Lifestyle

ระวัง!!"แก่ก่อนรวย"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 หลายประเทศในเอเชียต่างเผชิญกับภาวะ สังคมสูงวัยไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์มีสัดส่วนของผู้สูงอายุ ใกล้เคียงกับไทยและเป็น Aging Society แม้สิงคโปร์ จะเตรียมแผนรับมือ

 

     เกาหลีใต้เข้าสู่ Aged Society แล้ว แต่ยังไม่มีแผนรองรับที่เป็น รูปธรรมและผู้สูงอายุจำนวนมากยังมีฐานะยากจนและ ญี่ปุ่น มีสัดส่วนผู้สูงอายุมากที่สุดในโลกและ เข้าสู่ Hyper-Aged Society หรือสังคมที่มีประชากร อายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 ของจำนวน ประชากรทั้งหมดและผู้สูงอายุส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง   ทีมข่าวคุณภาพชีวิต [email protected]  นำเสนอทำยังไงไม่ให้ตกอยู่ในภาวะ "แก่ก่อนรวย"

        เมื่อเร็วๆนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย โดย ธนภรณ์ จิตตินันทน์ และ ณัคนางค์ กุลนาถศิริ ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน วิเคราะห์ไว้ว่าประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านจาก Aging Society เป็น Aged Society ใน เวลาที่สั้นกว่าประเทศอื่นๆแต่ที่น่ากังวลกว่าคือประเทศไทย “แก่ก่อนรวย”พร้อมกับนำเสนอการรับมือกับสังคมสูงวัยด้วยการ(1)การขยายอายุเกษียณเป็นนโยบายที่สามารถทำได้ในระยะสั้นแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ถาวรจากงานศึกษาของ Ariyasajjakorn and Manprasert (2014) พบว่าสามารถ ‘เลื่อน’ ผลกระทบ ต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยออกไปได้ประมาณ 10 ปีขณะที่ประเทศไทยอยู่ระหว่างการเสนอ คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ขยายอายุเกษียณของ แรงงานในสถานประกอบการจาก 55 เป็น 60 ปี

ระวัง!!"แก่ก่อนรวย"

     (2)สนับสนุนให้บริษัทจ้างงานผู้สูงอายุ  ภาครัฐได้จัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงวัย (Smart Job Center) เพื่อส่งเสริมให้มีงานทำและมีรายได้เพิ่มขึ้นในขณะเดียวกันรัฐบาลได้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทที่จ้างผู้สูงวัยตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งต้องมีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท 

     อย่างไรก็ตามแรงงานสูงอายุกลุ่มนี้มีเพียง 3 แสนคนหรือร้อยละ 2.9 ของผู้สูงอายุทั้งประเทศนโยบายนี้จึงเป็นเพียงแค่การ ช่วยเหลือแรงงานเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยไม่ได้สนับสนุนให้มีการทำทักษะและประสบการณ์ของ ผู้สูงอายุมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างที่หลาย ประเทศทำกันเท่าใดนัก

     (3)เพิ่มทักษะและจัดหางานให้เหมาะสมกับแรงงานจะช่วยเพิ่มความสามารถในการหารายได้และยกระดับผลิตภาพของแรงงานในระยะยาว ขณะนี้ภาครัฐมีโครงการฝึกอบรมแรงงานสูงอายุเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพที่หลากหลายมากขึ้นและมีการคุ้มครองทางสังคมให้ผู้สูงอายุสามารถพึ่งพาตนเองได้

ระวัง!!"แก่ก่อนรวย"

     (4)ยกระดับคุณภาพชีวิต ภาครัฐวางระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ต่อการดำรงชีวิต ของผู้สูงอายุรวมถึงการจัดสรรรายได้และรายจ่ายอย่างสมดุลโดยเฉพาะรายได้หลังวัยเกษียณผ่านการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นอกจากนี้ภาคเอกชนก็มีส่วนช่วยพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับสังคมสูงวัยประเทศไทยยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ค่อนข้างจำกัดส่วนใหญ่จะเป็นโรงพยาบาลหรือศูนย์บริการทางการแพทย์ที่อยู่ไกล จากบ้าน หรือยังไม่มีรถโดยสารในการเดินทางไปต่าง สถานที่ ทำให้ผู้สูงอายุจำนวนมากมีความยากลำบาก ในการเข้าถึงสวัสดิการจากส่วนกลาง

ระวัง!!"แก่ก่อนรวย"

     (5)การมีส่วนร่วมและประสานงานของหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญอย่างมากที่ประเทศไทยต้องพัฒนา ต่อไป ทั้งระบบบำนาญจะต้องยืดหยุ่นและสอดคล้อง กับแนวโน้มนโยบายด้านแรงงาน ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปยังภาระการคลังในการดูแลสวัสดิการและรักษาพยาบาลอีกด้วย

ระวัง!!"แก่ก่อนรวย"

      "วรานนท์ ปีติวรรณ"  อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวว่ากรมการจัดหางานได้จัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงอายุขึ้นที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 และที่ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) ภายในกระทรวงแรงงานส.ค. 2559 - มี.ค. 2560 มีผู้สูงอายุมาใช้บริการจัดหางาน จำนวนทั้งสิ้น4,612 คน ได้รับการบรรจุงานแล้ว จำนวน446 คน โดยได้รับการบรรจุงานในตำแหน่งแรงงานด้านการผลิตมากที่สุด รองลงมาเป็นแรงงานบรรจุ ช่างสานตะกร้า เจ้าหน้าที่สินเชื่อ พนักงานต้อนรับ ตามลำดับ สร้างรายได้ 4,920,000 บาทต่อเดือนหรือ 59,040,000  บาทต่อปี

ระวัง!!"แก่ก่อนรวย"

     ทั้งนี้ได้มีการให้บริการจัดหางานผู้สูงอายุทางเว็บไซต์ www.doe.go.th/elderly ด้วย โดยภายในเว็บจะจำแนกตามประสบการณ์ คุณสมบัติ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ ในกลุ่มงานประจำ งานชั่วคราว งานสัญญาระยะสั้น งานรับงานไปทำที่บ้าน และงานที่ปรึกษา ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลให้กับนายจ้างและสถานประกอบการใช้ในการพิจารณาคัดเลือกได้ หากผู้สูงอายุต้องการจะหางานทำ หรือนายจ้าง/สถานประกอบการใดประสงค์จะจ้างงานผู้สูงอายุ ติดต่อได้ที่ศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงอายุที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

ระวัง!!"แก่ก่อนรวย"

     ทั้งนี้มี มาตรการภาษีเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย โดยกฎหมายประกาศใช้เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 มีพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 สาระสำคัญคือให้สิทธิประโยชน์ภาษีการจ้าง “ผู้สูงอายุ” ผู้จ้างที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนำค่าจ้างไปเป็นรายจ่ายในการคำนวณเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 2 เท่าของค่าจ้างจริง 

ระวัง!!"แก่ก่อนรวย"

      ผู้สูงอายุที่จ้างต้องเกิดก่อนวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2498 สัญชาติไทย เคยเป็นลูกจ้างของนิติบุคคลที่จ้างอยู่ก่อนแล้ว หรือเป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนหางานไว้กับกรมการจัดหางานไม่เป็นและไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลที่จ้าง หรือนิติบุคคลในเครือเดียวกัน  ค่าจ้างต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท (ถ้าค่าจ้างเกินนี้หักเป็นรายจ่ายได้ตามจริง แต่ไม่ได้สิทธิประโยชน์ในการหักรายจ่ายเพิ่ม) เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศ

    ส่วนผู้สูงอายุที่ต้องการพักผ่อน “สมคิด สมศรี” อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) บอกว่า มีศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ รองรับ อาทิ บ้านบุรีรัมย์ ขอนแก่น อยุธยา บางแค  นครพนม ภูเก็ต บางละมุง สงขลา ปทุมธานี บ้านธรรมปกรณ์เชียงใหม่

ระวัง!!"แก่ก่อนรวย"

       ซึ่งยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือศูนย์ให้อำนวยการศูนย์มีอำนาจในการอนุญาตให้ผู้สูงอายุเข้าใช้บริการในศูนย์ มีทั้งไม่เสียค่าบริการปลูกบ้านอยู่เองโดยอนุญาติให้ผู้สูงอายุปลูกบ้านพักอาศัยอยู่ในบริเวณศูนย์ ส่วนประเภทหอพักเสียค่าบริการตามอัตราที่กำหนด จะพ้นสภาพในกรณีลาออก ,

ระวัง!!"แก่ก่อนรวย" ระวัง!!"แก่ก่อนรวย"

        ออกจากศูนย์เกินวันเวลาที่ได้รับอนุญาต หรือออกจากศูนย์โดยไม่ได้รับอนุญาตติดต่อกันเกิน 30 วัน , ถึงแก่กรรม ,โดนส่งตัวไปยังหน่วยงานอื่น , ครบกำหนดเข้าใช้บริการ ,กระทำผิดทางอาญา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขอรับตัวไปควบคุมเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย แต่ขณะนี้ยอดจองเฉพาะบางที่แคมีประมาณ 1,000 คนแล้ว โดยที่บ้านบางแคจ่ายค่าธรรมเนียมเพียงครั้เดียวรายละ 300,000 บาท

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ