ศธ.เตรียมแก้ไขให้อำนาจโยกย้ายในจังหวัดสิ้นสุด ที่อกศจ.ด้านบุคคล มีผอ.ทุกเขตเป็นกรรมการ ให้สป.ศธ.วางตัวชี้วัดทำงานผอ.สพท.ชี้คัดผอ.สพท.ต้องสอดคล้องกับเกณฑ์
ที่โรงเรียนอัสสัมชัญนครรราชสีมา จ.นครราชสีมา ในการประชุมมอบนโยบายคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)/คณะอนุกกรรมการ กศจ.และบุคลากรสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 ส.ค.60-นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคมาเป็นเวลา 1 ปีกว่า มีเสียงสะท้อนมาว่าผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นโรคซึมเศร้า หลายคนอยากลาออกจากการเป็นประธานบอร์ด กศจ.เพราะที่ผ่านมาการประชุมส่วนใหญ่ 70-80% เป็นเรื่องโยกย้าย
เพราะฉะนั้น ที่ผ่านมาได้มีการกำหนดใหม่แล้วว่าการประชุมต้องนำวาระเรื่องการพัฒนาการศึกษาเป็นวาระแรก ขณะที่งานบริหารบุคคลจะมีแก้ไขอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้าย จากเดิมที่เป็นของ กศจ.เป็นคณะอนุกรรมการ (อกศจ.) ด้านการบริหารงานบุคคล โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกเขตในจังหวัด เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง เพื่อให้มีอำนาจเบ็ดเสร็จไม่ต้องเสนอเข้ากศจ.อีก
ทั้งนี้ ศธ.ได้เสนอขอแก้ไขคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2559 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาค ซึ่งดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ตอบว่าเป็นอำนาจของ คณะกรรมการขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) ที่จะออกคำสั่งได้ เพื่อเป็นการปลดล็อค ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
"กศจ.ได้สะท้อนปัญหาการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากเขตพื้นที่ฯ ทำให้การขับเคลื่อนงานเป็นไปด้วยความล่าช้า ดังนั้น สำนักงานปลัด ศธ.จะต้องไปกำหนดตัวชี้วัดในการปฏิบัติหน้าที่ของผอ.เขตพื้นที่ฯ และเร็วๆนี้จะมีการสอบคัดเลือกผอ.เขตพื้นที่ฯ ที่ว่างอยู่ 110 อัตรา ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกจะต้องคัดเลือกคนให้ตรงกับตัวชี้วัด หากผอ.เขตพื้นที่ฯไม่ให้ความร่วมมือ จะเสนอให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ย้ายออกจากพื้นที่"นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงสะท้อนเกี่ยวกับหนังสือเวียนของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่สร้างความสับสนให้แก่ผู้ปฏิบัติ จึงขอให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ไปปรับปรุงวิธีการออกหนังสือเวียนให้เข้าใจง่าย ชัดเจนและเป็นแนวทางเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง