รองนายกฯ ย้ำไม่ยุบสมศ. แต่ต้องปรับตัวใหม่ เน้นร่วมมือทุกภาคส่วน ประเมินภายนอก-ภายในต้องสอดคล้องกัน ด้าน "หมอธี" เผยให้สมศ.มาอยู่ภายใต้การกำกับรมว.ศึกษาธิการ
จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) มาอยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้นพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เปิดเผยว่า จากนี้สมศ.จะต้องปรับตัวในการทำงานใหม่
โดยเปลี่ยนการทำงานใหม่ที่เน้นความร่วมมือกับทุกภาคส่วนมากขึ้น ทั้งกับโรงเรียน ผู้บริหาร นักเรียน รวมถึงศธ. โดยเฉพาะในการประเมินภายนอกและประเมินภายในที่จะต้องสอดคล้องกัน มากขึ้น
ขณะเดียวกันศธ.ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าผลการจัดการศึกษาไม่ได้ตกต่ำอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน แต่ที่ผลออกมาว่าการศึกษาไทยตกต่ำเช่นนั้นอาจเป็นเพราะแนวทางการประเมินของภายในประเทศ กับต่างประเทศไม่สอดคล้องกัน ส่วนที่มีผู้เรียกร้องให้ยุบ สมศ.นั้น ยืนยันว่าไม่ยุบแน่นอน แต่ สมศ.ต้องปรับตัวเองใหม่
สำหรับการประเมินภายนอกรอบที่ 4 ซึ่งเริ่มประเมินได้ประมาณช่วงไตรมาสที่ 4 คือเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะประเมินโรงเรียนที่สมัครใจเข้ารับการประเมินก่อน โดยจะใช้เกณฑ์การประเมินใหม่ที่จะไม่ใช้เกณฑ์กลางในการประเมินเหมือนกันทั่วประเทศ เหมือนที่ผ่านมา แต่จะใช้เกณฑ์การประเมินที่เหมาะสมกับแต่ละโรงเรียน
รวมทั้งเป็นการประเมินเพื่อให้คำแนะนำว่าโรงเรียนมีจุดบกพร่องตรงไหน ควรจะปรับปรุงเรื่องอะไร และจะต้องให้เวลาโรงเรียนในการปรับปรุงด้วย อย่างไรก็ตามสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ สมศ.จะเข้าพบในฐานะที่กำกับดูแล สมศ. ซึ่งคงจะมาเล่าให้ฟังว่าถึงการเตรียมการดำเนินงานในการประเมินรอบใหม่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและดูว่าจะช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้แก่การศึกษาไทยอย่างไรบ้าง
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ไป ศธ.รอการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับการเปลี่ยนหน่วยงานตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ สมศ.มาอยู่ภายใต้การกำกับของ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนคำจำกัดความเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นองค์กรอิสระเหมือนเดิมคล้ายกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาลัยศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ที่มีคณะกรรมการกำกับดูแล
ซึ่งไม่ได้เป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างแต่เปลี่ยนการทำงานให้สอดคล้องกัน มีภารกิจที่อิสระเพียงแต่ภายใต้การกำกับของ รมว.ศึกษาธิการ ทั้งนี้ไม่ห่วงการทำงานของ สมศ.แล้ว อีกทั้งก็ยังได้พบกับ ผอ.สมศ.คนใหม่แล้วเช่นกันก็สามารถทำงานด้วยกันได้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่าว่า เรื่องนี้คือการกำกับดูแลแต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งในเรื่องของการประเมิน ซึ่งสมศ.ยังเป็นองค์กรอิสระเหมือนเดิม เช่น สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ก็ไม่เคยเข้าไปสั่ง สทศ.ว่าให้ออกข้อสอบแบบนั้นแบบนี้ เป็นต้น เพราะทำไม่ได้
เพราะทั้งสทศ.และสมศ.มีการบริหารโดยคณะกรรมการอยู่แล้ว และตนคงไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงาน แต่เหตุผลการเปลี่ยนมองว่าเป็นเรื่องของความเหมาะสมมากกว่า
ส่วนที่นักวิชาการมองว่า สมศ.อยู่ใต้ปีก ศธ.เหมือนเป็นการถอยหลังลงคลองนั้น อยากจะคิดหรือพูดอะไรก็ตามใจ เพราะเรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เป็นผู้กำหนดให้ ครม.พิจารณา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง