Lifestyle

4 ปัจจัย "เอกชน"จ้างงาน"ผู้สูงวัย"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

" พญ.ลัดดา" แนะ ปรับระบบกฎหมาย แรงจูงใจ ดึงเอกชนร่วม จ้างแรงงาน "ผู้สูงวัย" เพิ่ม เผย 4 ปัจจัยเอกชนจ้างงาน

          เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2560 พญ.ลัดดา ดำริการเลิศ เลขาธิการมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.เปิดเผยผลสรุปโครงการนำร่องเครือข่ายพัฒนารูปแบบ การขยายอายุการจ้างแรงงานผู้สูงวัยในสถานประกอบการ ที่มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.)ร่วมมือกับภาคธุรกิจ 13 บริษัท สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งในบทสรุป   มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า การที่ภาคธุรกิจจะจ้างแรงงานใหม่  มีต้นทุนที่นายจ้างจะต้องจ่าย ทั้งเงินเดือน สวัสดิการ และโบนัส น้อยกว่าการจ้างงานผู้สูงอายุมาก แต่หากคำนวณในแง่การลดต้นทุนการฝึกอบรมหรือ ประสิทธิภาพการผลิตในบางอุตสาหกรรมแล้ว  หากคุ้มค่ากว่าบริษัทก็จะตัดสินใจเลือกจ้างงานผู้สูงอายุ

         "นอกจากนี้   ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่า การตัดสินใจของบริษัทที่จะจ้างงานผู้สูงอายุนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ 1. นโยบายบริษัท 2. การจัดการองค์ความรู้ที่หากหาพนักงานใหม่มาแทนไม่ทันอาจแก้ปัญหาด้วยการจ้างผู้สูงอายุทำงานต่อ 3. ภาวะตลาดแรงงานบางประเภทที่หากขาดแคลนแรงานก็อาจใช้ทางเลือกจ้างแรงงานผู้สูงอายุ และ 4 นโยบายภาครัฐ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เพราะจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายรวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ"พญ.ลัดดาระบุ

         เลขาธิการมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม ในแง่กฎหมาย การจ้างงานผู้สูงอายุภายหลังเกษียณ ตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 พบว่า นายจ้างจะต้องจ่ายเงินชดเชยภายหลังสัญญาจ้างหมดลงด้วย อันอาจเกิดความไม่เป็นธรรมแก่นายจ้างที่จะต้องเสียค่าชดเชยจ้างแรงงานผู้นั้นถึงสองครั้ง ทำให้การจ้างแรงงานหลังเกษียณอาจไม่ดึงดูดใจนายจ้างอีกต่อไป ตรงกันข้ามกับการเลี่ยงกฎหมายของนายจ้างที่อาจใช้การทำสัญญาจ้างราย 11 เดือนขึ้นมาแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าชดเชยที่จะไม่เป็นธรรมแก่ลูกจ้าง ประเด็นนี้จึงจำเป็นต้องหาวิธีแก้ไขให้เหมาะสมต่อไป

          พญ.ลัดดา กล่าวอีกว่า  อีกทั้งมาตรการจูงใจที่กระทรวงแรงงานออกมาตรการให้สถานประกอบการที่จ้างผู้สูงอายุ ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถนาเอาค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า โดยที่จำนวนการจ้างงานนั้นจะต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนแรงงานทั้งหมด สมมติ พนักงานทั้งบริษัทมี 200 คน จะจ้างผู้สูงวัยที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปได้ไม่เกิน 20 คน นอกจากนี้ยังกำหนดค่าจ้างที่จ้างผู้สูงอายุรวมกัน จะต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของรายจ่ายค่าจ้างในบริษัทนั้น ๆ ซึ่งพบว่ามาตรการนี้ไม่จูงใจผู้ประกอบการในการจ้างแรงงานสูงอายุมากเท่าไหร่

     “ทั้งนี้ การจ้างแรงงานสูงวัย จะช่วยแก้ปัญหาวัยแรงงานที่หายไปจากระบบและที่สำคัญยังช่วยลดภาวะการพึ่งพิงได้เป็นอย่างดีเป็นปัจจัยสาคัญในการขัดขวางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในอนาคตได้ เพื่อรองรับประเทศไทยจะเป็นสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 สอดรับกับสัดส่วน “วัยแรงงาน” กับ “วัยสูงอายุ ที่กำลังลดลงจากจากเดิมวัยแรงงาน 4.3 คน ต่อ ผู้สูงอายุ 1 คน จะปรับลดลงกว่าครึ่งเหลือ วัยสูงอายุ 2 คน ต่อผู้สูงอายุ 1 คน ในอีก20 ปีข้างหน้า”พญ.ลัดดาระบุ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ