Lifestyle

สัมผัสหัวใจที่ "แข็งแกร่ง"แต่"อ่อนโยน"ของแม่เด็กพิเศษ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การเลี้ยงลูก 1คนให้เติบใหญ่ต้องใช้พลังใจ พลังกายของแม่เป็นอย่างมาก ยิ่งหากลูกเป็นเด็กพิเศษยิ่งต้องเพิ่มพลังใจมากขึ้น การได้เห็น"ลูกยิ้ม"ในแต่ละวันจึงเป็นความสุข

      การเลี้ยงลูก 1 คนให้เติบใหญ่ต้องใช้พลังใจ พลังกายของแม่เป็นอย่างมาก ยิ่งหากลูกเป็นเด็กพิเศษ มีปัญหาพัฒนาการล่าช้า ออทิสติก ดาวน์ซินโดรม สมาธิสั้นหรืออื่นๆ ยิ่งต้องเพิ่มพลังใจทบขึ้นไปอีกหลายเท่า และการได้เห็น"ลูกยิ้ม"ในแต่ละวัน ก็เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับแม่ๆเด็กพิเศษ       

      ภายในงานวันแม่ของสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต มีการเชิดชูเกียรติแม่ดีเด่น ประจำปี 2560 ซึ่งเป็นแม่ที่ให้การดูแล เลี้ยงดูลูกที่เป็นเด็กพิเศษ โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี     

       น.ส.ดลยา เประกันยา หรือแม่น้ำ คุณแม่ของน้องมินนี่ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหนึ่งในคุณแม่ดีเด่น ประจำปี 2560 ของสถาบันราชานุกูล บอกว่า ทราบว่าลูกเป็นเด็กพิเศษตอนน้อง 2 ขวบ จากการที่สังเกตเห็นว่าลูกไม่ค่อยสบตา ไม่สนใจสิ่งรอบตัว และไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง จึงไปพบแพทย์ที่ศูนย์สุขภาพชุมชนคลองกุ่ม แพทย์บอกว่าน้องน่าจะเป็นเด็กออทิสติก จึงส่งต่อมายังสถาบันราชานุกูล แพทย์วินิจฉัยยืนยันว่าเป็นออทิสติกและรับเข้าเป็นผู้ป่วยใน ทุกวันจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปส่งลูกชายคนโตวัย 6 ขวบที่โรงเรียน ก่อนพาน้องมินนี่มาที่สถาบันราชานุกูลช่วง 08.30 น.และใช้เวลาในการส่งเสริมพัฒนาการลูกถึงเที่ยง พาลูกกลับบ้านและเตรียมของขายอาหารตามสั่งในตอนเย็นเป็นประจำทุกวันจันทร์-ศุกร์      

        คุณแม่ดลยา กล่าวว่า จากเดิมน้องจะค่อนข้างเอาแต่ใจ ชอบกรี๊ด และทิ้งตัวลงไปนอนกับพื้น เมื่อมาเข้ารับการส่งเสริมพัฒนาการและรักษาที่สถาบันราชานุกูล ตลอด 2 ปี จนตอนนี้น้อง 4 ปีครึ่งแล้วมีพัฒนาการดีขึ้นตามลำดับ มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างมากขึ้น เริ่มพูดแม่จ๋า พูดตาม และบางคำก็พูดเอง ซึ่งในการดูแลน้องก็จะต้องใช้ความต่อเนื่องจะจดจำสิ่งที่ครูแนะนำจากสถาบัน นำไปฝึกลูกต่อที่บ้านด้วยและอดทนกับลูกมากกว่าปกติ ต้องพยายามฝึกให้เข้าใช้ชีวิตประจำวันให้ได้ เวลาอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้าหรือกินข้าวจะต้องจับมือให้เขาทำ ซึ่งโดยนิสัยของเด็กกลุ่มนี้จะชอบต่อต้าน ไม่ยอมทำตาม เพราะฉะนั้น แม่ต้องเอาจริง พยายามใจแข็งแสดงให้ลูกเห็นว่าแม่เอาจริง ยืนยันว่าเขาต้องทำ เขาก็จะเข้าใจและยอมทำ     

        "ความสุขของแม่อยู่ที่ได้เห็นพัฒนากาของลูกดีขึ้นเรื่อยๆ ได้อยู่กับเขา ได้กอดเขา และได้เห็นลูกยิ้มและอารมณ์ดีในแต่ละวัน ซึ่งแม่สังเกตว่าวันไหนที่ลูกอารมณ์ไม่ดี ก็จะไม่ดีทั้งวัน แต่วันไหนอารมณ์ดีก็จะดีทั้งวันด้วย และถ้าแม่อารมณ์ไม่ดี ก็เหมือนลูกซึมซับด้วย แม่ก็ต้องพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นลง ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ เหมือนลูกเป็นคนสอนแม่ด้วย" แม่น้ำกล่าว      เช่นเดียวกับ   นางภานินี ธรรมธัชพิมล    คุณแม่น้องช่อแก้วที่เป็นเด็กดาวน์ซินโดรมแต่สามารถเล่นดนตรีทั้งขิมและเปียโนได้ รวมถึงเรียนร่วมกับเด็กทั่วไป บอกว่า ความสุขของแม่เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าของลูกที่มีความสุข อารมณ์ดี มีรอยยิ้ม แม่ก็มีความสุขมากๆแล้ว แม่จะคิดแค่วันต่อวัน ทำวันนี้ให้ดีให้ลูกมีความสุขที่สุด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ