Lifestyle

เตือนจะนวดต้องรู้ตัวเองแบบนี้ก่อน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สบส.ประสาน สสจ.ชลบุรี ตรวจสอบร้านนวดทำลูกค้าขาหัก เตือนป่วยโรคประจำตัวต้องระวัง

       จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ถึงหญิงอายุ 59 ปี ซึ่งได้นวดจับเส้นที่ร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้ขาของหญิงรายดังกล่าวหัก จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล   

          นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่ากรม สบส.ในฐานะหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคมิได้นิ่งนอนใจ โดยได้ประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี (สสจ.ชลบุรี) ส่งพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบร้านนวดดังกล่าว พบชายวัย 50 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพและเป็นผู้ให้บริการแก่หญิงรายดังกล่าวด้วย โดยได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จาก สสจ.ชลบุรี จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพโดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป      

         ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ขอเน้นย้ำให้สถานประกอบการเพื่อสุขภาพทุกแห่ง ต้องมีการซักประวัติเพื่อประเมินสภาพร่างกายของผู้มารับการนวดทุกครั้ง ห้ามให้บริการนวดแก่บุคคลที่มีอาการ 13 ข้อดังต่อไปนี้ คือ 1.มีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส 2.มีอาการโรคติดเชื้อเฉียบพลัน 3.มีการอักเสบจากการติดเชื้อ 4.กระดูกแตก หัก ปริ ร้าว ข้อเคลื่อน 5.เป็นโรคหัวใจ 6.ความดันโลหิตสูง 7.เบาหวานที่ยังควบคุมอาการให้เป็นปกติไม่ได้ 8.มีโรคผิวหนังมีแผลเปิดเรื้อรัง 9.โรคติดต่อระยะแพร่เชื้อ 10.โรคมะเร็ง 11.แผลหลังผ่าตัดยังไม่หายสนิท 12.หลอดเลือดดำอักเสบ และ13.กระดูกพรุนรุนแรง  ห้ามให้บริการนวดเด็ดขาดเพราะอาจเกิดอันตรายได้          

         หากประชาชนพบร้านนวดไม่ได้มาตรฐาน หรือเปิดร้านโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งเบาะแสมายังกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18429 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และประสานพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป        

         ด้าน  นพ.ปราโมทย์   เสถียรรัตน์  รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในฐานะโฆษกกรม กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559  กฎหมายฉบับนี้จะบังคับให้ร้านนวดเพื่อสุขภาพทั้งหมดต้องขึ้นทะเบียนเพื่อรับรองมาตรฐาน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าผิดกฎหมายมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนและปรับไม่เกิน 50,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ       

       สำหรับการเข้ารับบริการการนวดแผนไทย  ผู้ให้บริการนวดไทยในสถานพยาบาลต้องได้รับใบประกอบวิชาชีพ  ในสถานประกอบการผู้ให้บริการต้องได้รับการอบรมการนวดแผนไทยตามมาตรฐานกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ   ตามมาตรฐานแล้วก่อนให้บริการนวดรักษาหรือนวดผ่อนคลายต้องซักประวัติและตรวจประเมินผู้มารับบริการก่อนว่า         มีอาการป่วยหรือผ่านการรักษาใดๆ มาบ้าง   วัดความดันโลหิตเพื่อประเมินแนวทางการรักษาหรือการนวด  ซึ่งหากพบว่า  มีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส ความดันสูงเกิน 140 อัตราการเต้นหัวใจมากกว่า 24 ครั้งขึ้นไปและชีพจรมากกว่า 80 ครั้ง จะไม่สามารถให้บริการนวดได้ เพราะการนวดจะทำให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ความดันสูงขึ้น ขณะที่ความร้อน     ในร่างกายจะสูงขึ้นด้วย ทำให้คนเป็นไข้ยิ่งตัวร้อนขึ้น เกิดอาการอ่อนเพลีย           

      โฆษกกรม กล่าวอีกว่า จุดที่ห้ามนวดเด็ดขาดคือ ตามแนวกระดูกและหลอดเลือด แนวกระดูกต้นคอ         แนวกระดูกสันหลัง  บริเวณซี่โครง บริเวณข้างคอ  ใต้หู  หลังหู  และต่อมน้ำเหลืองใต้คาง การนวดบริเวณหลังจะเป็น     การนวดตามแนวสันกล้ามเนื้อไม่ใช่บริเวณกระดูกสันหลัง  ส่วนจุดที่ต้องระวังคือการกดจุดเปิดประตูลม ควรทำแค่ครั้งเดียวไม่เกิน 45 วินาที และจุดที่เป็นศูนย์รวมของเส้นประสาทต่างๆเช่น ข้อพับแขน ข้อมือ และข้อพับขา ส่วนข้อควรระวังอื่น           คือ กลุ่มเด็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ โรคหลอดเลือด ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ยังควบคุมอาการให้เป็นปกติไม่ได้                   โรคกระดูกพรุนรุนแรง  ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดใส่เหล็กและข้อเทียม หรือจุดที่เคยทำศัลยกรรมตกแต่ง บริเวณที่มีการอักเสบจากการติดเชื้อ  กระดูกแตก หัก ปริ ร้าว ข้อเคลื่อน  โรคหัวใจ  ความดันโลหิตสูง  โรคผิวหนังมีแผลเปิดเรื้อรัง   โรคติดต่อระยะแพร่เชื้อ   โรคมะเร็ง   แผลหลังผ่าตัดยังไม่หายสนิท   หลอดเลือดดำอักเสบ  เป็นต้น        

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ