“มีตั๋วครู-ไม่มีตั๋วครู”แล้วงัย!!!

          “ตั๋วครู”ยังถูกสร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองความเป็นวิชาชีพเฉพาะ “ผูกขาด”ไม่ให้คนที่ไม่เรียนครูเข้ามาเป็นครู แม้ล่าสุดพบกับครั้งทาง เมื่อ 29 มี.ค.2560 มติบอร์ดก.ค.ศ. หรือ คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)ไฟเขียวให้25สาขาไม่มีตั๋วครูสอบครูผู้ช่วยได้ แถม“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่าระบบการศึกษาไทยต้องปฏิรูป ครูสาขาอื่นต้องประเมินทุก 6 เดือน 2 ปีไม่ผ่านถอดออก!!

         แต่ในมุมมองของประชาชนคนจ่ายเงินเดือนข้าราชการครู...“นายคมเทพ ประภายนต์” อุปนายกคนที่1สมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ เปิดใจกับ“กมลทิพย์ ใบเงิน”เวบไซด์“คมชัดลึก”เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ต่อกรณี“มีตั๋วครู-ไม่มีตั๋วครู แล้วงัย!! พ่อแม่ ผู้ปกครอง มีสิทธิ์ขอคนฉลาดๆ มาเป็นครูของลูกมั่งได้ไหม!!

          “ครูมืออาชีพ มันไม่ใช่ว่าเรียน 4 ปีหรือเรียน 5 ปี มันอยู่ที่จิตสำนึกและจิตวิญาณมากกว่า ต่อให้มีการอบรม มีจิตวิทยา แต่ถ้าจิตวิณญาณไม่มี และไม่รับรู้กับคำว่าโอกาส ที่จะต้องให้ มันจะมีความหมายอย่างไร กับคำว่าครู  ฉะนั้น “ครู”มืออาชีพ กับอาชีพ“ครู”คนละเรื่องเดียวกันครับ”

          เหนืออื่นใด วงการอุดมศึกษาแหล่งผลิตครู ละเลยผลิตครูในสาขาที่ขาดแคลนมายาวนาน เวลาเปิดสอบแต่ละครั้งก็มีคนสอบน้อยมาก เช่น ครูเอกคณิตสาสตร์ รับได้ 50 อัตรา ปรากฏว่ามาสมัครสอบไม่เกิน 30 คน แถมในจำนวนเหล่านี้ก็มีคำถามด้านคุณภาพ

          "เมื่อล้วงลึกลงไปในวิชาเฉพาะ ที่จะตอบคำถามความเป็นวิชาชีพครูนั้น  ผมตกใจมาก วิชาชีพครูที่บอกเรียนหลักสูตรครูมา 5 ปี  แต่เรียนวิชาชีพเฉพาะไม่ถึง 30 หน่วยกิต  ต่างจากสภาวิชาชีพอื่นๆ ที่เรียนเจาะลึก อย่างผมกว่าจะเป็นทนายความว่าความได้ ต้องเรียนวิชาชีพเฉพาะถึง 104 หน่วยกิตกว่าจะได้ตํ๋วทนายความต้องสอบอีกหลายสนาม  ต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน ไม่ได้ตั๋วแบบอัตโนมัติเหมือนวิชาชีพครู"

          ไม่เพียงเท่านั้น อาจารย์คณะครุศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ ที่เป็น“ครูของครู” ก็ไม่มีตั๋วครู แต่อาจารย์เหล่านี้ เดินสายสอนนักศึกษาไปทั่วทุกมหาวิทยาลัย  เป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก เมื่อเทียบกับวิชาชีพอื่น ถึงเวลาที่สังคมไทยต้องยอมรับความจริงกันเสียทีว่า คนเรียนครูไม่ใช่พวกหัวกะทิ แต่ได้รับสิทธิพิเศษในสังคมมากมาย      

          “เรามีครูอยู่ 4 แสน มีพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกหลานเรียนอยู่ในระบบการศึกษาอีก 60 ล้านคน และมีนักเรียนอยู่ในระบบอีก 14 ล้านคน ผมถามว่าทุกวันนี้ลูกหลานไทยได้เรียนกับคุณครูที่เก่งจริงหรือไม่ ทำไมโรงเรียนดี เด่นดัง หรือ หลักสูตร 2 ภาษา ต้องจ้างติวเตอร์เก่งๆ  ต้องจ้างต่างชาติมาสอน ในอัตราค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว หากไม่ใช่เพราะคุณภาพของครูไม่มี”

          นายคมเทพ  ยังสะท้อนวิกฤติศรัทธาครู ด้วยว่า   หัวออกคนเป็นพ่อเป็นแม่ เจ็บปวดมากๆ เมื่อต้องส่งลูกมาเรียนกับครูที่ปลอมวุฒิปริญญา ครูที่ปลอมตั๋วครู ครูที่ไม่มีจิตวิญญาณของความเป็นครู แต่ประกอบอาชีพครู หากกระทรวงศึกษาธิการ ต้องจำใจเอาครูปลอมมาสอนลูกหลานของเรา พ่อแม่ผู้ปกครองจะไว้ใจได้อย่างไร ดังนั้นคนที่ไม่มีตั่วครู ไม่ได้เรียนครู แต่มีความรู้ ความสามารถ มีจิตวิณญาณความเป็นครูสูง และยังสามารถพัฒนาคุณภาพของเด็กได้ดีจึงเป็นทางเลือกที่พ่อแม่ผู้ปกครองไว้วางใจ

          "ทำไมติวเตอร์ถึงเป็นที่นิยมของนักเรียน ทั้งที่่คนเหล่านี้ไม่มีตั๋วครู  จะมากีดกันทำไม ในเมื่อคนที่มีตั๋วครูบางคนสอนเด็กได้ไม่ดีเท่ากับติวเตอร์ เปิดใจรับความเปลี่ยนแปลงบ้าง เพื่อเห็นแก่คุณภาพของนักเรียนที่เป็นอนาคตของไทย  การศึกษาบ้านเมืองเราแข่งขันเขาไม่ได้ส่วนหนึ่งเพราะนักวิชาการใจแคบ  การศึกษาชาติมันถึงล้มเหลวขนาดนี้ แล้วยังหวงอะไรอีก สิ่งที่เกิดขึ้นมาหลายปี ปริญญาครูปลอม ทุจริตสอบครู ทุจริตคอรัปชั่น แบบชนิดที่คสช.ต้องใช้ม.44 เต็มไปหมด"นายคมเทพ ระบุ 

        นายคมเทพ ยังกล่าวถึงกลุ่มต่อต้านกำลังล่า 50,000 ชื่อเพื่อถอดถอน นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า  ตามกฏหมายแล้วการจะยื่นถอดถอนรัฐมนตรีได้นั้นต้องมีสาเหตุมาจากการประพฤติชั่ว ทุจริต คอรัปชั่น โกงกินบ้านเมือง ถึงจะสามารยื่นถอดถอนได้ แต่กรณีของนพ.ธีระเกียรติ ไม่ได้ประพฤติชั่วโกงกิน แต่นพ.ธีระเกียติกำลังจะแก้ไขจุดอ่อนระบบการศึกษาไทย เป็นการทำดี ไม่ได้ทำชั่ว ควรจะให้กำลังใจมากกว่าไล่ออก

          ครู 4 แสนคนในระบบราชการไทย ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน ก้อนโตกว่า 5 แสนล้านบาทจ่ายเป็นเงินเดือนครู  มีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงเป็นลูกโซ่กับแหล่งผลิตครู ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้อง“พูดความจริง” เพื่อแก้ไขจุดอ่อนระบบการศึกษาไทย ก่อนจะกลายเป็นประเทศล้มละลาย!!!