Lifestyle

วัคซีนเพื่อน้องป้องกันมะเร็งปากมดลูก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จำเป็นต้องเฝ้าระวังมะเร็งปากมดลูกให้กับวัยรุ่นผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรในกลุ่มที่ขาดโอกาสได้รับความรู้แนวทางการป้องกันโดยเฉพาะเยาวชนหญิงในสถานพินิจ

       สมาคมมะเร็งนรีเวช จัดกิจกรรมสร้างสรรค์สังคม ภายใต้ชื่อโครงการ “One Gift for One Life วัคซีนเพื่อน้อง ป้องกันมะเร็งปากมดลูก” พร้อมร่วมมือกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้ความรู้และแนวทางการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก พร้อมฉีดวัคซีนเอชพีวี ป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้แก่เยาวชนหญิง ภายใต้ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน จำนวน 11 แห่งทั่วประเทศ

         โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนมิถุนายน.2560 ในวันที่ 27 มีนาคม 2560 เพื่อให้เด็ก เยาวชน หรือกลุ่มสตรี มีสิทธิเข้าถึงวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้กัน ลดอัตราการเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคต

วัคซีนเพื่อน้องป้องกันมะเร็งปากมดลูก

          ศ.พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ในแต่ละปีเยาวชนที่กระทำผิดอายุระหว่างไม่เกิน 18 ปี มีมากถึง 30,000 คน ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนดูแลเยาวชนที่เป็นผู้หญิงประมาณ 1,000 คน เป็นเด็กในกลุ่มเปราะบาง ด้วยสภาพความเป็นอยู่ทางบ้านที่ให้ความรู้หรือดูแลได้ไม่ทั่วถึง การดูแลสุขภาพของเด็กและเยาวชนภายใต้การดูแลของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนจึงจำเป็น

      มะเร็งปากมดลูกนับว่าเป็นภัยร้ายสำหรับผู้หญิงอย่างแท้จริง รศ.นพ. วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ เลขาธิการสมาคมนรีเวชไทย กล่าวว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศไทย ปัจจุบันเป็นอันดับ 2 ในแง่ของคนไข้ใหม่ อันดับหนึ่งคือมะเร็งเต้านม สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงไทยเสียชีวิตมากที่สุดคือ มะเร็งปากมดลูก เสียชีวิตโดยประมาณ 4,000-5,000 รายต่อปี หรือวันละ 12 คน

วัคซีนเพื่อน้องป้องกันมะเร็งปากมดลูก

        คนส่วนใหญ่คิดว่ามะเร็งเป็นกรรมพันธุ์ แต่สาเหตุการเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง เป็นการติดเชื้อ ซึ่งเชื้อตัวนี้เรียกว่า เชื้อไวรัส HPV การติดเชื้อตัวนี้ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดติดทางเพศสัมพันธ์ เพราะเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่บริเวณอวัยวะเพศ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย การป้องกันจากเชื้อไวรัสชนิดนี้คือให้มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันเชื้อ HIV เชื้อซิฟิลิส หนองใน หนองเทียม ได้

     รศ.นพ. วิชัย กล่าวต่อว่า ในการป้องกัน มี 3 ส่วนหลักคือ 1. การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย คือการอย่ามีกิ๊ก มีคู่นอนหลายคนเพราะมีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น หากมีความจำเป็นจริงๆการใส่ถุงยางอนามัยช่วยได้บ้าง ในยุคนี้เด็กไทยมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุ 13-15 ปี การป้องกันที่ดีคืออย่ามีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร

วัคซีนเพื่อน้องป้องกันมะเร็งปากมดลูก

      2. การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เป็นการตรวจประจำปี เช่น การตรวจภายใน การตรวจแปปสเมียร์ ปัจจุบันมีอุปกรณ์ตรวจด้วยตัวเอง เพียงนำอุปกรณ์ขนาดเท่าแท่งปากกาสอดเข้าไปในช่องคลอด เอาสารหรือน้ำที่อยู่ในช่องคลอดมาก็สามารถตรวจได้ และ 3. นวัตกรรมใหม่การฉีดวัคซีน HPV วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ฉีดที่แขนร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาป้องกันได้ในระดับ 80-90% ยังมี 10-20 %ที่เสี่ยง ฉะนั้นจะฉีดวัคซีนแล้วแต่แนะนำให้ไปตรวจภายใน ตรวจดูมดลูก ดูรังไข่ ดูซีสต์ ช็อกโกแลตซีสต์

     “การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกนั้นใช้วิธีฉีดเข้ากล้ามเนื้อมี 2 รูปแบบ คือ 1.ฉีดวัคซีนจำนวน 2 เข็ม(ฉีดในเดือนที่0 และเดือนที่ 6) สำหรับผู้หญิงอายุ 9-14 ปี และ 2.ฉีดวัคซีน 3 เข็ม (ฉีดในเดือนที่ 0,1 หรือ 2และ6) สำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป หากเคยมีเพศสัมพันธ์แล้วควรตรวจแปปสเมียร์เพื่อหาเชื้อHPVก่อนฉีดวัคซีน และควรตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากมีเชื้อ HPV บางสายพันธ์ที่วัคซีนไม่ครอบคลุม” รศ.นพ.วิชัย กล่าวทิ้งท้าย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ