Lifestyle

วัคซีน"ไข้เลือดออก"ช่วยป้องกันคนเคยติดเชื้อมากกว่าไม่เคย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศึกษาพบวัคซีน"ไข้เลือดออก"ป้องกันคนเคยติดเชื้อได้มากกว่า 81 % สูงกว่าคนไม่เคยติดเชื้อมาก่อน  ช่วยลดความรุนแรงได้ถึง 93.2 %     


      หลังจากที่องค์การอนามัยโลกหรือฮู แนะนำให้ใช้วัคซีนไข้เลือดออกในการป้องกันโรคไข้เลือดออก เดงกี่ในประเทศที่มีการระบาดสูง และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ของประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนไข้เลือดออกเมื่อช่วงปลายปี 2559 เช่นเดียวกับอีก 17 ประเทศที่ให้การรับรองวัคซีนและสามารถนำมาฉีดให้ประชาชนได้

      เนื่องสามารถช่วยป้องกันไข้เลือดออกจากเชื้อไวรัสเดงกี่ทั้ง 4 สายพันธุ์ได้ 65.6 % และป้องกันความรุนแรงของโรคได้ถึง 93.2 % และป้องกันการเข้ารับการรับการรักษาในโรงพยาบาลได้ 80.8 % 

วัคซีน"ไข้เลือดออก"ช่วยป้องกันคนเคยติดเชื้อมากกว่าไม่เคย
     ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 ที่คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล มีการแถลงข่าว เรื่อง “วัคซันไข้เลือดออก : จุดเปลี่ยนเพื่อการป้องกันแบบองค์รวม” โดยรศ.(พิเศษ)นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า  ผลการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนไข้เลือดออก 4 สายพันธุ์ พบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อมาแล้วเมื่อได้รับวัคซีนไข้เลือดออก สามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้มากถึง 81.9 % ต่างจากผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน

       ซึ่งพบว่าสามารถป้องกันได้ 52.5 % เนื่องจากวัคซีนไข้เลือดออกเกิดจากการผสมกันระหว่างวัคซีนเชื้อไข้เหลืองที่มีใช้มานานมาพ่วงกับชิ้นส่วนของเชื้อไข้เลือดออกทั้ง 4 สายพันธุ์ จึงไม่ใช่วัคซีนที่เป็นเชื้อไข้เลือดออกล้วนๆ และเป็นวัคซีนที่ไม่ก่อโรค แต่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อเดงกี่ทั้ง 4 สายพันธุ์ 
      "การทำงานของวัคซีนจะต่างจากการติดเชื้อไข้เลือดออกสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งจากยุงลาย ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อโรคได้ แต่การฉีดวัคซีนเหมือนการไปกระตุ้นความจำของร่างกาย ดังนั้น คนที่เคยติดเชื้อเดงกี่มาก่อนไม่ว่าจะกี่สายพันธุ์  เมื่อฉีดวัคซีนเข้าไปก็จะเหมือนเรียกความจำคืนให้ร่างกาย ทำให้ได้ผลดีกว่าคนที่ไม่เคยติเชื้อเดงกี่มาก่อน ซึ่งร่างกายจะไม่มีความจำมาก่อน การศึกษานี้พิสูจน์ให้เห็นงา การฉีดวัคซีนไข้เลือดออกไม่ทำให้เกิดโรคไข้เลือด ไม่เหมือนการติดเชื้อโดยธรรมชาติจากการถูกยุงกัด ส่วนที่กลัวว่าฉีดแล้วจะเป็นการติดเชื้อครั้งที่ 2  ทำให้อาการป่วยรุนแรงนั้น จากการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างกว่า 30,000 คน เป็นระยะเวลา 6 ปียังไม่พบเหตุการณ์ดังกล่าว ”รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี กล่าว 
     รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี กล่าวอีกว่า วัคซีนไข้เลือดออกสามารถป้องกันไข้เลือดออกที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ได้ทั้ง 4 สายพันธุ์ โดยข้อแนะนำให้ฉีดในผู้ที่มีอายุ 9-45 ปี กำหนดให้มีการฉีด 3 ครั้ง เว้นระยะ  6 เดือน และ 12 เดือนจากการฉีดเข็มแรก ซึ่งการฉีดแต่ละครั้งจะก่อภูมิคุ้มกันโรคเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจะสามารถมีระยะเวลาการป้องกันโรคได้นานแค่ไหนหลังจากฉีดครบ ยังไม่สามารถบอกได้แน่ชัด แต่จากการติดตามผู้ที่ฉีดมาเป็นเวลา 6 ปี พบว่าภูมิคุ้มกันยังสูงอยู่ 
       ด้าน นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 16 สิงหาคม พ.ศ.2560 มีรายการผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกทั่วประเทศรวม 29,844 ราย อัตราป่วยยังคงสูงสุดในเด็กอายุ 5-14 ปี รวมทั้งวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้นอายุ 15-24 ปี

      อย่างไรก็ตามพบว่าผู้เสียชีวิตมีสัดส่วนเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น โดยพบผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป 24 ราย ในขณะที่เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเสียชีวิต 17 ราย

     ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ได้แก่ การไปรับการรักษาช้า ซื้อยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID มารับประทานเอง มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ เช่น ภาวะอ้วน มีโรคเรื้อรังร่วมด้วย ทั้งนี้การผลักดันวัคไข้เลือดออกเป็นวัคซีนพื้นฐานของประเทศไทยอยู่ระหว่างการศึกษาความคุมทุน 
         รศ.ดร.นพ.ประตาป สิงหศิวานนท์ คณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน กล่าวว่า ขณะนี้มีการวิจัยบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเดงกี่ แต่ไม่มีอาการป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกมีจำนวนสูงมากประมาณ 3 เท่าของผู้ป่วยที่มีอาการ ที่สำคัญและน่าเป็นห่วง คือ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สามารถแพร่เชื้อผ่านยุงลายไปยังผู้อื่นได้มากกว่า 10 เท่า ในแง่ของผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประเทศในด้านเศรษฐกิจ ประเทศไทยสูญเสียเงินไปกับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโรคไข้เลือดออกสูงมากถึง 290 ล้านบาท มากเป็นอันดับ 2 ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากประเทศอินโดนีเซีย 

          อนึ่ง ปัจจุบันวัคซีนไข้เลือดออกมีให้บริการในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนบางแห่ง ราคาเข็มละประมาณ 2,000 กว่าบาท โดยในรพ.รัฐราคาจะถูกกว่ารพ.เอกชน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ