Lifestyle

หัวใจภักดิ์และเป้1ใบมุ่งสู่สนามหลวงเฝ้าพ่อหลวงครั้งสุดท้าย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 สิ่งที่พบเห็นนอกจากคนไทยที่มีหัวใจภักดิ์เฉกเช่นเดียวกันและมุ่งมั่นมุ่งหน้าสู่พื้นที่เดียวกันแล้ว แทบทุกคนจะนำพระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงร.9มาด้วย

         ค่ำคืนอันเหน็บหนาวท่ามกลางสายฝนตกกระหน่ำวันที่ 24 ตุลาคม 2560 จนดึกก่อนจะหยุดให้พสกนิกรชาวไทยที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศได้พอหลับใหล จวบจนใกล้ฟ้าสางของวันที่ 25 ตุลาคม 2560 เจ้าหน้าที่ปลุกให้ต่อแถวเพื่อเข้าจุดคัดกรอง ก่อนเข้าพื้นที่ด้านใน เพื่อร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560

       สิ่งที่พบเห็นนอกจากคนไทยที่มีหัวใจภักดิ์เฉกเช่นเดียวกันและมุ่งมั่นมุ่งหน้าสู่พื้นที่เดียวกันแล้ว แทบทุกคนจะนำพระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรพกติดตัวมาด้วยทั้งสิ้น นอกจากนี้ คือ หัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความจงรักภักดี เป้หรือกระเป๋าใบใหญ่ 1 ใบ และกระโจมร่ม

          “คมชัดลึก”ขออนุญาตเปิดดูภายในเป้หรือกระเป๋าเพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่คนไทยเตรียมพร้อมเพื่อเข้าร่วมในพระราชพิธีฯครั้งนี้มีอะไรบ้าง

         นายธีระยุทธ   กาญจนเพ็ชร อายุ 39 ปี เดินทางมาจากอ.หากใหญ่ จ.สงขลา พร้อมเพื่อนรวม 6 คน มาถึงตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 24 ตุลาคม 2560 ก่อนจะผ่านจุดคัดกรองและเข้ามานั่งรอหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเข้าภายในบริเวณจุดให้ประชาชนชมริ้วขบวนในเวลา 2 ทุ่มของวันที่ 25 ตุลาคม 2560 เพื่อนทุกคนจะนำเป้มาคนละใบ ภายในจะมีเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน  แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ เสื้อกันหนาว ร่ม หมอนใบเล็ก ผ้าห่ม ยากันยุง ยา ขนม ข้าวเหนียมหมูทอดเพื่อเป็นอาหารไว้รับประทานเพียงพอสำหรับ 2 วัน  เนื่องจากข้าวเหนียวมีระยะการเก็บได้ยาวนานกว่าข้าวสวยโดยไม่บูดเสีย ยามใดที่ฝนตกก็ใส่เสื้อฝนกางร่มกันฝน ยามที่ฝนไม่ตกก็ปูถุงดำล้มตัวลงนอน

หัวใจภักดิ์และเป้1ใบมุ่งสู่สนามหลวงเฝ้าพ่อหลวงครั้งสุดท้าย

       “อยากอยู่ตรงนี้อยากมาส่งพ่อหลวง มากกว่าที่จะดูถ่ายทอดจากโทรทัศน์ ซึ่งส่วนตัวเคยรับเสด็จพระองค์ท่านที่รพ.ศิริราช ลานพระบรมรูปทรงม้า และหัวหิน คนไทยทุกคนรักพระองค์ แต่คงถึงเวลาแล้วที่พระองค์ท่านต้องพักจริงๆแล้ว สิ่งที่พระองค์ท่านเป็นแบบอย่างและผมนำมายึดในชีวิตประจำวัน คือ ความกตัญญู ทุกๆอย่างที่พระองค์ดูแลสมเด็จย่าเป็นแบบอย่างที่ดีมาก” นายธีระยุทธ กล่าวด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

      ตลอดช่วงเวลาแม้ไม่นานที่ได้มาอยู่รอใต้สะพานพระปิ่นเกล้าและพื้นที่หลังผ่านจุดคัดกรอง ธีระยุทธ บอกว่า  ตนเองสัมผัสได้ถึงน้ำจิตน้ำใจที่มากล้นของคนไทย ที่ต่างพร้อมในการช่วยเหลือ แบ่งปัน เอื้อเฟื้อกันทุกคน แม้ข้างในทุกคนจะร้องไห้มีอารมณ์ร่วมในเรื่องเดียวกัน แต่ก็พร้อมที่จะเผื่อแผ่

หัวใจภักดิ์และเป้1ใบมุ่งสู่สนามหลวงเฝ้าพ่อหลวงครั้งสุดท้าย

       อย่างช่วงเช้าหลังเปิดจุดคัดกรอง ได้เห็นเด็กคนหนึ่งมีรูปร่างค่อนข้างอ้วน สวมใส่กางเกงขาสั้น เพราะไม่มีกางเกงขายาวและแม่ตั้งใจที่จะพามาหาซื้อแถวๆนี้ แต่ไม่มีช่วงจังหวะเวลาให้ได้ไปเดินซื้อเนื่องจากยาที่มาถึงร้านปิดหมดและเมื่อเปิดจุดคัดกรองร้านก็ยังไม่เปิด ปรากฎว่าเด็กคนดังกล่าวไม่สามารถผ่านจุดคัดกรองได้

         แต่มีคนหนึ่งที่อยู่บริเวณใกล้ๆและมีรูปร่างใกล้เคียงกับเด็กคนดังกล่าว ก็หยิบกางเกงของตนเองที่เตรียมมาให้กับเด็กคนดังกล่าวเอาไปเปลี่ยน เพราะเตรียมกางเกงมาเหลือ ทำให้เด็กคนดังกล่าวสามารถผ่านจุดคัดกรองเข้าไปได้ ซึ่งหากเด็กคนนี้ไม่ได้เข้า แม่ที่เดินทางมาด้วยกันก็จะไม่ได้เข้าไปด้วย  สิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าการเป็นคนไทย เมื่อถึงเวลาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ และมีน้ำใจให้กันเสมอ

         มิต่างจาก ป้าอารีย์ โตทอง วัย 70 ปี เล่าว่า   เดินทางมาจากจ.ระยองคนเดียวพร้อมเป้ 1 ใบ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2560 และเดินทางเข้ามาพื้นที่บริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 24 ตุลาคม 2560 ช่วงกลางคืนที่ฝนเทกระหน่ำลงมาก็ได้ใช้เสื้อกันฝนและร่มที่พกติดตัวมากำลังกาย จนในที่สุดได้ผ่านเข้าจุดคัดกรอง

หัวใจภักดิ์และเป้1ใบมุ่งสู่สนามหลวงเฝ้าพ่อหลวงครั้งสุดท้าย

       ในเป้ของป้า มีของที่จำเป็น อย่างเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยน ยาหอมยาลมยาดมยาหม่อง ยาสามัญทั่วไปเพราะไม่มีโรคประจำตัวอะไร ร่ม เสื้อกันฝน น้ำเปล่าและอาหารเนื่องจากช่วงนี้รับประทานเจ เป็นหมูทอดเจและข้าวเหนียวเพียงพอสำหรับ 2 วัน แต่เรื่องอาหาร น้ำ หากไม่ได้เตรียมมาส่วนตัวจะมีจิตอาสามาเดินแจกให้พร้อมยาดมอยู่เสมอๆ

        “ มาคนเดียวลูกก็เป็นห่วง แต่ก็บอกลูกว่าไม่ต้องห่วง มาถึงแล้วคนแถวนี้รู้จักกันหมด เพราะทุกคนมีหัวใจดวงเดียวกัน เป็นลูกของพ่อหลวงเช่นเดียวกัน สิ่งที่เห็นคือคนไทยทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่กันตลอดเวลา มาครั้งนี้เพราะอยากให้พระองค์ท่านเห็นว่าลูกทุกคนรักท่านและจะทำความดีเดินตามรอยพระบาท” ป้าอารีย์กล่าว

หัวใจภักดิ์และเป้1ใบมุ่งสู่สนามหลวงเฝ้าพ่อหลวงครั้งสุดท้าย

           และด้วยสภาพอากาศทางเดี๋ยวแดดออกเดี๋ยวฝนตก ภาพที่ปรากฎตรงหน้าคือประชาชนมีร่มเป็นอุปกรณ์ช่วยที่สำคัญยิ่ง ในยามที่แดดออก จะนำมากางผึ่งเพื่อกันใบหน้าจากแสงแดดยามล้มตัวลงนอนเอาแรงสักระยะ หรือบางคนนำร่มมาหลายคัน ก็จะกางออกวางซ้อนกันเป็นลักษณะคล้ายกระโจมเพื่อนั่ง-นอนหลบแดด หรือแม้แต่กางไว้เพื่อกันเป้ กระเป๋าที่นำมาไม่ให้โดนแดดโดนฝน 

          เสียงหนึ่งที่เอื้อนเอ๋ยออกมาให้ได้ยินยามเดินผ่านในบริเวณที่ประชาชนนั่งรอร่วมพระราชพิธีฯแทบจะทุกพื้นที่ คือ “ไหวไหมคะ/ครับ” “ให้ช่วยอะไรไหมคะ/ครับ” “เอาอันนี้ไหมคะ/ครับ”

         “การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมาก ไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้” พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช  ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 25 กรกฎาคม 2506

0 พวงชมพู ประเสริฐ รายงาน 0

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ