Lifestyle

“ศิริราช”ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ 13 ต.ค.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ศิริราช”ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ 13 ต.ค.น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อเชิญชวนประชาชนคนไทยได้ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์

 

       เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล พร้อมด้วยรศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช  รศ.พญ.ตุ้มทิพย์ แสงรุจิ หัวหน้าหน่วยพิพิธภัณฑ์ศิริราช และ พลเรือตรี วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือกรุงเทพ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เแถลงข่าวการจัดงาน “ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์”

          ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อโรงพยาบาลศิริราชมาตลอด  โดยเฉพาะ4 เรื่องหลัก คือ 1. ตั้งแต่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงประชวร แต่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเห็นว่าในโรงพยาบาลมีปัญหาน้ำท่วมขัง กระทบต่อผู้ป่วยและญาติ ทั้งยังเป็นแหล่งก่อให้เกิดโรคได้ จึงได้ประทานแนวทางแก้ปัญหา โดยให้ปรับพื้นที่ลุ่มๆดอนๆของศิริราชให้เท่ากัน มีบ่อเก็บน้ำเสมือนเขื่อน ภายในโรงพยาบาล แยกน้ำดีน้ำเสียก่อนปล่อยน้ำลงแม่น้ำต้องบำบัด  เพราะหากบำบัดน้ำทั้งหมดจะสิ้นเปลืองงบประมาณ ทำให้ปัญหาน้ำท่วมขังลดน้อยลง 

         2.ทรงเล็งเห็นว่ารถติดหนักรอบโรงพยาบาล อาจส่งผลร้ายต่อผู้เจ็บป่วยฉุกฉินจึงเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้ามาเพื่อหารือให้การสร้างทางเดินรถเพิ่ม ก่อนจะเกิดเป็นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีขึ้น สามารถแก้ปัญหารถติดได้มาก  นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่รับสั่งว่าต้องการให้ประชาชนเดินทางมาโรงพยาบาลบได้สะดวก จึงกำลังมีการดำเนินการสร้างรถไฟจากต่างจังหวัดเข้ามาถึงโรงพยาบาลศิริราช และรถไฟฟ้าใต้ดินจากในเมืองมายังโรงพยาบาล 

          3.เมื่อครั้งประชวรจนเข้ารักษาตัวทรงมองลงมาจากห้องพักแล้วเห็นที่ดินแปลงติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงมีรับสั่งว่าที่ตรงนี้ดี ใช้ประโยชน์ได้ เพราะเมื่อเย็นก็จะมีเงาจากตึกพาดผ่านทำให้เกิดร่มเงาด้วย จึงปรับใช้เป็นที่ออกกำลังกายแก่บุคลากรในโรงพยาบาล ผู้ป่วย และญาติ และ4.ครั้งประชวรได้มีรับสั่งว่าไม่ต้องการให้การเข้ารักษากระทบต่อผู้ป่วยในโรงพยาบาล อีกทั้งทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ช่วยผู้ป่วยหลายต่อหลายครั้ง  

          “โรงพยาบาลศิริราชแห่งนี้จึงเป็นเสมือนศูนย์รวมใจที่ประชาชนได้มาร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นสถานที่แห่งความทรงจำ ความรักและความศรัทธา ที่ประชาชนคนไทยรวมถึงคณะทูตานุทูตจากนานาประเทศ ได้เข้ามาร่วมลงนามถวายพระพร ร่วมกันเจริญจิตภาวนา และส่งกำลังใจถวายพระองค์ท่าน จนถึงวันที่เสด็จสวรรคต อันเป็นที่มาของการจัดงาน “ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์” ครั้งนี้” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว 

        สำหรับการจัดงาน “ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์” เป็นงานที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจัดขึ้น เพื่อเชิญชวนประชาชนคนไทยได้ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์ โดยจะจัดขึ้น ณ โรงพยาบาลศิริราช ในวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 05.30 น.เป็นพิธีทำบุญตักบาตร (ข้าวสารอาหารแห้ง) แด่พระสงฆ์ 199 รูป ที่จะเดินบิณฑบาตจากหอประชุมกองทัพเรือ ถึงลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โรงพยาบาลศิริราช เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยจะส่งมอบอาหารแห้งส่วนหนึ่งไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 

     ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนกำลังพลและสถานที่จากกองทัพเรือตลอดเส้นทางพระสงฆ์บิณฑบาต โดยจัดเตรียมสถานที่ให้คณะสงฆ์ 199 รูป ตั้งแถวบิณฑบาต สถานที่สำหรับจอดรถตู้ รับส่งคณะสงฆ์ กำลังพลประจำถ่ายอาหารจากบาตรใส่ถุงที่เตรียมไว้จากหอประชุมกองทัพเรือถึงโรงพยาบาลศิริราช เพื่อส่งให้กองอำนวยการโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนต่อไป และมีกิจกรรมต่างๆตลอดทั้งวัน 

      จากนั้นเวลา 19.00 น. พิธี “ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์”บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ฯ โดยนักศึกษาแพทย์และบุคลากรศิริราช การแปรอักษรเป็นสัญลักษณ์เลข “๙” โดยกำลังพลกองทัพเรือ และเหล่าพยาบาล ฝ่ายการพยาบาล รพ.ศิริราช ประกอบแสง สี สื่อผสม และเข้าสู่ช่วง “แสงแห่งแผ่นดิน” พิธีจุดเทียนเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์ ผ่านบทเพลง “ความฝันอันสูงสุด” ที่เป็นดั่งขวัญและกำลังใจอันสำคัญยิ่งของ คนไทย โดยอัญเชิญไฟประทานจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ เป็นจุดเริ่มของแสงเทียน ที่จะจุดต่อ ๆ กันให้สว่างไสวไปทั่ว และจะยังคงสว่างไสวเป็นแสงนำทางในดวงใจของคนไทยทุกคนตลอดไป 

      นอกจากนี้จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ 2 ชุด ดังนี้ 1. นิทรรศการ “ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์” ณ พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน โดยจัดแสดงภาพพระราชกรณียกิจทั้งสี่ภาคที่หาชมได้ยาก และ2. นิทรรศการ“นบพระภูบาลสู่แดนสรวง” นำเสนอเรื่องราว 3 ส่วน ประกอบด้วย 1. นวมินทร์มหาราช ปวัติ 2. กรณียพัฒน์เพื่อประชาไทย 3. น้อมดวงใจสืบสานราชปณิธาน ผ่านเทคโนโลยี AR : Augmented Reality, Projection mapping และจอ LED ขนาดใหญ่ ตลอดระยะเวลา 70 ปี 4 เดือน ที่ทรงครองราชย์ ชมได้ระหว่างวันที่ 9 – 31 ตุลาคม 2560 ณ ศาลาศิริราช 100 ปี 

        “อยากให้ประชาชนมองย้อนกลับไปว่าตลอด 1 ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้างกับจิตใจเรา อยากเห็นประชาชนเดินทางมาร่วมทำบุญอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ โรงพยาบาลศิริราชในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ เพราะถือว่าอาจจะเป็นกิจกรรมครั้งหลังๆที่เราจะสามารถถวายงานให้พระองค์ท่านได้ ใครที่มาไม่ได้ก็ขอให้ตั้งจิตทำบุญอุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แต่ถ้าได้มาร่วมกิจกรรมที่นี่เราก็จะดูแลเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องการการจราจรว่าจะมีการปิดเส้นทาใดบ้าง ใกล้ถึงวันแล้วทางโรงพยาบาลศิริราชจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าว 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ