ของ สพท.ไว้ที่ 12 ภารกิจ อาทิ การจัดทำนโยบาย แผนพัฒนา และมาตรฐานการศึกษาของเขตพื้นที่ฯ ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน และความต้องการของท้องถิ่น , วิเคราะห์การจัดตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนทั่วไปของสถานศึกษา  และหน่วยงานในเขตพื้นที่ฯ,

            การประสาน ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับสถานศึกษาในเขตพื้นที่ฯ, กำกับ ดูแล ติดตาม และประเมินผลสถานศึกษา,ประสานฯการจัดการศึกษาของสถานศึกษาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ, ประสานฯการดำเนินการของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานด้านการศึกษา รวมถึงปฏิบัติงานร่วมกับ หรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย เป็นต้น

            ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของประกาศ ศธ.ฉบับนี้ อีกประการหนึ่งคือ การแบ่งส่วนราชการภายใน สพท.ใหม่เป็น 9 กลุ่ม ประกอบด้วย  กลุ่มอำนวยการ, กลุ่มนโยบายและแผน , กลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์, กลุ่มบริหารงานบุคคล, กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา, กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา, กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา และหน่วยตรวจสอบภายใน

            “บุญรักษ์ ยอดเพชร” เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) อธิบายว่า กลุ่มงานที่ตั้งขึ้นใหม่ตามประกาศมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกลและ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อที่จะรองรับงานตามนโยบายทั้งการเคลื่อนการศึกษาทางไกล และการพัฒนาครูซึ่งมีภารกิจงานค่อนข้างมาก และที่ผ่านมาไม่มีกลุ่มงานที่รับผิดชอบโดยเฉพาะ ใช้การบริหารจัดการในพื้นที่ แต่ครั้งนี้ก็มีกลุ่มที่รับผิดชอบโดยตรง การทำงานก็จะครอบคลุม ชัดเจน และสมบูรณ์มากขึ้นด้วย

            อย่างไรก็ดี การเพิ่มกลุ่มงาน 2 กลุ่มก็มีผลให้ต้องเพิ่มอัตรากำลังคน โดยเฉพาะระดับหัวหน้ากลุ่ม หรือระดับ 8 “บุญรักษ์” กล่าวว่า เรื่องอัตรากำลังคนทั้ง 2 กลุ่มงานจะมีจำนวนเท่าใดนั้น ยังต้องมีการวิเคราะห์ ศึกษาภารกิจ หน้าที่ว่าแต่ละกลุ่มควรใช้คนเท่าไร อาจจะ 4-5 คน เป็นต้น ซึ่งจะมีสูตรการคิดอยู่แล้วตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) กำหนด และสำนักงานคณะกรรมการการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จะเป็นผู้วิเคราะห์ แต่เบื้องต้น คำนวณเฉพาะระดับหัวหน้างาน หรือซี 8 ของ 2 กลุ่มงานใน 225 เขตพื้นที่ฯ ก็มีทั้งสิ้น 450 คน

            “เราก็ทำงานโดยคำนึงถึงประเทศชาติ แม้จะเพิ่มกลุ่มงาน 2 กลุ่มแต่ สพฐ.ไม่ได้ขอเพิ่มอัตราใหม่ แต่จะใช้วิธีการเกลี่ยคนภายใน สพฐ.ก่อน เพราะการทำงานทุกอย่างมีกติกากำหนด จะทำอะไรก็ตามต้องไม่เพิ่มภาระงบประมาณให้รัฐบาล”บุญรักษ์ กล่าว

            ด้าน ธนชน มุทาพร ผู้อำนวยการ สพป.ชัยภูมิ เขต 1 และประธานชมรม ผอ.สพท.กล่าวว่า การแบ่งส่วนราชการดังกล่าว มีการทำความเข้าใจกันทั้งในระดับนโยบายและปฏิบัติ ซึ่งโดยหลักที่เพิ่มมา 2 กลุ่ม จากเดิมประมาณ 7 กลุ่มก็เพื่อให้การทำงานชัดเจน ครอบคลุม โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมามีนโยบายขับเคลื่อนเรื่องการจัดการศึกษาทางไกล และรวมถึงการพัฒนาครูค่อนข้างมาก เช่น การพัฒนาครูทั้งระบบผ่านคูปองครู 10,000 บาทที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็ให้ฝ่ายบริงานบุคคลรับผิดชอบไปก่อน แต่เมื่อมีกลุ่มที่ดูแลเฉพาะการทำงานก็คล่องตัวมากขึ้น

           อย่างไรก็ตาม การแบ่งส่วนราชการใหม่นี้ สะท้อนให้เห็นว่าการทำงานของเขตพื้นที่ฯ มีหลายภารกิจสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งในหลายพื้นที่ปัจจุบันก็ไม่ได้มีอัตรากำลังคนครบทุกกลุ่ม แต่ทุกเขตพื้นที่ฯก็ปฏิบัติงานเต็มที่

           

           

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ