ชิงดำ!!! “เลขาธิการ สกสค.”

 

          ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ไอ้โม่ง” มีความพยายาม รวบรัด ตัดตอน จะเคาะเลือก "เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา" หรือ "เลขาธิการ สกสค." ควบคู่ไปกับการส่ง “หน้าม้า” ออกมายืนยันกับสื่อว่า การประกาศสรรหาเลขาธิการ สกสค. และเลขาธิการคุรุสภานั้น ดำเนินการตามคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่17/2560 เปิดกว้าง โปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล ไม่ปิดกั้น แต่มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเพียง 4 ราย ซะงั้น!! (อ่านต่อ...ลือหึ่ง!! ล็อกสเปก เก้าอี้“เลขาธิการสกสค.”)

          "ดร.พิษณุ ตุลสุข"รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค. คนดีเมืองเพชรบูรณ์ แต่ทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกมานานหลายปี ขวัญใจองค์กรครู  ได้รับ “คำสั่ง” ให้มาเตรียมตัวเป็น “ตัวจริง”  ชนิดที่เรียกได้ว่า“ใส่พานนอนมา” นับตั้งแต่ได้รับความไว้วางใจให้มานั่ง“รักษาการเลขาธิการ สกสค.”แม้ก่อนหน้านั้น เคยออกตัวกับสื่อว่า “เกษียณแล้วผมจะเขียนหนังสือ” ก็ตาม

           "นางผานิตย์ มีสุนทร“ เศรษฐีนีเมืองชลบุรี ผู้บริหารสายเป ชีวิตหลังเกษียณในตำแหน่ง”รองปลัดศธ.“ได้รับการทาบทามจาก “ดร.พิษณุ  ตุลสุข” ให้มานั่งเก้าอี้ “ที่ปรึกษาองค์การค้าของ สกสค.” แต่ในอดีตเคยปฏิบัติหน้าที่ “ประธานที่ประชุมบอร์ดองค์การค้าฯ ของ สกสค." แทน ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะนั้น แปลกแต่จริงกลับได้รับการเสนอชื่อชิ่งตำแหน่ง “เลขาธิการ สกสค.” ลงสนามแข่งขันกับผู้มีพระคุณ เข้าข่าย“นอมินี”หรือไม่? รวมทั้งเพื่อจะตัดคะแนน "ผู้สมัครรายอื่น" ด้วยหรือไม่?

          "นายสันติ รุ่งสมัย“ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาเพชรบุรีเขต.2(สพป.เพชรบุรีเขต2)ที่อุตสาห์ลาออกจากราชการก่อนวันเกษียณ ตามคำชวนของ "ดร.พิษณุ ตุลสุข" มาเป็น ”แขนขา" ในตำแหน่ง “ที่ปรึกษาด้านกฏหมาย สกสค.” เข้าข่ายเป็น“นอมินี” อีกคนหรือไม่? งานนี้จึงเรียกได้ว่า"กันท่า"เพื่อความจงรักภักดี

 

พล.ท.โกศล ประทุมชาติ

          “นายสมมาตร์  มีศิลป์” อดีตผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. เพียงคนเดียวที่ทำกำไร ผ่านมรสุมชีวิต พิชิตชัยชนะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมาแล้วหลายสมัย ด้วยการพิสูจน์ผลงาน แต่ไม่เป็นที่ต้องการของ “นักการเมือง” ด้วยสไตล์การทำงานแบบคนรุ่นใหม่ ไม่ประจบสอพลอตอแหล!!

          เพื่อสยบข่าวลือ!!! ล็อกสเปกเก้าอี้เลขาธิการสกสค. ทำให้ “พล.ท.โกศล  ประทุมชาติ” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ “หมอธี”(นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์)ในฐานะรองประธานคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ปัญหาการทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ จะนั่งเป็นประธานหัวโต๊ะในแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ได้รับการเสนอชื่อ "ว่าที่ เลขาธิการ สกสค." ทั้ง 4 รายดังกล่าว ในวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2560 เริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. ที่อาคารรัชมังคลาภิเษก ชั้น 9 กระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ  

          องค์การค้า ของ สกสค. เปรียบเหมือน “รัฐวิสาหกิจของรัฐ” เช่น ปตท. การบินไทย ขสมก. การรถไฟ แต่องค์การค้าของ สกสค. มีหน้าที่ผลิตตำราจำหน่ายให้นักเรียนกว่า 15 ล้านคนต่อปี และสามารถพยุงราคาหนังสือ ไม่ให้เอกชนรายอื่นขายหนังสือแบบเรียนแพงเกินไป ดังนั้น “สเปก เลขาธิการ สกสค.” ที่จะมาดูแลหน่วยงานสำคัญยิ่ง ต่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาไทย ควรมีคุณสมบัติดังนี้     

 

                

          "1.ต้องไม่กู้เงินเพิ่ม 2.ยึดตลาดหนังสือแบบเรียนร้อยละ55-60 ยอดขายไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท/ปี 3.บริหารกองทุนชพค./ชพส.ไม่ให้ครูก่อหนี้เพิ่มและไม่ขยายวงเงินกู้จาก 3 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท 4.ไม่กินเงินนอกระบบของครู 5.ทวงเงินครูหาย 2,500 ล้านบาทจากบริษัท บิลเลี่ยนอินโนเวเท็ดกรุ๊ป 

          6.ไม่ปลดพนักงานองค์การค้าแม้แต่คนเดียวเพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเพิ่มภาระสังคม 7.สามารถชำระหนี้ ที่ค้างจ้างพนักงานองค์การค้า ของ สกสค. 1,454 ราย จำนวนกว่า 800 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย ตามคำพิพากษาศาลฎีกา(ทางแพ่ง)โดยไม่กู้เงินภายนอกภายใน 2 ปี 8.สกสค.ควรจ้างที่ปรึกษาด้านธุรกิจ ด้านกฏหมาย ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อขยายธุรกิจสู่ตลาดอาเซียน อีกทั้งไม่ควรขายทรัพย์สินเพราะเป็นสมบัติของแผ่นดิน

           เหนืออื่นใด "ว่าที่เลขาธิการ สกสค." เป็นเพียงคนดีหรือ“มิสเตอร์คลีน”แก้ผ้าเอาหน้ารอด บริหารแบบสุ่มเสี่ยงเช่นในอดีตไม่ได้อีกแล้ว  เมื่อโลกธุรกิจเปลี่ยนไป คนมาใหม่ต้องเป็นคนเก่งเชิงธุรกิจ ทำหน้าที่พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของรัฐเอาไว้สูงสุด ต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการ พิมพ์หนังสือแบบเรียนปีละ 40 ล้านเล่ม ให้เสร็จก่อนวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี และส่งถึงโรงเรียนก่อนเปิดเทอม(15 พ.ค.ของทุกปี)

           ถามใจ“พล.ท.โกศล ประทุมชาติ”ที่เดิมพันตำแหน่ง "กวาดล้างทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ" จะเลือกคนแบบไหน???  มาบริหาร“องค์การค้าฯและเลขาธิการสกสค.”  ยุคทหาร อย่าให้ ประชาชนมาด่าว่าหาคนมาบริหาร“หนี้ครูและองค์การค้าของสกสค”เจ้ง!!!